ตอนที่ 1488 หนี่งหมัดสยบศัตรู
“ตูม…” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ภายหลังเสียงดั่งสนั่นนี้จบลง เหมือนว่าฟ้าดินทั่วทั้งบริเวณนี้ไร้เสียง ผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆ เลยแม้แต่น้อยนิด เหมือนกลายเป็นคนหูหนวกไปแล้วอย่างนั้น
หนึ่งหมัดทลายโลกา สิบหมัดรวมเป็นหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเองหมัดนี้ได้สำแดงพลังจนถึงขีดสุด กระทั่งจากขีดสุดหนึ่งก้าวข้ามไปถึงอีกขีดสุดหนึ่ง ภายใต้หมัดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นเถ้าธุลี ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่แตกสลายไป
หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมก็ดี พลังแห่งฟ้าดินก็ช่าง แม้กระทั่งกาลเวลา ช่องว่าง กระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างของฟ้าดิน ล้วนแล้วแต่ถูกย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น
ภายใต้หมัดๆ นี้ ตราประทับสยบฟ้าพลันแตกสลายไป แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่สุดภูมิใจของเมิ่งเจิ้นเทียน แม้ว่ามันจะสืบทอดพลังลมปราณทั้งหมดของเมิ่งเจิ้นเทียนเอาไว้ก็ตามที แต่ทว่า ยังคงไม่สามารถรองรับกับอานุภาพของสิบหมัดรวมหนึ่งเอาไว้ได้ อย่าว่าแต่หมัดสยบฟ้าของเมิ่งเจิ้นเทียนเลย ต่อให้เป็นหมัดที่สามารถสยบฟ้าได้อย่างแท้จริง ภายใต้หมัดสิบหมัดรวมหนี่งแล้ว ยังคงต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป
ทั้งหมดนี้ไม่มีการสยบทำลาย หมัดนี้ไม่ได้สยบ มันเป็นการทำลายโดยตรง หนึ่งหมัดที่ทำให้ทุกสิ่งกลับไปสู่จุดดั้งเดิม ทุกอย่างไม่คงอยู่อีกต่อไป ทุกอย่างของทุกอย่างมลายไปในพริบตา!
ภายใต้หมัดๆ นี้ กระทั่งได้ยินเสียงดั่ง “คร๊ากก คร๊ากก” แม้แต่เวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ยังต้องปรากฎรอยร้าวเป็นริ้วๆ ออกมา เป็นรอยร้าวแตกลายงา เหมือนว่าเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์พร้อมจะพังทลายลงมาทุกเวลา
ภายใต้หนึ่งหมัดนี้ เวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ดูเลือนราง เหมือนเป็นจังหวะที่โลกเพิ่งก่อนตัวขึ้นมาใหม่อย่างนั้น เนื่องจากหมัดนี้ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปสู่จุดดั้งเดิม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลับไปอยู่ในลักษณะดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสสาร หลักกฎเกณฑ์ หรือช่องว่างกาลเวลา ล้วนแล้วแต่กลับไปยังจุดเริ่มต้น เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง จึงทำให้เวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์อยู่ในสภาพที่มองเห็นเลือนลาง
“ปัง…” จังหวะที่ตราประทับสยบฟ้าถูกทำให้แตกสลายไปนั้น ตัวของเมิ่งเจิ้นเทียนถูกหมัดนี้ซัดจนตกลงมาจากที่สูงบนท้องฟ้า กระแทกเข้ากับพื้นเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ด้านล่างอย่างแรง ทำให้พื้นเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์กลายเป็นร่องลึกและใหญ่มากขึ้นมา เหมือนว่าอีกเพียงนิดเดียว ร่างของเมิ่งเจิ้นเทียนก็สามารถกระแทกจนพื้นของเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ทะลุได้แล้วอย่างนั้น
เมื่อผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่สูญเสียการได้ยินและได้กลับสู่สภาพปรกติได้แล้วในเวลานี้ทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นเงียบสงบยิ่งนัก เงียบจนกระทั่งสามารถได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน
กระทั่งผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดไม่กล้าหายใจ ถูกสะเทือนหวั่นไหวจนหายใจไม่ออก ลักษณะของความหวั่นไหวเช่นนี้คล้ายดั่งมือขนาดใหญ่ทื่บีบคอของทุกคนอย่างแน่นหนาเอาไว้อย่างนั้น
เวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ถูกทำให้หวั่นไหว และอ้าปากต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ จนแล้วจนรอดก็พูดอะไรไม่ออก กระทั่งร้องอุทานเป็นเสียงแหลมดังก็ยังทำไม่ได้ ทุกคนไม่สามารถเปรียบถึงความรู้สึกที่ได้มองเห็นภาพนี้
แม้แต่ขุนพลชุดขาวที่เชื่อมั่นในอาจารย์ของตนตลอดมา ในเวลานี้ก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ในสายตาของเขานั้น เว้นแต่ระดับที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ปรากฎตัวออกมาเท่านั้น มิฉะนั้นแล้ว โลกนี้จะไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะอาจารย์ของเขาได้
แต่ทว่า ในขณะนี้ อาจารย์ของเขากลับถูกคนอื่นซัดจนตกลงมาจากท้องฟ้า และกระแทกเข้ากับพื้นเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์อย่างรุนแรง ภาพเช่นนี้เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของขุนพลชุดขาวจนละเอียด เป็นการเหยียบทำลายฐานะของเมิ่งเจิ้นเทียนภายในใจของเขา!
