ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2021

กลุ่มภูเขาขึ้นลงสลับ ในเวลานี้ ที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้มีนักศึกษามาถึงท่ามกลางภูเขาแต่ละลูกที่ตั้งอยู่ ทุกคนต่างรอคอยการเปิดของสวนชา

แน่นอน บริเวณเทือกเขาและกลุ่มของภูเขาที่บรรดานักศึกษาทั้งหมดอยู่ ณ ตอนนี้ยังไม่ใช่ส่วนชา เป็นเพียงทางเขาสวนชาเท่านั้นเอง

คิดจะเข้าไปในสวนชาจะต้องรอจนกว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าเปิดสวนชาออกมาก่อน หากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่เปิดส่วนชาให้ เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะเข้าไปได้

ตูม ตูม ตูม…ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ทันใดนั้นบนท้องฟ้าปรากฏรั้วกั้นไม้สองบาน ได้ยินเสียงดังเอี๊ยด ในขณะที่รั้วกั้นไม้ถูกเปิดออก มองเห็นไอหมอกปริมาณนับไม่ถ้วนที่เทราดลงมา เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น บริเวณที่เป็นภูเขาทั้งหมดในบริเวณนี้ก็ถูกไอหมอกกลืนกินจนหายวับไปในพริบตาเดียว

ในขณะนี้ นักศึกษาทั้งหมดทยอยกันกระโดดโลดเต้น คล้ายดั่งขับเมฆขี่หมอก ดูไปแล้วดุจดั่งเป็นเซียนอย่างนั้น

สวนชาเปิดแล้ว…ครั้นกลุ่มภูเขาถูกไอหมอกบดบังจนหมดสิ้นไปแล้ว นักศึกษาทั้งหมดถึงกับร้องเสียงดังออกมาด้วยความดีใจ ต่างทยอยกันกระโดดขึ้นไปบนเมฆหมอก เพื่อจะได้เข้าไปในสวนชา

ตูม…ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังเป็นระลอก มองเห็นภูเขาแต่ละลูกที่ลงมาจากท้องฟ้า โดยที่ภูเขาแต่ละลูกไม่ได้สูงใหญ่อะไรมากมายนัก บางลูกแลดูไปแล้วเหมือนเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเท่านั้นเอง

“นักศึกษาทั้งหลาย เตรียมตัวเข้าสวนชากันได้แล้ว หลังจากเข้าไปในสวนชาแล้วสามารถเก็บเกี่ยวอะไรได้หรือไม่นั้นอาศัยตัวของพวกเจ้าเองแล้ว สิ่งที่ไม่สามารถทำได้ก็อย่าได้ฝืน” ในเวลานี้ท่ามกลางเมฆหมอกปรากฎผู้เฒ่าคนหนึ่ง เขาเป็นอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“ได้เลย” บรรดานักศึกษาทั้งหลายต่างรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ท่านนี้ ต่างทยอยกันเลือกภูเขาลูกของตนเองแล้วกระโดดขึ้นไปทันที ในเวลานี้ ภูเขาทุกลูกก็มีนักศึกษานั่งอยู่ ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นกลุ่มสามถึงห้าคน ทุกคนต่างร่วมเป็นพันธมิตรกัน เนื่องจากเมื่อเข้าไปอยู่ในสวนชาแล้ว คนมากพลังก็มาก โอกาสก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

ในขณะนี้ นักศึกษาจำนวนมากต่างนั่งอยู่บนภูเขา แม้แต่นักศึกษาที่อัจฉริยะบุคคลของจวนราชันและหอศักดิ์สิทธิ์ก็พากันมาแล้ว ยุวกษัตริย์หกกระบี่ เทพบุตรซือจงที่เป็นผู้นำนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

ยุวกษัตริย์หกกระบี่ และเทพบุตรซือจงทั้งสองคนต่างยึดครองภูเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเอาไว้คนละลูก พวกเขาทั้งสองต่างก็เรียกได้ว่าดาวล้อมเดือน นักศึกษาของหอศักดิ์สิทธิ์และศตาคารจำนวนมากต่างติดตามพวกเขาสองคน พวกเขาสองคนต่างเป็นผู้นำนักศึกษาของหอศักดิ์สิทธิ์และศตาคาร แค่ส่งสัญญาณออกมาก็ ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ยินดีติดตามพวกเขา

ขณะเดียวกัน ข้างกายของยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงมีนักศึกษาติดตามอยู่มาเกินไป โดยเฉพาะเทพบุตรซือจงในฐานะผู้นำของหอศักดิ์สิทธิ์ นักศึกษาที่ติดตามอยู่ข้างกายจึงไม่ขาดแคลนนักศึกษาประเภทอัจฉริยะบุคคล จึงเป็นที่หวาดหวั่นของผู้คนในความแข็งแกร่งด้านศักยภาพ

แม้ว่านักศึกษาของศตาคารจะเทียบไม่ได้กับหอศักดิ์สิทธิ์ แต่ศตาคารอาศัยจำนวนคนที่มากกว่า ขณะที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ไปถึงไหนก็จะเรียกคนให้เข้าเป็นพวก ขบวนที่อยู่ข้างกายของเขาจึงยิ่งใหญ่มาก

ด้วยเพราะเหตุนี้เอง นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องหลบให้กับยุวกษัตริย์หกกระบี่ และเทพบุตรซือจง ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี งานมหกรรมชิมชาในครั้งนี้หากจะมีผลประโยชน์ใดๆ คงถูกยึดครองโดยคนของยุวกษัตริย์หกกระบี่ และเทพบุตรซือจงสองกลุ่มนี้อย่างแน่นอน คนอื่นคงไม่เหมาะที่จะไปแย่งชิงอะไรกับกลุ่มคนสองกลุ่มนี้

แต่ว่า จะว่าไปแล้วก็นับเป็นเรื่องแปลก หลังจากที่สวนชาเปิดแล้ว เมี่ยวฉานถึงกับอยู่ของนางเพียงลำพังคนเดียว มองเห็นเมี่ยวฉานอยู่ในมุมๆ หนึ่งที่ไม่เป็นที่สะดุดตาเพียงคนเดียว ยืนอยู่บนภูเขาขนาดเล็กลูกหนึ่งเงียบๆ ด้วยเมฆและไอหมอกที่แผ่คลุมอยู่ตรงนั้นแทบจะบดบังร่างของนางจนหมดทั้งร่างแล้ว

“รุ่นน้อง มาด้วยกันกับข้าจะดีไหม?” ยุวกษัตริย์หกกระบี่รีบกล่าวคำทักทายออกไป เมื่อมองเห็นเมี่ยวฉาน

ความจริงแล้ว ยุวกษัตริย์หกกระบี่คอยตามหาเมี่ยวฉานตลอดมา ดังนั้น พลันที่เขามองเห็นเมี่ยวฉานจึงรีบส่งคำเชื้อเชิญออกไปทันที

“ขอบคุณรุ่นพี่” เมี่ยวฉานผงกศีรษะส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “น้องแค่ต้องการเข้าไปดูเฉยๆ ไม่ต้องการขอวาสนาใดๆ ไม่กล้ารบกวนการทำงานของรุ่นพี่”

เมี่ยวฉานปฏิเสธคำเชื้อเชิญของยุวกษัตริย์หกกระบี่ทันควัน เนื่องจากนางเข้าใจในตัวของยุวกษัตริย์หกกระบี่ ชาติกำเนิดของยุวกษัตริย์หกกระบี่มาจากตระกูลขุนนางโบราณ บิดาของเขาเป็นระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงอยู่ในครอบครอง เรียกได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโตยุวกษัตริย์หกกระบี่นั้นมีจิตใฝ่สูงและหยิ่งยโส ภายในใจของเมี่ยวฉานเข้าใจ เมื่อยุวกษัตริย์หกกระบี่ที่ตัดสินใจจะเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ช้าเร็วก็ต้องก้าวสู่ความดับสูญอยู่แล้ว

การที่เมี่ยวฉานกล่าวปฏิเสธทันควัน ทำให้ยุวกษัตริย์หกกระบี่รู้สึกไม่สบายใจนัก ก่อนหน้านั้นเขาได้พยายามอย่างยิ่งกว่าจะเชื้อเชิญให้เมี่ยวฉานมาร่วมงานมหกรรมชิมชาในครั้งนี้ได้ ไม่นึกเลยว่าเวลานี้นางกลับถอนตัวอีกแล้ว

ในขณะนี้คนแรกที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่นึกถึงก็คือหลี่ชิเย่ จะต้องเป็นหลี่ชิเย่ที่ไปพูดอะไรกับนางขณะอยู่ที่ศาลเจ้าหลังเล็กนั้น หาไม่แล้วเมี่ยวฉานคงไม่ถอนตัวออกไปเช่นนี้

ดังนั้น ยุวกษัตริย์หกกระบี่ในเวลานี้ถึงกับจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ ในขณะนี้หลี่ชิเย่พาพวกของเหมยซู่เหยาห้าคนยืนอยู่บนภูเขาเล็กๆ มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ข้างกายล้อมรอบด้วยสาวงามหลายนาง ยุวกษัตริย์หกกระบี่ถึงกับส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมา

เวลานี้ภายในใจของยุวกษัตริย์หกกระบี่มีเหตุผลอยู่ร้อยแปดพันเก้าที่ไม่สบอารมณ์ในตัวของหลี่ชิเย่ เพียงแต่เวลานี้หลี่ชิเย่คืออาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เขาคิดจะท้าทายหลี่ชิเย่ดูจะไม่มีกำลังพอที่จะทำได้

เวลานี้ผู้ที่มองเห็นหลี่ชิเย่แล้วไม่สบอารมณ์ไม่ได้มีเพียงยุวกษัตริย์หกกระบี่เท่านั้น ในขณะนี้เทพบุตรซือจงเองก็มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความน่าเกรงขาม โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นท่าทีที่สนิทสนมระหว่างหลี่ชิเย่กับเหมยซู่เหยาแล้ว ทำให้ภายในใจของเทพบุตรซือจงรู้สึกไม่สบายใจมากเป็นพิเศษ เขาอยากจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าเหลือเกิน อาจารย์เช่นหลี่ชิเย่ไม่ได้มีคุณสมบัติที่พึงมีของผู้เป็นอาจารย์ การแสดงท่าทีกระหนุงกระหนิงกับนักศึกษาหญิงเช่นนี้ เห็นที่นี่เป็นอะไรไป

ด้วยเหตุนี้เอง เทพบุตรซือจงกำลังตัดสินใจอยู่ว่าควรจะร้องเรียนหลี่ชิเย่ต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าดีหรือไม่ หรือบางทีอาจกล่าวได้ว่า ในฐานะที่เป็นอาจารย์ล่อลวงนักศึกษา ซึ่งหาใช่เป็นเรื่องที่เล็กเลย

“เอาหละ นักศึกษาทั้งหลาย ออกเดินทางกันได้แล้ว” ในเวลานี้เอง อาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าผู้นั้นได้สั่งการออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล