ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังหารือกับจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังนั้นเอง จินเก๋อยังคงนั่งตัวตรงอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ รอคอยโอกาสสืบทอดชะตาฟ้าที่เหมาะสมที่สุด ในเวลานี้บนท้องฟ้าได้มีรวมตัวของพลังได้แข็งแกร่งอย่างเพียงพอแล้ว และชะตาฟ้าได้ปรากฏขึ้นเลือนราง
ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า คราวนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลอบโจมตีได้สำเร็จแน่ เมื่อมองเห็นตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่มีกองทัพนับล้านคอยเฝ้ารักษา กระทั่งมีระดับจอมเทพแต่ละองค์ที่มาด้วยตนเอง
เสียง “ตูม…” ดังสนั่น ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ท้องฟ้าสั่นไหวโคลงเคลงไปมา เส้นทางราชันสูงสุดสายหนึ่งพลันก้าวข้ามจากฟากฟ้าอีกด้านหนึ่ง มาถึงด้านนอกภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทันที
นาทีนี้เอง เสียง “ตูม ตูม ตูม” ดังตูมตามเป็นระลอกไม่ขาดสาย อานุภาพราชันเซียนพลันตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดินในทันที ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากหายใจไม่สะดวกภายใต้อานุภาพราชันเซียนนี้ ผู้ที่มีทักษะอ่อนด้อยถึงกับต้องคุกเข่าลงกับพื้นโดยตรง ถูกอานุภาพจอมราชันสยบจนกระทั่งโงหัวไม่ขึ้น
“จอมราชัน…” พริบตาเดียวนี้เอง ผู้คนจำนวนมากต่างถูกทำให้ต้องตระหนก รวมทั้งกองทัพนับล้าน และจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่อยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ การปรากฏตัวของจอมราชันผู้หนึ่งอย่างกะทันหันจะไม่ทำให้พวกเขาต้องตกใจได้อย่างไรกันเล่า
การปรากฏตัวของจอมราชันอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกตึงเครียด โดยเฉพาะตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ถ้าหากจะมีจอมราชันสักองค์โจมตีใส่จินเก๋อล่ะก็ ต้องเป็นเรื่องที่อันตรายมากอย่างแน่นอน
“แว้งค์…” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นเองปรากฎร่างเงาที่อันธพาลปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นที่ขอบฟ้า เขาก้าวขึ้นเส้นทางจอมราชันในก้าวเดียว และก้าวต่อมาก็ได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว
นาทีต่อมา จอมราชันผู้นี้ก็ได้ยืนอยู่ด้านนอกของยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนที่มองไปล้วนแล้วแต่สามารถมองเห็นหน้าของจอมราชันผู้นี้ได้อย่างชัดเจน
“ราชันสวรรค์ขวางเส้า” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นจอมราชันที่ด้านหลังมีกระบี่ราชันสามเล่มผู้นั้น
ระดับจอมเทพ และกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังต่างหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองเห็นเป็นราชันสวรรค์ขวางเส้า จะอย่างไรเสียราชันสวรรค์ขวางเส้าคือจอมราชันของเผ่าสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังยังมีบุญคุณต่อจอมราชันขวางเส้า โอกาสที่เขาจะลงมือโจมตีจินเก๋อนั้นมีน้อยมาก
แน่นอนที่สุด ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังยังคงไม่กล้าตั้งอยู่ในความประมาท ยังคงระมัดระวังตัวอย่างลับๆ เนื่องจากจอมราชันขวางเส้าเป็นเป็นจอมราชันที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย เขาเป็นจอมราชันที่อวดดีอย่างยิ่งคนหนึ่ง ทำอะไรไม่เคยคำนึงถึงผลที่จะตามมา มักจะทำตามอำเภอใจเสมอๆ ดังนั้น ทางด้านระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็กังวลว่าจอมราชันขวางเส้าเกิดนึกสนุกอะไรขึ้นมา แล้วบังเกิดความคิดที่จะโจมตีจินเก๋อขึ้นมากะทันหัน
“จอมราชันเสด็จนับว่านำความสว่างไสวมาให้ ขออภัยที่ไม่ทันได้ออกไปต้อนรับ โปรดให้อภัย” หลังจากที่จอมราชันขวางเส้ามาถึงแล้ว ระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังรีบเข้าไปแสดงคารวะแบบจีน ยิ้มกล่าวให้การต้อนรับ
จอมราชันขวางเส้ากวาดสายตามองออกไป เขาเองนับเป็นผู้ที่มีความฉลาดยิ่ง หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “จอมเทพไป๋ วิธีการเช่นนี้เก็บเอาไว้เถอะไม่ต้องมาเล่นกับข้า ข้าเองไม่ได้ต้องการมาโจมตีรุ่นเยาว์ของพวกเจ้า ได้ข่าวว่าเจ้าคนแซ่หลี่มาก่อกวน ดังนั้น ข้าจึงมาเพื่อช่วยเหลือพวกเจ้าอีกแรงโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นการชดใช้คืนบุญคุณของผู้อาวุโสจ้านหวังในครั้งนั้น”
ที่แท้เมื่อครั้งกระนั้นจอมราชันขวางเส้าถูกเทพโบราณกุยฝานที่โกรธจัดตามไล่ฆ่าจนหมดที่พึ่ง ต่อมาภายหลังสวรรค์ได้ออกหน้าหย่าศึกในครั้งนี้ ซึ่งในการนี้ราชันสวรรค์จ้านหวังเคยเสนอหน้าออกมาช่วยพูดเจรจาให้ ซึ่งมีส่วนช่วยจอมราชันขวางเส้าได้มากทีเดียว
ระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังหัวเราะเจื่อนๆ เมื่อราชันสวรรค์ขวางเส้ารู้ทัน แต่เขาเป็นผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย ยังคงรักษาอาการที่ไม่สะทกสะท้าน แสดงคารวะต่อราชันสวรรค์ขวางเส้าอย่างงาม และกล่าวว่า “จอมราชันปกป้องผู้เยาว์ นับเป็นบุญคุณต่อตระกูลดั่งขุนเขา ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังจะจดจำไว้มั่นในใจ”
“เจ้าหนูแซ่หลี่นั้นอยู่ไหน?” ราชันสวรรค์ขวางเส้าเป็นผู้ที่อวดดีมาก และไม่ตอแยกับจอมเทพผู้นี้ กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าจะต้องสังหารให้ได้ด้วยมือของข้าเอง!”
ราชันสวรรค์ขวางเส้าต้องเสียเปรียบด้วยฝีมือของวานรกระดูกขาว ต้องสูญเสียพลังอย่างมากกว่าจะสังหารเจ้าวานรกระดูกขาวตัวนั้นได้ ทำให้ราชันสวรรค์ขวางเส้าแค้นเคืองในใจ หลังจากได้ของวิเศษมาแล้วจึงออกตามหาหลี่ชิเย่ หากไม่สังหารผู้เยาว์เช่นหลี่ชิเย่แล้ว ยากจะทำให้หายแค้นได้
“เรื่องนี้…” คำพูดของราชันสวรรค์ขวางเส้าพลันทำให้ระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังผู้นี้ถึงกับตอบไม่ถูก เขาเองก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ ข้างบนเป็นอย่างไร เนื่องจากจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังพวกเขาได้ปิดกั้นช่องว่างเอาไว้ พวกเขาไม่สามารถสอดแนมถึงสภาพภายในได้ พวกเขาไม่รู้ว่าระหว่างหลี่ชิเย่กับจอมราชันทั้งสี่เป็นอย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกัน กล่าวสำหรับ ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว พวกเขาไม่สะดวกที่จะประกาศต่อบุคคลภายนอกว่าจอมราชันทั้งสี่ของพวกเขาได้มาอยู่ที่ตรงนี้แล้ว จะอย่างไรเสียต้นไม้ใหญ่ย่อมต้องลม ต่อให้มีผู้คาดเดาได้บ้าง ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังของพวกเขาก็จะไม่ยอมรับอยู่แล้ว
“ราชันสวรรค์จ้านหวังอยู่ที่นี่หรือไม่?” ราชันสวรรค์ขวางเส้ากวาดตามองออกไป ค้นหาไปทั่วทุกๆ เป้าหมายต้องสงสัย แต่กลับไม่พบอะไรเลย จะอย่างไรเสียจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังลงมือสยบช่องว่างด้วยตนเอง ขณะที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าเป็นเพียงจอมราชันที่มีหนึ่งชะตาฟ้าเท่านั้น การที่เขาค้นหาไม่พบร่องรอยของพวกราชันสวรรค์จ้านหวังก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอยู่แล้ว
ต่อให้ราชันสวรรค์ขวางเส้าสืบหาร่องรอยไม่พบ แต่เขาสามารถคาดเดาได้บ้าง การที่จินเก๋อกล้ามาสืบทอดชะตาฟ้าที่นี่ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
“จอมราชันขึ้นไปนั่งเล่นอยู่บนยอดเขาชั่วคราวดีหรือไม่? รอให้ผู้เยาว์สืบทอดชะตาฟ้าแล้ว ค่อยมาคุยเรื่องความหลังกัน” สำหรับคำถามของราชันสวรรค์ขวางเส้านั้น ระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเลี่ยงที่จะไม่ตอบ แต่เชื้อเชิญราชันสวรรค์ขวางเส้าให้ขึ้นไปบนเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...