อาจารย์จอมโหด…นายน้อยทะยานฟ้าส่งเสียงฮึเย็นชา และกล่าวว่า “การจะเป็นอาจารย์ แต่ใช้กำลังไหนเลยมีคุณสมบัติเป็นอาจารย์ได้”
“จุ๊จุ๊ พี่ทะยานฟ้า ระวังคำพูดนะ จะอย่างไรเสียเขาก็คืออาจารย์ของสถาบันนะ” เทพบุตรซือจงรีบกล่าวเตือนสติขึ้นมา
ดวงตาทั้งสองของนายน้อยทะยานฟ้าปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้า แววตาทั้งสองดั่งกระบี่ ท่าทีข่มแหงผู้คนและเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้คน กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “เป็นอาจารย์แล้วอย่างไร ต่อให้เป็นอาจารย์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจในสถาบัน ฮึ หากจำเป็นหละก็ข้าจะต้องฎีกาต่ออาจารย์ฉวี่หังและบรรดาเหล่าอาจารย์ของสถาบัน ในสถาบันไหนเลยปล่อยให้ผู้หนึ่งผู้ใดมาทำลายบรรายากาศได้อย่างไรกันเล่า”
“วิธีการของพี่ทะยานฟ้าดีมาก” เมื่อยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ยินคำพูดนี้แล้วถึงกับกล่าวชมขึ้นมา
ทุกคนต่างก็รู้ว่า นายน้อยทะยานฟ้าได้รับการให้ความสำคัญจากเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หัง ในสถาบันศึกษาเทพเจ้ามีเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังเป็นผู้สนับสนุน เรียกได้ว่านายน้อยทะยานฟ้ามีความได้เปรียบที่นักศึกษาผู้อื่นไม่มี
เฉกเช่นเทพบุตรซือจงเองก็เคยยืนฎีกาหลี่ชิเย่เช่นกัน แต่หากจะกล่าวถึงเรื่องของผลกระทบ ลำพังอาศัยระดับบรรพบุรุษของพรรคซือเสินคงไม่ได้ อาศัยระดับบรรพบุรุษของพรรคซือเสินจะไปกล่าวโทษต่ออาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้อย่างไรกัน ถ้าหากคิดจะกล่าวโทษอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าให้ได้เกรงว่าต้องอาศัยเซียนหวังของพวกเขาออกหน้า แต่ทว่า ต่อให้ตัวเขาที่เป็นผู้สืบทอดของพรรคก็ไม่แน่ว่าจะของร้องให้เซียนหวังพวกเขาช่วยออกหน้าแทนได้
เวลานี้จากคำพูดลักษณะเช่นนี้ของนายน้อยทะยานฟ้า พลันทำให้เทพบุตรซือจงมองเห็นทางสายใหม่ขึ้นมา ถ้าหากอาศัยภายในสถาบันศึกษาเทพเจ้าเองเป็นผู้ยื่นฎีกาหลี่ชิเย่หละก็ ไม่แน่นักอาจทำให้หลี่ชิเย่ต้องยุ่งยากเป็นแน่แท้ จะอย่างไรเสียฐานะของเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังในสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่ธรรมดาเลย
“ฮึ เจ้าคนแซ่หลี่ช่างยโสเหลือเกิน แค่คำพูดผิดหูก็จัดการซัดองค์หญิงเย่จนบาดเจ็บสาหัส ต้องให้เขาได้เห็นดีให้ได้” ในเวลานี้เทพบุตรซือจงก็กล่าวยุยงต่อนายน้อยทะยานฟ้า ขอเพียงพวกเขาสามเทพบุตรสถาบันศึกษาเทพเจ้ายืนอยู่ในแนวเดียวกัน ย่อมสามารถสร้างพลังกดดันขึ้นในสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้มากพอ
“ข้ากลับอยากจะเจอะเจอกับเขาสักหน่อย” ดวงตาทั้งสองของนายน้อยทะยานฟ้าปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้า กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
“รู้สึกเหมือนมีใครพูดถึงข้า” เวลานี้ปรากฏเสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนี้ฟังดูเหมือนจะเหนื่อยหน่ายอยู่ในที
ทุกคนมองไปตามเสียง มองเห็นหลี่ชิเย่กำลังเดินมาช้าๆ ข้างกายของเขายังมีเหมยซู่เหยาและหลิวจินเซิ่นติดตามมาด้วย เวลานี้หลี่ชิเย่เดินได้เชื่องช้ามาก แต่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งนัก ทุกย่างก้าวล้วนแล้วแต่มีจังหวะจะโคนที่บอกไม่ถูก
“อาจารย์มา…” มีนักศึกษาที่ร้องเสียงดังออกมาเมื่อมองเห็นการมาของหลี่ชิเย่ ทุกคนต่างรู้ดีว่าฉายาของหลี่ชิเย่คือ “อาจารย์จอมโหด” โดยเฉพาะที่ทำให้นักศึกษาจำนวนมากต้องขนลุกซู่ในใจเมื่อรู้ว่าเย่เมี่ยวเสวี่ยถูกเล่นงานจนพิการนอนติดเตียงอยู่ ต่างก็ไม่กล้าไปหาเรื่องกับอาจารย์ผู้นี้
ทั้งเทพบุตรซือจงและยุวกษัตริย์หกกระบี่ต่างมีสีหน้าที่บึ้งตึงเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ เป็นความจริงที่พวกเขาไม่สามารถไปหาเรื่องกับหลี่ชิเย่ได้เมื่อมีฐานะเป็นถึงอาจารย์ แต่ภายในใจของพวกเขายังคงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอเพียงมีโอกาส พวกเขาต้องแก้แค้นหลี่ชิเย่อย่างแน่นอน!
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้มาถึงแล้ว หันมองดูนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์โดยรอบ กล่าวเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “ทุกคนต่างอยู่กันพร้อมหน้านะเนี่ย เมื่อครู่ข้ารู้สึกเหมือนได้ยินมีใครพูดหรือนี่? พวกเจ้ากำลังตกลงว่าจะสั่งสอนข้าอย่างไรให้หนักรึ? ช่วงนี้ข้าก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่บ้าง หากใครคิดอยากจะอัดข้าหละก็ ข้าเองยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง”
คำพูดลักษณะเช่นนี้พลันทำให้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องอึ้ง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจออาจารย์ที่แย่แบบนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งจะทำร้ายเย่เมี่ยวเสวี่ยจนพิการ เวลานี้ก็ท้าสู้กับนักศึกษาขึ้นมาอีก อาจารย์เช่นนี้นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากของสถาบัน
ยุวกษัตริย์หกกระบี่กับเทพบุตรซือจงไม่พอใจในตัวขอวหลี่ชิเย่ก็จริง แต่ก็จนด้วยเกล้า ใครใช้ให้เขามีฐานะเป็นอาจารย์คนหนึ่งกันเล่า ได้แต่ส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา
“หากไม่พอใจอะไรในตัวข้า สามารถพูดออกมาได้ทุกเมื่อไม่จำเป็นต้องไปพูดกันลับหลัง คนอย่างข้ายอมรับความคิดเห็นได้ดีเหมือนน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำอยู่แล้ว ยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกคนอยู่แล้ว” สำหรับท่าทีของยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงนั้น หลี่ชิเย่ก็ไม่ไปถือสาให้มากความเพียงยิ้มกล่าวออกมาเท่านั้น
บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการไปหาเรื่องกับเขา ในเวลานี้นักศึกษาจำนวนมากต่างจ้องมองไปที่นายน้อยทะยานฟ้า หากจะกล่าวว่าในบรรดาพวกเขาใครที่สามารถหาเรื่องกับอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้ ก็คงมีเพียงนายน้อยทะยานฟ้าเท่านั้นแล้ว
ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก นายน้อยทะยานฟ้าไม่อาจไม่เสนอตัวออกมา จะอย่างไรเสียก่อนหน้านั้นเขายังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอยู่เลย
“พวกเราให้ความเคารพอาจารย์ของสถาบันที่พวกเขาได้เสียสละอย่างเหนื่อยยาก รู้สึกเคารพเลื่อมใสอย่างสุดซึ้งจากใจ” ในขณะนี้นายน้อยทะยานฟ้าได้พูดน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “แต่ว่า มีอาจารย์บางคนประพฤติตัวไม่สมกับเป็นอาจารย์ ไม่คู่ควรให้พวกเขาไปเคารพนับถือ บุคคลเช่นนี้ไม่มีคุณสมบัติเป็นอาจารย์ของพวกเรา!”
นายน้อยทะยานฟ้าพูดได้ดีมาก ตีวัวกระทบคราด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...