ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1608

ตอนที่ 1608 อดีตลับสุดยอด

ยวีไท่จวินส่ายหน้าเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ กล่าวว่า “ต่อให้กู้จุนลากลงน้ำ หากใต้เท้าต้องการเป็นเซียน พรรคเซียนเหินจะทำอะไรใต้เท้าได้ ต่อให้พรรคเซียนเหินยกพลออกมาทั้งหมดก็ขวางการก้าวเดินของใต้เท้าไม่ได้”

หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวไปตามอารมณ์ว่า “เช่นนั้นแล้ว พรรคเซียนเหินต้องขอให้ตัวเองนั้นโชคดีแล้วล่ะ ถ้าหากพวกเขามีตา ยังคงสามารถอยู่รอดต่อไปได้ แต่หากตาของพวกเขาไปอยู่ด้านหลังเสียหมด จัดการทำลายพวกเขาเสียให้หมดก็เท่านั้น”

ยวีไท่จวินชินเสียแล้วกับคำพูดลักษณะเช่นนี้ กล่าวสำหรับผู้คนทั่วไปแล้ว พรรคเซียนเหินคือสถานที่ที่พยัคฆ์หมอบมังกรเร้นกาย เต็มไปด้วยยอดฝีมือจำนวนมาก เรียกได้ว่าได้รับความเคารพสูงสุดในเก้าแดน แต่ว่า กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว พรรคเซียนเหินก็แค่เป็นสำนักขนาดใหญ่เท่านั้น หากต้องการทำลายเสียก็ทำได้เลย แน่นอนที่สุด มิฉะนั้นแล้วพรรคเซียนเหินคงไม่ถึงกับไม่ปรากฎตัวออกมาถึงสามยุค!

“อันที่จริง พรรคเซียนเหินน่าจะรู้ความจริงเกี่ยวกับใต้เท้าจึงจะถูก”

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เจ้าเกิดมาในยุคของราชันเซียนหยินเทียน ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพรรคเซียนเหินดีนัก โครงสร้างอำนาจของพรรคเซียนเหินไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด พรรคเซียนเหินมีอาณาเขตที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาเหนือท้องฟ้าที่ไกลออกไป พวกเขามีประชากรจำนวนนับไม่ถ้วน มีศิษย์นับล้าน กระทั่งถึงสิบล้านคน”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่หยุดอยู่นิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “โครงสร้างอำนาจของพรรคเซียนเหินนั้น หากพูดให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือ ปกครองร่วมโดยขั้วอำนาจห้าสาย แน่นอน ทั้งห้าสายนี้สลับสับเปลี่ยนกันไปมาซึ่งกันและกัน สับสนปนเป มีความแตกต่างกันในทุกยุคทุกสมัย สายไหนครองความได้เปรียบและสามารถยึดกุมอำนาจเอาไว้ได้ นโยบายของยุคนั้นก็จะมีทิศทางไปทางสายนั้น”

“แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสายไหนของพรรคเซียนเหินได้กุมอำนาจก็ตาม พวกเขาต้องไม่กล้ากระตุกหนวดเสือใต้เท้าจึงจะถูก โดยเฉพาะสายของราชันเซียนทุนเย่อ และสายของราชันเซียนป้าเมียด ขุนพลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของพวกเขาถือว่าภักดีต่อใต้เท้าอยู่” ยวีไท่จวินกล่าว

“ยุคสมัยเปลี่ยนไป” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “พรรคเซียนเหินก็มีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งไปกว่านั้น ราชันเซียนทุนเย่อ และราชันเซียนป้าเมียดไม่นับเป็นศิษย์ของข้า พวกเขาเพียงได้รับบุญคุณและรับการชี้แนะจากข้าเท่านั้นเอง”

ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ได้หยุดนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเองก็มีสิ่งที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง จะอย่างไรเสีย พรรคเซียนเหินก็มีกฎของพรรคเซียนเหิน แม้พวกเขาเคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาล้วนแล้วแต่มีอายุมากแล้ว ไม่เห็นว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในพรรคเซียนเหินเอาไว้ได้”

“หากพรรคเซียนเหินเป็นศัตรูกับใต้เท้าจริง ได้แต่โทษพวกเขาที่ถูกใบไม้บังตา มองไม่เห็นภาพใหญ่ รนหาที่ตายเอง”

หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยแลกล่าวว่า “แน่นอน ข้ามองว่าโอกาสที่พรรคเซียนเหินจะรนหาที่ตายเองมีอัตราที่สูงมาก ผลกระทบจากราชันเซียนเหรินเสียนมีมากเหลือเกิน เกรงว่าสายของเขาคงเข้มแข็งมากแล้ว”

“ราชันเซียนเหรินเสียน!” ยวีไท่จวินถึงกับขมวดคิ้ว กล่าวว่า “หรือว่าราชันเซียนเหรินเสียนในครานั้นยังคงแค้นเคืองใต้เท้าอยู่ ดังนั้น จึงจงใจทิ้งทางหนีทีไล่เอาไว้ เป็นศัตรูกับใต้เท้า”

“ตัวของราชันเซียนเหรินเสียนเองกลับควบคุมตนเองได้ดี ไม่ว่าเขาจะมีชาติกำเนิดอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเลือดที่ไหลรินอยู่บนตัวคือสายเลือดอะไร เขาก็คือราชันเซียนรู้เท่าทันว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ดังนั้น หลังจากที่เขาได้เป็นราชันเซียนแล้ว และประสบความสำเร็จสูงมาก แต่เขายังคงควบคุมตนเองได้ดีมาก และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาตั้งฉายาตัวเองว่า ราชันเซียนเหรินเสียน!”

“นี่ก็คือการตั้งใจแสดงท่าทีความเป็นมิตรต่อใต้เท่า และเป็นการบ่งบอกชัดเจนถึงชาติกำเนิดและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของเขา เป็นการประกาศว่าเขามีชาติกำเนิดเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์” ยวีไท่จวินที่รับรู้ถึงเบื้องหลังบางอย่างถึงกับเอ่ยขึ้นมา

ครั้งนั้น พรรคเซียนเหินได้คัดเลือกให้ราชันเซียนเหรินเสียนเข้าสู่ยุทธภพเพื่อครอบครองชะตาฟ้า แต่ว่า ครั้งนั้นสืบเนื่องจากเรื่องของสายเลือด หลี่ชิเย่ไม่เห็นด้วยให้ราชันเซียนเหรินเสียนได้ครอบครองชะตาฟ้า ซึ่งในยุคนั้น พรรคเซียนเหินกลับตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะบ่มฟักราชันเซียนองค์ที่ห้าขึ้นมา

ดังนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้หลี่ชิเย่และพรรคเซียนเหินทะเลาะกันจนจบลงด้วยการเลิกรากันไปแบบไม่สบอารมณ์ แต่ทว่า พรรคเซียนเหินในขณะนั้นยังได้ให้คำมั่นสัญญาต่างๆ นานาต่อหลี่ชิเย่ สาบานด้วยเลือด แม้แต่ราชันเซียนเหรินเสียนเองก็กล่าวคำสาบานเอาไว้!

สุดท้าย ภายใต้คำสาบานต่างๆ นานา และคำสาบานเลือด หลี่ชิเย่จึงมีท่าทีนิ่งเงียบกับเรื่องนี้

ในยุคนั้น หลังจากราชันเซียนเหรินเสียนที่อยู่ในวัยหนุ่มได้เข้าสู่ยุทธภพแล้ว เขาไม่ทำให้พรรคเซียนเหินต้องผิดหวังเลยจริงๆ ท้ายที่สุด เขาเกรียงไกรไปทั่วเก้าแดน กลายเป็นราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค

แม้ว่า ราชันเซียนเหรินเสียนในยุคนั้นปราศจากผู้ต่อกรแล้ว แต่ เขายังคงรักษาคำมั่นสัญญาของตน ยังคงให้ความเคารพยิ่งนักต่อผู้ดำรงอยู่ในสถานะอีกาทมิฬ

เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง หลังจากที่ราชันเซียนเหรินเสียนได้สืบทอดชะตาฟ้าแล้ว จึงได้ตั้งฉายาของตนเองว่า “เหรินเสียน” เป็นการแสดงความเป็นมิตรต่อหลี่ชิเย่ และก็ยกเอาชาติกำเนิดของตนมาบังหน้า เพื่อทำให้สายเลือดของตนดูดี

“แม้ว่าข้าไม่เห็นด้วยกับการครอบครองชะตาฟ้าของราชันเซียนเหรินเสียน แต่ทว่า หลังจากที่เขาได้เป็นราชันเซียนแล้วก็นับว่าทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจ หรือจงใจ อย่างน้อยที่สุดเขาได้รักษาคำมั่นสัญญาของตนมาโดยตลอด ในหลายๆ เรื่องเขาก็ควบคุมตนได้ดีมาก เขาไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทางเพียงเพราะเขาคือราชันเซียน หรือพรรคเซียนเหินคือหนึ่งสำนักห้าราชันเซียนแล้ว…”

หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “…จุดนี้เขาทำได้ไร้ที่ติ แต่ปัญหาเกิดจากชนรุ่นหลังที่เป็นทายาทรุ่นหลังของเขา พวกเขาเข้าใจเองว่าพรรคเซียนเหินคือผู้บงการเก้าแดนที่แท้จริง สายเลือดของพวกเขาคือสายเลือกที่ตรง แกร่งและล้ำค่ามากที่สุด ทำให้เกิดความบ้าระห่ำขึ้นในใจ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล