ในเวลานี้ฟ้าดินเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาสักคำ ไม่ว่าใครก็ตามแววตาที่มองดูหลี่ชิเย่แล้วแสดงออกล้วนแปรเปลี่ยนไป เหมือนหนึ่งมองเห็นผีอย่างนั้น
การที่หลี่ชิเย่สังหารราชันสวรรค์ขวางเส้าก็ช่างเถอะ แต่กลับทำลายล้างเขาด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมทารุณ ในโลกนี้ยังจะมีสักกี่คนที่กล้าสังหารจอมราชันด้วยวิธีแบบนี้ แต่แล้ว มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับทำได้แล้ว
ยิ่งบรรดาระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง และกองทัพนับล้านที่อยู่บนยอดเขาด้วยแล้วถึงกับขนลุกซู่ในใจ แม้แต่ระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ยังถึงกับต้องสั่นเทิ้ม
นาทีนี้พวกเขาต่างรู้สึกโชคดีเงียบๆ ในใจกับความเฉลียวฉลาดและมองการณ์ไกลขององค์หญิงเทียนหวง หากไม่เป็นเพราะความเฉลียวฉลาดและมองการณ์ไกลขององค์หญิงเทียนหวง ไม่แน่นักพวกเขาคงปะทะกับหลี่ชิเย่นานแล้ว
ไม่ว่าผลของการปะทะในครั้งนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะ แต่สามารถคำนึงได้ว่า ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังของพวกเขาจะต้องจ่ายด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก
“เจ้าหนูคนนี้โหดมาก ควรห่างๆ ตัวเขาให้มาก” ในเวลานี้ แม้แต่ระดับจอมเทพก็ถูกทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่น ถึงกับร่างสั่นเทิ้มและห่างไกลจากหลี่ชิเย่เข้าไว้
กล้าทรมานกระทั่งจอมราชันองค์หนึ่งถึงตายได้ โลกนี้ยังจะมีเรื่องอะไรที่คนโหดอันดับหนึ่งไม่กล้าทำอีกเล่า? ดังนั้น ระดับจอมเทพที่อยู่ในเหตุการณ์จึงต้องเตือนตัวเองว่า จากนี้ต่อไปสมควรออกห่างจากคนโหดอันดับหนึ่งจึงจะถูก เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องตกอยู่ในกำมือของคนโหดอันดับหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าคงจะตายเสียดีกว่าอยู่ โดยมีราชันสวรรค์ขวางเส้าเป็นกรณีศึกษา
“นี่เป็นสัญญาณการประกาศศึกนะเนี่ย ถึงกับทรมานราชันสวรรค์ขวางเส้าจนตายต่อหน้าต่อตาผู้คนทั่วหล้า เกรงว่าบรรพบุรุษทั้งสามของราชันสวรรค์ขวางเส้าคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ” ระดับจอมเทพผู้หนึ่งพึมพำขึ้นมา
ราชันสวรรค์ขวางเส้ามีชาติกำเนิดมาจากตระกูลขุนนางโบราณ ตระกูลของพวกเขายังมีจอมราชันถึงสามองค์ อีกทั้งราชันสวรรค์ขวางเส้ายังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองกำลังนกหวีดน้อย
กองกำลังนกหวีดน้อยก่อตั้งขึ้นโดยราชันมารเซ่าเจี้ยน บวกกับราชันสวรรค์ขวางเส้า เท่ากับมีจอมราชันเซียนหวังถึงห้าองค์ พวกเขาที่เป็นจอมราชันเซียนหวังทั้งห้าได้คบหากันในฐานะพี่น้องร่วมสาบาน เคยดื่มเลือดสาบานมาก่อน
แม้จะกล่าวว่ากองกำลังนกหวีดน้อยห่างชั้นเทียบไม่ได้กับขบวนการเทียนฉวนที่เป็นกองกำลังที่เป็นหนึ่งไม่มีสองนั่น แต่การที่มันประกอบขึ้นจากจอมราชันเซียนหวังถึงห้าองค์ ยังคงมีกำลังที่ผู้คนจะดูแคลนไม่ได้
โดยเฉพาะจอมราชันเซียนหวังทั้งห้าของกองกำลังนกหวีดน้อยได้มีการดื่มเลือดสาบานมาก่อน พวกเขาจะก้าวไปด้วยกัน หรือก็คือหากผู้ใดเป็นศัตรูกับจอมราชันคนใดคนหนึ่ง ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับกองกำลังนกหวีดน้อยทั้งหมด
เวลานี้หลี่ชิเย่สังหารราชันสวรรค์ขวางเส้าต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า เกรงว่าบรรพบุรุษที่เป็นจอมราชันทั้งสามของราชันสวรรค์ขวางเส้า และกองกำลังนกหวีดน้อยคงไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้เอาไว้ได้
ในขณะนี้ทุกคนต่างไม่กล้าส่งเสียงออกมา กระทั่งมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ถูกทำให้ตกใจสุดขีด
“เริ่มจากการหาเรื่องกับอัศวินมังกรหลวง เวลานี้ก็ไปแหย่กองกำลังนกหวีดน้อยที่เป็นรังแตน นี่มันคือการประกาศศึกกับจอมราชันเซียนหวังแต่ละองค์ของชิงโจว” จอมเทพผู้หนึ่งพึมพำออกมาว่า “เกรงว่าพายุฝนฟ้าคะนองกำลังจะมาแล้วหละ!”
เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว ต่อให้เป็นระดับจอมเทพก็ยังต้องสั่นเทิ้ม และเตือนตัวเองว่าจะต้องห่างไกลจากพายุฝนฟ้าคะนองคราวนี้ให้ได้ หากไม่ทันระวังถูกดึงเข้าไปพัวพันด้วย เกรงว่าตัวเองคงไม่เหลือแม้แต่ซาก
ทั้งอัศวินมังกรหลวง และกองกำลังนกหวีดน้อยยังไม่นับเป็นสองกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของชิงโจว แต่ว่า หากมีใครสักคนไปหาเรื่องกับกองกำลังลักษณะเช่นนี้ เกรงว่าคงเป็นการรนหาที่ตายเอง จะอย่างไรเสียนี่เป็นการตั้งตนเป็นศัตรูกับกองกำลังระดับจอมราชันเซียนหวังเลยนะ
เวลานี้ หลี่ชิเย่อาศัยกำลังคนเดียวเพียงลำพังถึงกับไปหาเรื่องกับกองกำลังที่เป็นระดับจอมราชันเซียนหวังทั้งสองพร้อมกัน นับว่าอันธพาลยิ่งนัก ต้องเป็นคนประเภทไหนกันแน่ที่กล้าอาศัยกำลังเพียงลำพังคนเดียวไปหาเรื่องกับกองกำลังทั้งสองที่เป็นระดับจอมราชันเซียนหวังได้?
ดังนั้น ยอดฝีมือและระดับจอมเทพที่มีประสบการณ์ต่างก็สามารถคาดเดาได้ลางๆ ว่า จะต้องปรากฏพายุฝนฟ้าคะนองขึ้นที่ชิงโจวอย่างแน่นอน ส่วนที่ว่าพายุฝนฟ้าคะนองคราวนี้มีความรุนแรงและน่ากลังเพียงใดนั้น คงไม่สามารถรู้ได้
ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ขอเพียงหลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนี้ จะไม่มีใครกล้าหายใจแรง ผู้คนจำนวนมากต่างเกรงกลัวต่อคนโหดอันดับหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าเสียแล้ว เขาคือคนโหดที่แท้จริง ไม่เสียทีที่ได้รับฉายาคนโหดอันดับหนึ่ง
หลี่ชิเย่เพียงมองดูจินเก๋อที่นั่งอยู่บนปะรำพิธีสูงนั่นทีหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา หันหลังไปจากที่ตรงนี้ทันที
เมื่อพวกของซึหุนหลินได้สติกลับมาจึงรีบติดตามไปให้ทัน ในเวลานี้แม้แต่พวกของซึหุนหลินก็ไม่กล้าหายใจแรงเช่นกัน
หลังจากที่มองส่งหลี่ชิเย่จากไปไกลแล้ว ไม่เพียงแต่บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ยืนมองในระยะห่างไกลเท่านั้น แม้แต่กองทัพที่มีไพร่พลนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง และระดับจอมเทพแต่ละองค์ พวกเขาถึงกับรู้สึกโล่งอกเหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างนั้น หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปไกลแล้ว พวกเขารู้สึกเหมือนได้ส่งเทพมฤตยูให้จากไปอย่างนั้น
พวกของหลี่ชิเย่เดินทางกลับไปถึงเรือนิรันดร ตลอดทางไม่เพียงพวกผู้เยาว์อย่างอู่ชี แม้แต่ซึหุนหลินเองก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง พวกเขาต่างเกรงว่าจะถูกหลี่ชิเย่สั่งสอนเอา
แน่นอน หลี่ชิเย่ไม่ได้ทำให้พวกเขาต้องลำบาก หลังจากกลับไปถึงเรือนิรันดรแล้วหลี่ชิเย่ก็กักตัวเองทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...