หลังจากเผ่ารอยโลหิตได้ไปจากแล้ว ฟ้าดินแห่งนี้ดูจะเงียบสงัดวิเวกวังเวง กระทั่งอยู่ในความเงียบงัน
หลี่ชิเย่มองดูแท่นบูชาแล้วถึงกับเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา และกล่าวว่า “กาลเวลาไม่มีสิ้นสุด ถ้าหากไม่ทำลายเจ้าเสีย ไหนเลยสามารถทำให้เสียงร้องของสรรพชีวิตที่เศร้าโศกชาติแล้วชาติเล่า ไม่สามารถเวียนว่ายตายเกิดชาติแล้วชาติเล่า สามารถไปผุดไปเกิดและสงบได้อย่างไรกันเล่า”
เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว แววตาของหลี่ชิเย่ส่งประกายบานเบ่งออกมา ปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวเต้นระริก ในส่วนลึกของดวงตาทั้งสองเหมือนก่อเกิดพายุที่ทำลายล้างโลกขึ้นมา
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่ได้หวนนึกถึงและมองดูสถานการณ์ที่ห่างไกลออกไป กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ข้าคือเพชฌฆาตของโลกมนุษย์ สมควรมีผู้ที่มารนหาที่ตายแล้ว อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมเกินไป ต้องโทษที่มีคนไม่รู้จักคำว่าตาย ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”
ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วอดที่จะมองดูแทนบูชานั่น เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “หลังจากสวรรค์ลงทัณฑ์ในครั้งนั้นแล้วก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายก็ยากที่จะรบกวนให้เจ้าต้องตระหนกตกใจได้ แต่ว่า ข้ากลับอยากจะพนันด้วยสักครั้งหนึ่ง ไม่เชื่อว่าจะล่อให้เจ้าออกมาไม่ได้ ไม่เชื่อว่าเจ้าจะหลับใหลหดหัวอยู่แต่ในรัง หากว่าปลาจะไม่ติดเบ็ดคงเป็นเพราะเหยื่อไม่หวานมันเพียงพอ”
หลี่ชิเย่จะร่วมมือกับนักปราชญ์สังหารผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในความมืด ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งและดึกดำบรรพ์ที่สุดของไกลกันดารนอนหลับไหลอยู่ในรังเก่าที่อยู่ลึกลงไปที่สุดใต้แท่นบูชาแห่งนี้นี่เอง
รังที่อยู่ลึกลงไปมากที่สุดแห่งนี้แข็งแกร่งมากจนไม่อาจตีให้แตกได้ คิดจะบุกตีเข้าไปเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ มันคือสถานที่ที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งไกลกันดารมีไว้ป้องกันชีวิตของเขา หากไม่มีหลักกฎเกณฑ์ดั้งเดิมของผู้ยิ่งใหญ่แล้วไม่สามารถเปิดออกได้
แม้ว่าบุกฝ่าเข้าไปภายในรังไม่ได้ แต่ว่า สามารถล่อให้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดมิดออกมาได้
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดมิดได้นอนหลับใหลอยู่ในรังเก่ามาเป็นเวลาที่ยาวนานสุดเปรียบเปรย นับตั้งแต่คราวก่อนที่ได้ร่วมมือกับผู้ที่มีความทะเยอทะยานสูง สร้างเผ่ารอยโลหิตขึ้นมาแล้วถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลย ครั้งนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น จึงหลบซ่อนอยู่ภายในหลังเก่าของตนและหลับใหลไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
กล่าวสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ระดับนี้แล้ว ต่อให้ข้างนอกเกิดฟ้าถล่มดินทลายขึ้นมา หรือโลกแตกสลาย ขอเพียงไม่มีสิ่งของ หรือเรื่องราวที่ทำให้เขาหวั่นไหวได้ เขาก็จะนอนหลับใหลอยู่อย่างนั้นไม่ตื่นขึ้นมา และหลบอยู่อย่างนั้นตราบชั่วฟ้าดินสลาย
กล่าวสำหรับผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดมิดผู้นี้แล้ว โลกนี้สิ่งที่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่ทว่า หลี่ชิเย่ยังคงมีวิธีสามารถล่อให้เขาต้องออกมาจากรังเก่าจนได้อยู่แล้ว
หลี่ชิเย่รู้ดีว่าที่ตนเองต้องเผชิญนั้นดำรงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งเพียงใด น่าสยดสยองเพียงใด ดังนั้น หลี่ชิเย่จึงไม่กล้าประมาท เขาได้สร้างสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดไว้ที่ตรงนี้ เรียกได้ว่าเพื่อสร้างสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมนี้ หลี่ชิเย่ได้อาศัยทรัพยากรปริมาณมหาศาล เป็นต้นว่าศิลาแกร่ง ศิลาขมุกขมัว โลหะเซียน โลหะศักดิ์สิทธิ์…ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่ถูกนำมาใช้สร้างสุดยอดสถานการณ์ในครั้งนี้
เรียกได้ว่าเพื่อสร้างสุดยอดสถานการณ์นี้แล้ว หลี่ชิเย่ได้พยายามพิจารณาใคร่ครวญอย่างสุดความสามารถ เรียกได้ว่าความรู้ความสามารถที่มีมาชั่วชีวิตล้วนแล้วแต่ถูกนำมาใช้ในการสร้างสถานการณ์ครั้งนี้
ขณะเดียวกัน เพื่อประกันให้การสร้างสุดยอดสถานการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน หลี่ชิเย่ถึงกับทุ่มแร่เซียนปีศาจระกาถึงสามสิบชิ้น กล่าวได้ว่าเป็นการทุ่มทุนครั้งมโหฬารของหลี่ชิเย่แล้ว
สมควรทราบว่า ครั้งนั้นขณะอยู่ที่เก้าแดน หลี่ชิเย่ได้ขอผลึกเซียนปีศาจระกาจากปีศาจระกามาได้แค่หนึ่งร้อยชิ้นเท่านั้นเอง เวลานี้เพื่อลอบโจมตีผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดผู้นี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับยอมลงทุนทุ่มแร่เซียนปีศาจระการวดเดียวถึงสามสิบชิ้น
ในยุคอเวจี เขาได้วางค่ายกลใหญ่เพื่อทำลายล้างอเวจีมาแล้วเช่นกัน ซึ่งในครั้งนั้น หลี่ชิเย่เพียงอาศัยแร่เซียนปีศาจระกาไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง
แต่ว่า มาคราวนี้หลี่ชิเย่ถึงกับใช้แร่เซียนปีศาจระการวดเดียวถึงสามสิบชิ้น ย่อมสามารถประเมินได้ว่า สงครามครั้งนี้มันน่าสยดสยองเพียงใดแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ขอเพียงสามารถสังหารผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดได้ ต่อให้ต้องทุ่มแร่เซียนปีศาจระกาถึงสามสิบชิ้นก็คุ้มค่า เนื่องจากหากสามารถสังหารผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดได้ ไม่เพียงทำให้หลี่ชิเย่สามารถชิงเอาทรัพยากรและของล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งหมดของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดมาได้เท่านั้น กระทั่งมีความเป็นไปได้ที่จะได้อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคมาด้วย
ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ถ้าหากสามารถสังหารผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดได้ ย่อมมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ยากจะหาใดเทียม ไม่เพียงเป็นการเตือนบรรดาคนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในความมืดเหล่านั้น ให้คนเหล่านี้ได้เข้าใจว่า โลกนี้ยังคงมีคนที่สามารถสังหารพวกเขาได้ ขณะเดียวกัน เป็นการจุดประกายแห่งความหวังในใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ในอนาคตหากความมืดปรากฎขึ้นมา ท่ามกลางความสิ้นหวังยังคงทำให้ผู้คนมีความหวังในใจว่า ยังคงสามารถกวาดล้างความมืดเหล่านั้นให้ราบคาบได้
เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่มีท่าทีโอนเอนไม่แน่นอนให้เข้าใจว่า พวกเขาควรเลือกที่จะยืนอยู่ฝ่ายไหน!
หลี่ชิเย่ได้พยายามพิจารณาใคร่ครวญอย่างสุดความสามารถ งัดเอาวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนออกมาใช้ ทำการสร้างสุดยอดสถานการณ์เอาไว้ที่นี่ อีกทั้งทุกๆ ขั้นตอน ทุกๆ รายละเอียดล้วนแล้วแต่มีการวางกลยุทธเอาไว้อย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติ เนื่องจากพวกเขาต้องเผชิญกับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่น่าสยดสยองยิ่งนัก หากแม้มีข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียว เท่ากับต้องแพ้ทั้งกระดาน
ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังวางแผนการณ์อย่างยากลำบาก ผู้คนส่วนใหญ่ของชิงโจวกำลังหลงระเริงอยู่กับข่าวสะเทือนฟ้ากรณีจินเก๋อได้บรรลุเป็นจอมราชัน สำหรับการได้เป็นจอมราชันของจินเก๋อนั้น มีทั้งผู้ที่ชื่นชมยินดี และมีผู้ที่รู้สึกกังวล แน่นอน ที่ดีใจมากที่สุดย่อมเป็นเผ่าสวรรค์แล้ว
จะอย่างไรเสีย เผ่าสวรรค์ได้ให้กำเนิดจอมราชันในยุคนี้แล้วถึงสององค์ นับว่าชาตินี้เผ่าสวรรค์ได้ช่วงชิงความได้เปรียบเอาไว้ก่อนได้มากมาย
แต่ว่า ว่าไปแล้วก็ให้รู้สึกแปลก ตัวของจินเก๋อเองไม่ได้แจ้งต่อใต้หล้าถึงการขึ้นเป็นจอมราชันของเขา และไม่ได้แสดงอำนาจบารมีของจอมราชันออกตรวจเยี่ยมไปทั่วสารทิศ หลังจากบรรลุเป็นจอมราชันแล้ว จินเก๋อดูจะทำตัวค่อมต่ำเป็นพิเศษ เงียบสงบเป็นพิเศษ
สมควรทราบว่า การที่ผู้บำเพ็ญตนสักคนสามารถบรรลุจนได้เป็นจอมราชันได้นั้น เป็นเรื่องที่เชิดชูต่อวงศ์ตระกูลอย่างแน่นอน ยิ่งไปว่านั้นการสืบทอดชะตาฟ้าได้ในครั้งเดียว ย่อมสามารถสร้างชื่อให้ในยุคสมัยของตนได้อย่างล้นเหลือ
เป็นความจริง การที่ผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งได้เป็นถึงจอมราชัน ย่อมมีคุณสมบัติที่จะประกาศต่อทั่วหล้า และตรวจเยี่ยมทุกสารทิศ เพื่อวางรากฐานเกี่ยวกับฐานะของตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...