เรื่องราวเช่นนี้หากเป็นก่อนหน้านั้นมันคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า มาวันนี้ ขุนพลชุดขาวกลับได้มาเห็นกับตาตนเอง สิ่งนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วมันน่าสะเทือนหวั่นไหวมากกว่าเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น!
คนที่ถูกทำให้ต้องหวั่นไหวใช่จะมีเพียงขุนพลชุดขาวเท่านั้น บรรดาผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ถูกทำให้หวั่นไหวจนพูดอะไรไม่ออก โดยเฉพาะผู้ที่ให้การสนับสนุนต่อเมิ่งเจิ้นเทียนตลอดมา นาทีนี้จะรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง สิ้นหวังจนกระทั่งเกิดอาการบิดตัวของกระเพาะอาหาร ถึงกับอยากก้มลงไปอาเจียนออกมา
“ซ่าาา…” เศษดินและหินปลิวกระจาย เมิ่งเจิ้นเทียนพุ่งตัวออกมาจากภายในร่องลึกของเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ สภาพของเขาในเวลานี้ดูแย่ บนตัวเต็มไปด้วยเลือด เกรงว่าคงเป็นครั้งที่เขาต้องตกที่นั่งลำบากมากที่สุดตั้งแต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นต้นมา
“ดี ดี ดี แข็งแกร่งมาก” เมิ่งเจิ้นเทียนเหินฟ้าขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ดวงตาทั้งสองของเขายังคงส่งประกายเจิดจ้าแลดูแสบตายิ่งนัก ถึงแม้เวลานี้เขาจะเต็มไปด้วยเลือดบนตัว แต่ว่า ยังคงมีลักษณะท่าทางที่ฮึกเหิมและลำพองใจ ยังคงมีพลังลมปราณที่รุนแรง ยังคงมีท่าทีที่พร้อมสยบเหล่าชั้นฟ้าเหมือนเดิม!
บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ให้การสนับสนุนเมิ่งเจิ้นเทียนตลอดมานั้น มองเห็นลักษณะท่าทางที่ฮึกเหิมและลำพองใจ และยังคงมีพลังลมปราณที่รุนแรงแล้ว ทำให้โล่งอกลึกๆ ในใจ ถึงกับพึมพำออกมาว่า “เมิ่งเจิ้นเทียนย่อมเป็นเมิ่งเจิ้นเทียน! ”
กล่าวสำหรับผู้ให้การสนับสนุนเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว ขอเพียงเมิ่งเจิ้นเทียนยังคงมีชีวิตอยู่ก็ยังคงมีโอกาส เฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว ขอเพียงมีชีวิตอยู่ก็มีโอกาสเริ่มต้นได้ใหม่
ความจริงแล้ว กล่าวสำหรับผู้ที่ก้าวมาถึงระดับนี้ความล้มเหลวหาใช่เป็นเรื่องน่าอาย การแย่งชิงชะตาฟ้าเป็นเรื่องที่โหดร้ายทารุณตลอดมา ดาวรุ่งผู้ปราดเปรื่องน่าทึ่งมากมายเพียงใดที่เคยล้มเหลวมาก่อน แม้กระทั่งราชันเซียนในวัยหนุ่มก็เคยผ่านการล้มเหลวมาก่อนเช่นกัน!
“หลี่ชิเย่ ไม่เสียทีที่ได้รับฉายาว่าคนโหด กลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนี้คงมีแต่เขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเพียงพอในการแย่งชิงชะตาฟ้ากับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว กลุ่มคนรุ่นใหม่ในแดนวิญญาณสวรรค์ที่สามารถเอาชนะเมิ่งเจิ้นเทียนได้ ก็คงมีแต่หลี่ชิเย่เท่านั้น” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนถึงกับรู้สึกภูมิใจในตัวของหลี่ชิเย่ เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...