พวกของเซียนหวังจุ้งเทียนย่อมไม่ตอบรับคำเชิญลักษณะเช่นนี้ของราชันเจี้ยนตี้ หากจะกล่าวถึงการลอบโจมตีสถาบันศึกษาเทพเจ้าของพวกเขา นั่นเป็นเพียงความขัดแย้งภายในของร้อยชาติพันธุ์เท่านั้น เป็นเพราะต้องการของวิเศษเท่านั้น ซึ่งพอจะยอมรับกันได้ จะอย่างไรเสียนี่คือโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก เรื่องแบบนี้ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตน
แต่หากว่าพวกของเซียนหวังจุ้งเทียนนำพาเซียนหวังของร้อยชาติพันธุ์เข้าร่วมกับสวรรค์ ก็จะเป็นการทรยศต่อชาติพันธุ์อย่างแท้จริงแล้ว เกรงว่าชนรุ่นหลังของพวกเขาต้องถูกผู้คนเมินทอดทิ้งไปทุกชาติ อย่างน้อยข้อนี้พวกเขายังทำไม่ได้
“ต่อให้เหล่าราชันเซียนทั้งหลายไม่สามารถเป็นตัวแทนของร้อยชาติพันธุ์ แต่ จุ้งเทียน พวกเจ้าก็ไม่สามารถเป็นตัวแทนของร้อยชาติพันธุ์ได้เช่นกัน!” เวลานี้เซียนหวังเถาโซ่วกล่าวท่าทีเย็นชาว่า “ร้อยชาติพันธุ์ให้กำเนิดเซียนหวังอย่างเจ้า ทรยศได้แม้กระทั่งสถาบันศึกษาของตนเอง เป็นที่น่ารังเกียจของผู้คน!”
“พวกเราเป็นตัวแทนของร้อยชาติพันธุ์ไม่ได้ หรือพวกเจ้าเขาไผ่ประหลาด จวนกู่ก็สามารถเป็นตัวแทนของร้อยชาติพันธุ์อย่างนั้นรึ?” เซียนหวังจุ้งเทียนย่อมไม่พูดมากถึงเรื่องของสถาบันศึกษาเทพเจ้า และกล่าวว่า “นี่เป็นเพียงปลาใหญ่กินปลาเล็กเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องตั้งข้อหาให้แก่กันและกัน ใครชนะก็เป็นผู้ชนะ ใครแพ้ก็ตาย! นี่แหละคือโลกแห่งความโหดร้ายของพวกเรา ใครก็เป็นตัวแทนให้กับร้อยชาติพันธุ์ไม่ได้ ราชันเซียนจากเก้าแดนก็ดี จวนกู่ก็ดี เขาไผ่ประหลาดก็ช่าง ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแทนของร้อยชาติพันธุ์ไม่ได้…”
“ข้านี่แหละเป็นตัวแทนร้อยชาติพันธุ์!” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้กล่าวตัดบทเซียนหวังจุ้งเทียน กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เก้าแดนก็ดี สิบสามทวีปก็ช่าง! ถ้าหากใครบอกว่าต้องการสายตรงดั้งเดิมได้ ข้าก็จะชี้สายตรงดั้งเดิมให้กับพวกเจ้า! สถาบันศึกษาเทพเจ้าก็คือสายตรงดั้งเดิมของร้อยชาติพันธุ์!”
พลันที่หลี่ชิเย่กล่าวขาดคำ ได้จ้องมองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างน่าเกรงขาม รวมทั้งจอมราชันเซียนหวัง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์!
ในเวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้และไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เนื่องจากคำพูดของหลี่ชิเย่เป็นการเป็นการสรุปเรื่องราวจบในคำพูดเดียวไปแล้ว
ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากลองคิดให้รอบคอบ หากจะกล่าวว่าท่ามกลางร้อยชาติพันธุ์ผู้ใดสามารถเป็นสายตรงดั้งเดิมของร้อยชาติพันธุ์ได้ ย่อมเป็นความจริงว่าจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า ไม่เพียงเพราะสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้บ่มเพาะเซียนหวังและจอมเทพขึ้นมาจำนวนมาก และไม่เป็นเพราะมีราชันเซียนและเซียนหวังเป็นจำนวนมากที่เคยฝากระบบถ่ายทอดทางความคิดลัทธิเต๋าของตนเอาไว้ที่ตรงนี้!
ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ สถาบันศึกษาเทพเจ้าเป็นเพียงสถานที่ซึ่งบ่มเพาะผู้คนและถ่ายทอดเต๋าเท่านั้น มันแตกต่างจากทุกๆ สำนัก มันไม่เข้าร่วมการเก่งแย่งผลประโยชน์ของสำนักใดๆ ฐานะของมันสูงส่ง มีสถานะเป็นกลางท่ามกลางร้อยชาติพันธุ์
กล่าวได้ว่าในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา สถาบันศึกษาเทพเจ้ารับผิดชอบเพียงแค่ผลิตผู้มีความรู้ความสามารถออกมาให้กับร้อยชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำการบ่มฟักจอมเทพ บ่มฟักเซียนหวังให้กับร้อยชาติพันธุ์ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำเพื่อช่วงชิงความเป็นใหญ่ในหล้า ไม่ได้ทำเพื่อแย่งชิงทรัพยากร เพียงบ่มฟักผู้มีความรู้ความสามารถให้กับร้อยชาติพันธุ์เท่านั้น สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงสถานที่ที่บ่มเพาะผู้คนและถ่ายทอดเต๋าเท่านั้น
ท่ามกลางร้อยชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตามลองถามใจตนเองว่า หากจะถามว่าท่ามกลางร้อยชาติพันธุ์ใครคือสายตรงดั้งเดิมหากแม้นสถาบันศึกษาเทพเจ้ายังคงไม่ได้รับการยอมรับ ยังจะมีสำนักใดกล้าบอกว่าตนเองคือสายตรงดั้งเดิมของร้อยชาติพันธุ์!
“สถาบันศึกษาเทพเจ้าคือแหล่งต้นกำเนิดสำคัญของร้อยชาติพันธุ์ เป็นแหล่งต้นกำเนิดที่ทำให้ร้อยชาติพันธุ์ผงาดขึ้นมาได้ ใครบังอาจหาญกล้าสั่นคลอน ฆ่าไม่มีละเว้น ใครที่คิดการต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็คือศัตรูของร้อยชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นร้อยชาติพันธุ์ หรือว่าเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่า!” หลี่ชิเย่กล่าวน่าเกรงขามออกมา!
คำพูดของหลี่ชิเย่คือสรุปเรื่องราวจบสิ้นในคำพูดคำเดียวไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังชะตาฟ้าสิบสองสายก้าวออกมาคัดค้านก็ไม่เป็นผล
ยิ่งไปกว่านั้น เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายของร้อยชาติพันธุ์ก็มีเพียงเซียนหวังอิเย่คนเดียวเท่านั้น ขณะที่เซียนหวังอิเย่ย่อมต้องให้การสนับสนุนต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าแน่นอน ย่อมต้องสนับสนุนต่อหลี่ชิเย่อย่างแน่นอน
ในขณะที่กำลังจะระเบิดศึกยิ่งใหญ่ขึ้นมา หลี่ชิเย่ได้ประกาศคำพูดลักษณะเช่นนี้ออกมาต่อหน้าผู้คนทุกคน สรุปเรื่องราวจบสิ้นในคำพูดคำเดียวเป็นการยืนยันฐานะของสถาบันศึกษาเทพเจ้า!
เวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ แม้แต่ราชันซื่อตี้ก็เพียงนั่งสงบเงียบอยู่ตรงนั้นเท่านั้น ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา แน่นอนกล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว นี่เป็นเพียงกิจการภายในของร้อยชาติพันธุ์เองเท่านั้น
“ต้องปราบปรามกบฏภายในเพื่อความเป็นเอกภาพเสียก่อน แล้วค่อยต่อต้านกับผู้รุกรานจากภายนอก! โทษฐานแตะต้องสถาบันศึกษาเทพเจ้า ฆ่าไม่มีละเว้น!” เวลานี้ หลี่ชิเย่จ้องเขม็งไปที่เซียนหวังจุ้งเทียนและกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา และถูกหลี่ชิเย่จับจ้องเอาไว้ ต่อให้เป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครองอย่างเซียนหวังจุ้งเทียนพลันรู้สึกหายใจไม่สะดวก ถึงกับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว! เนื่องจากคำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่เปรียบเสมือนเป็นการตัดสินโทษประหารชีวิตต่อเขาอย่างนั้น!
เซียนหวังจุ้งเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง สุดท้าย ได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ท่านปรมาจารย์ ต่อให้เป็นท่านก็ไม่สามารถกุมอำนาจชี้เป็นชี้ตายได้!” จะอย่างไรเสียเขาก็คือเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย จะไม่ยอมให้ใครเชือดได้ตามอำเภอใจ
“เซียนหวังจุ้งเทียน เห็นทีร้อยชาติพันธุ์ไม่ได้ถือว่าพวกท่านเป็นพวกเดียวกัน เวลานี้พวกท่านเลือกที่จะร่วมมือกับข้ายังทัน มิฉะนั้นหละก็ พวกท่านคิดจะมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ดูจะเคว้งเสียแล้ว เวลานี้สมควรที่ผู้แข็งแกร่งร่วมมือกันจัดการกับสถาบันศึกษาเทพเจ้าเสีย กวาดล้างพวกมันให้ราบ เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าก็คือสายตรงดั้งเดิมของร้อยชาติพันธุ์!” เวลานี้ราชันเจี้ยนตี้ได้หัวเราะ และเอ่ยขึ้นมา.Aileen-novel.
คำพูดเช่นนี้ของราชันเจี้ยนตี้ทำให้ประกายตาของเซียนหวังจุ้งเทียนเต้นกระตุกนิดหนึ่ง แน่นอนเขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้มีแนวความคิดเช่นนี้
ความจริงแล้วคำพูดลักษณะเช่นนี้ของราชันเจี้ยนตี้เต็มไปด้วยความเย้ายวนใจ ถ้าหากว่าสามารถเข่นฆ่าศัตรูที่อยู่ในเหตุการณ์ เช่นหลี่ชิเย่ และพวกของราชันเซียนทุนยื่อเป็นต้นได้จริงๆ
การสังหารสิ้นศัตรูทั้งหมด ทำลายล้างสถาบันศึกษาเทพเจ้าเสีย เช่นนี้แล้วศึกครั้งนี้จะพลิกสถานการณ์ของสิบสามทวีป กระทั่งเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของร้อยชาติพันธุ์นับจากนี้เป็นต้นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...