ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา นิยาย บท 5

เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยัน

แล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่

จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้น

เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็น

เบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย

" ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ

การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า

จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด

อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า "

เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก

ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัว

เธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้

แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว

ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไป

เธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า

" ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก

ฉันเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของบริษัท และเป็นคนที่เหมาะสมกับพี่ที่สุด

หากพี่คิดจะปฏิเสธการหมั้นระหว่างเรา นอกจากจะเสียหุ้นไป30%แล้ว

อาจจะเสียทั้งนักลงทุนและผู้ถือหุ้นรายอื่นไปด้วย

หากข่าวการตัดความสัมพันธ์ของตระกูลเราสองคน

ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อฉันลาออกตำแหน่งรองประธานบริษัท

บริษัทพี่อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยนะ พี่กลับไปคิดทบทวนให้ดีๆ "

ณัชชารู้ดีว่าจุดอ่อนของเตชินคือบริษัท เพื่อบริษัทแล้วเตชินยอมทุ่มเทสุดกำลังแรงใจที่มี

ต่อให้ต้องเลือกระหว่างคนรักกับบริษัทเตชินก็เลือกบริษัท

เพราะเตชินจะไม่ทิ้งความสำเร็จในอนาคตเพื่อคนรักคนเดียวข้อนี้เธอรู้ดี

เตชินบีบแขนณัชชาด้วยความเดือดดาล

เขาคิดไม่ถึงว่าโตมาเธอจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ถึงขั้นมาขู่เขาแบบนี้

เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้จนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้ว

แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นอย่างไร้หัวใจว่า

" ณัชชาเธอคิดว่าคุ้มแล้วเหรอ ที่จะมาบีบบังคับกันด้วยวิธีนี้

ได้หมั้นกับฉันสมใจเธอแล้วยังไง เธอรับได้เหรอที่จะถูกทิ้งไว้บนหิ้ง

อยู่อย่างแม่หม้าย มีสามีแต่ก็เหมือนไม่มี เธอคิดดีแล้วเหรอ

หากคิดดีแล้วคิดจะหมั้น จะแต่งงานกับฉันให้ได้งั้นก็เตรียมรับชะตากรรมที่น่ารังเกียจได้เลย "

ณัชชาจ้องมองเตชินด้วยแววตาที่แข็งกร้าวแต่ลึกๆแล้วกลับแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ แล้วเธอก็เอ่ยขึ้น

" แค่ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ถึงต้องอยู่บนหิ้ง ฉันก็ยอม "

ได้ยินแบบนี้เตชินถึงกับผลักเธอออกห่างจากตัวด้วยความรังเกียจ เอ่ยเพียงว่า

" ดี ดีมาก เธอเลือกเองนะ "

เอ่ยจบก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีณัชชาอีกต่อไป

ปล่อยให้เธอยืนร้องให้ด้วยความน้อยใจอยู่ข้างหลังคนเดียว

ระหว่างทางเตชินนั่งในรถด้วยสีหน้านิ่งและเงียบขรึม

เขากำลังคิดแก้ปัญหาเกี่ยวกับการหมั้นที่จะเกิด

หมั้นไม่เท่าไหร่แต่หลังจากแต่งงานไปแล้วนี่สิ

เขาจะต้องทำยังไงให้ณัชชายอมแพ้และหมดความอดทนจนเลิกรักเขาไป

เมื่อกลับไปถึงบ้านก็หกโมงเย็นแล้ว เขาเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็น

แล้วยกขึ้นมาดื่มเพื่อให้ตนเองสดชื่น

ดื่มน้ำเสร็จเขาก็เดินขึ้นไปบนห้องทันทีด้วยความเหนื่อยหน่าย

ผู้ช่วยคังส่งข้อความไปหาพิม

( คุณพิม คุณชายให้ผมไปส่งคุณไปซื้ออาหารและของใช้ส่วนตัวครับ ผมรออยู่หน้าบ้านนะ )

พิมเปิดอ่านข้อความเสร็จเธอก็ตอบไปว่า

( โอเคค่ะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ )

ตอบข้อความเสร็จเธอก็ไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป

ด้วยชุดลำลองที่ใส่สบายๆ สวมรองเท้าผ้าใบเก๋ๆรวบผมขึ้นหลวมๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

เมื่อไปถึงเธอก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งในรถ

เตชินที่อยู่ข้างบนมองออกไปนอกหน้าต่างพอดีเห็นแผ่นหลังของพิมแวบหนึ่ง

ก็บ่นพึมพำออกมาคนเดียวว่า

" ป้าแม่บ้านคนนี้รูปร่างผอม แต่ดูแลผิวดีใช้ได้ "

จากนั้นเขาก็หันมาสนใจงานในคอมของเขาต่อ

ในตอนเช้า เตชินตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้า เมื่อออกกำลังกายเสร็จ

เขาเดินเข้าไปในห้องครัวเปิดตู้เย็นออกมาเพื่อหยิบน้ำดื่ม

แต่ก็ต้องตกใจกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยอะไรก็ไม่รู้มีแต่ของไร้ประโยชน์ในสายตาเขา

แล้วเขาก็พึมพำออกมาอย่างไม่ชอบใจ

แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะเข้าใจว่าคนแก่ไม่รู้เรื่อง

" ป้าแม่บ้านคนนี้นี่ ไม่รู้หรือไงว่าการที่ทานแต่ของพวกนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพน่ะ

สงสัยจะต้องเตรียมไว้ให้เองซะแล้วจะได้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่ช่วยดูแลงานบ้านไปนานๆ "

พึมพำเสร็จก็ไปหยิบถุงขยะ เอาของที่ไม่มีประโยชน์ในตู้เย็นทิ้งจนหมดเกลี้ยง

แล้วออกไปซื้อของคนเดียวในซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้ออาหารที่มีประโยชน์

เครื่องดื่มก็ซื้อแบบไม่มีน้ำตาล โยเกิร์ตก็ซื้อ

ที่แคลลอรี่ต่ำ ไขมัน0%

ซื้อนมที่บำรุงกระดูกสำหรับคนแก่มาให้เธอ รวมถึงซื้อข้าวกล้องและธัญพืชต่างๆไว้ให้พร้อม

แล้วกลับมาจัดใส่ในตู้เย็นให้อย่างเป็นระเบียบเหมือนเดิม

จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปห้องไปเพื่อไปอาบน้ำ ไม่นานเขาก็ออกมาจากห้อง

เดินลงมาแล้วออกจากบ้าน ไปขึ้นรถแล้วขับรถออกไป

พิมตื่นขึ้นมาเธอไปอาบน้ำแต่งตัว ล้างหน้า

แปรงฟัน แล้วเริ่มทำงานบ้านตามปกติ

ตอนบ่ายเธออยากกินส้มตำ จึงคิดจะทำส้มตำกิน

แต่พอเธอไปเปิดตูเย็น ก็ถึงกับไม่มีความอยากอาหารอีกต่อไป

เมื่อของโปรด ของชอบเธอหายเกลี้ยงไปเพียงแค่ชั่วค่ำคืนเดียว

ถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่เธอไม่ชอบเกือบทั้งหมด เธอกัดฟันมองตู้เย็นอย่างอารมณ์เสียแล้วบ่นออกมา

" เป็นฝีมืออิตาเจ้าของบ้านแน่เลย นี่กะจะให้เรากินแต่ของพวกนี้รึไง

ไม่รู้หรือไงว่าคนทำงานเหนื่อยๆร่างกายก็ต้องการน้ำตาล เพลียจิตกับอิตาคนนี้ "

จากั้นเธอก็ทำสีหน้ายอมจำนนพร้อมกับเอ่ยอย่างคอตกปลอบใจตัวเองว่า

" ช่างเหอะ เขาเป็นเจ้าของบ้านแถมเป็นนายจ้างที่ให้เงินดี

ทนๆ ยอมๆเขาไปก่อนแล้วกัน กินเท่าที่มีไปก่อนนะเรา "

พูดจบเธอก็เริ่มทำส้มตำรสแซ่บ เผ็ด เปรี้ยว หวานหน่อยๆ หอมปลาร้านิดๆ รสชาตินัวๆแซ่บๆ

แล้วเธอก็นั่งกินคนเดียวอย่างเอร็ดอร่อย เพลินจนลืมความไม่พอใจไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา