แต่ทว่า ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังอาศัยประกายศักดิ์สิทธิ์ขจัดรอยจุดด่างอยู่นั้น ได้ยินเสียงดังปุขึ้นมาเสียงหนึ่ง บนตัวของหลี่ชิเย่ได้ปรากฏรอยด่างเป็นแห่งที่สามขึ้นมา
พลังลมปราณของหลี่ชิเย่มีความรุนแรง สัจธรรมที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ทว่า ต่อให้เขาทุ่มเทพลังทั้งหมดทำการขจัดรอยด่างจนสลายไป แต่ก็ไม่สามารถขจัดรอยด่างให้หมดไปได้ ยิ่งเขาขจัดเท่าไร รอยด่างบนตัวก็จะเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น
“ฆ่า” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวออกมา เหินฟ้าขึ้นไปและเข้าโจมตีพวกของราชันสวรรค์ยิว หนึ่งหมัดทำลายสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ว่า ขณะที่หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ซัดเข้าไปนั้น พวกของราชันสวรรค์ยิวเสมือนดังกลายเป็นร่างที่ลอยล่องไปมา
นาทีนี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวทั้งหมดคล้ายกลับกลายเป็นวิญญาณอย่างนั้น เป็นวิญญาณที่เร่รอน เสียงตูมที่ดังขึ้น แม้ว่าหนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่สามารถทำลายสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง หนึ่งหมัดซัดจนพวกของราชันสวรรค์ยิวแตกละเอียด แต่ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ทั้งสิ้น
มองเห็นภาพหนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ซัดเข้าไปนั้น พวกของราชันสวรรค์ยิวเสมือนดั่งเป็นควันสีดำสายหนึ่งที่สลายไป เหมือนว่าถูกหลี่ชิเย่ซัดใส่จนกลายเป็นเถ้าธุลีแล้วอย่างนั้น แต่ทว่า นาทีต่อมาพวกของราชันสวรรค์ยิวก็ได้รวมตัวกันขึ้นมา เหมือนพลุไฟที่ก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ทว่า หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ซัดหมัดนี้ไปแล้ว ได้ยินเสียงดังจี๊ดขึ้นมาเสียงหนึ่ง รอยด่างถึงกับเพิ่มขึ้นรวดเดียวมากมาย เหมือนว่าพลังหมัดนี้ของหลี่ชิเย่ถูกแปลงเป็นพลังของคำสาปอย่างนั้น แล้วย้อนกลับไปเกิดบนตัวของหลี่ชิเย่
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” ระดับจอมเทพที่ยืนดูอยู่ด้านข้างยังคงไม่เข้าใจเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว กล่าวด้วยความแปลกใจ
“นี่คือปฏิกิริยาโต้กลับของ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ นั่นเอง” จอมราชันที่ยืนดูอยู่ด้านข้างกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เวลานี้พวกของราชันสวรรค์ยิวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของคำสาปไปแล้ว ต่อให้ทำลายพวกเขาจนแหลกละเอียดก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งเจ้าใช้พลังในการสังหารพวกเขามากเท่าไร พลังคำสาปก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น และมันจะย้อนกลับเข้าหาร่างของผู้ต้องคำสาปโดยตรง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การโจมตีใดๆ ล้วนแล้วแต่ไร้ผล เพราะจะเท่ากับเป็นการโจมตีเข้าหาตัวเอง เท่ากับเป็นการช่วยเหลือศัตรูอีกแรง”
“เป็นความจริงรึที่ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ น่าสยองขวัญมากถึงเพียงนี้จริงๆ รึ? ระดับจอมเทพผู้ไม่เคยได้เห็นอานุภาพของ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ มาก่อนรู้สึกแปลกใจ แค่รอยด่างเป็นดวงๆ เท่านั้นเอง มันน่าสยองขวัญตรงไหน”
“ไม่ นี่แหละคือสิ่งที่ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ น่าสยองขวัญมากที่สุด” เซียนหวังร้อยชาติพันธุ์ที่ยืนดูในระยะห่างไกลผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น “อย่าได้ดูถูกรอยด่างเล็กๆ นั่น มันคือจุดมรณะ รอยด่างแต่ละรอยบ่งบอกว่าความตายของจุดดังกล่าวไม่สามารถย้อนกลับได้ตลอดกาล อีกทั้งมันไม่เพียงทำลายสัจธรรมของเจ้า ยังทำให้ชะตาฟ้าของเจ้าต้องตายไปด้วย เมื่อไรที่ต้าน ‘เคล็ดปราบกบฏ’ เอาไว้ไม่ไหว นั่นหมายถึงเป็นการตายอย่างสิ้นเชิง ครั้งนั้น เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ก็ได้อาศัย ‘เคล็ดปราบกบฏ’ นี่แหละในการสังหารพวกอเวจี”
“ที่สหายพูดมานั้นไม่ผิด” จอมราชันที่ยืนดูอยู่ระยะห่างไกลพยักหน้าและกล่าวว่า “เคล็ดปราบกบฏเป็นความตายโดยตรง ชะตาฟ้าก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ หากต้องการเอาชนะผู้ใช้คำสาป หนึ่งเดียวก็คือต้องต้าน ‘เคล็ดปราบกบฏ’ เอาไว้ให้ได้ ถ้าหากเจ้าสามารถต้านเอาไว้ได้ ผู้ใช้คำสาปดังกล่าวกลับจะถูก ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ย้อนกลับทำลายเอง โดยที่พลังมรณะจะย้อนกลับไปกัดกินผู้ใช้คำสาปเอง นี่แหละคือความชั่วร้ายของ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ปฏิกิริยาโต้กลับไม่ได้กระทำเพียงข้างเดียว”
ในครั้งนั้น เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าก็อาศัย ‘เคล็ดปราบกบฏ’ นี่แหละเอาชนะอเวจีได้ และขับไล่อเวจีที่ยังหลงเหลืออยู่ลงไปยังเก้าแดน
เสียงจี๊ด จึ๊ด จี๊ดแต่ละเสียงที่ดังขี้น ในเวลานี้รอยด่างดำที่เกิดขึ้นบนตัวของหลี่ชิเย่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แลดูไปแล้วเหมือนว่าร่างทั้งร่างของเขากำลังถูกไฟที่ไม่ทันลุกไหม้ขึ้นมาลามไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ไหม้ชีวิตของเขาไปอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม การไหม้ในลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ใหม่ ต่อให้เป็นชะตาฟ้าก็สร้างขึ้นใหม่ไม่ได้ เมื่อไรที่หลี่ชิเย่ต้าน ‘เคล็ดปราบกบฏ’ เอาไว้ไม่อยู่ เกรงกว่าคงต้องตายจากการต้องคำสาปชั่วร้ายนี้ไป
“อีกาทมิฬ เจ้าพ่ายแพ้แล้ว” เวลานี้เสียงของราชันสวรรค์ยิวดังจากที่ห่างไกล และกล่าวว่า “เมื่อเทียบปริมาณลมปราณ เทียบจำนวนชะตาฟ้าแล้ว เจ้าสู้พวกเราไม่ได้ตลอดกาล ตัวเจ้าเพียงคนเดียวเทียบได้กับอเวจีทั้งหมดในครั้งนั้นได้รึ? เจ้ารู้ดีอยู่แล้วว่าอเวจีในครั้งนั้นตายอย่างไร วันนี้เป็นคราวเคราะห์ของเจ้า วันนี้ในปีหน้าคือวันครบรอบวันตายของเจ้า!”.ไอลีนโนเวล.
คำพูดของราชันสวรรค์ยิวใช่จะไม่มีเหตุผล ลมปราณ พลัง ชะตาฟ้าของพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นคำสาป เป็นคำสาปที่น่าสยองขวัญมากที่สุด ลองนึกภาพดู ด้วยชะตาฟ้าจำนวนมากมายเพียงนี้ พลังลมปราณที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ กลับกลายเป็นพลังของคำสาปไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พลังคำสาป ‘เคล็ดปราบกบฏ’ มันจะมีความน่ากลัวเพียงใด
ในครั้งนั้น เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าก็ได้อาศัยวิธีนี้แหละทำลายอเวจี บางทีอาจเป็นความจริงที่ว่าอเวจีนั้นแข็งแกร่งมาก และพวกเขาก็มีความชั่วร้ายอย่างยิ่ง การที่จะฆ่าพวกเขาให้ตายนั้นยากมากจริงๆ
แต่ว่า อย่าลืมไปสิเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าอาศัยอยู่ในสิบสามทวีปมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน พวกเขามีประชากรจำนวนมากเพียงพอ มีจำนวนจอมราชันจำนวนมาก มีระดับยอดฝีมือมากพอ การต่อสู้กันตัวต่อตัวไม่สามารถทำลายอเวจีได้หมด แต่ว่า ถึงแม้อเวจีจะแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ ก็ไม่สามารถต้านทานยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนที่เติมเข้าไปภายใน ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ได้
ด้วยเหตุนี้เอง สุดท้ายจึงทำให้อเวจีบาดเจ็บล้มตายอย่างแสนสาหัส เกือบถูกทำลายล้างเผ่าพันธุ์จนสิ้น ทำให้อเวจีจำเป็นต้องอาศัยกายล่องหันหนีไปยังเก้าแดน!
“ดีใจเร็วเกินไปแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ใครจะเป็นผู้แพ้ยังไม่รู้เลย” ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดังนั้น ทั่วตัวของเขาแผ่กระจายประกายเซียนออกมา แต่ยังคงต้านกับพลังคำสาปไม่อยู่ รอยด่างดำบนตัวของเขาดูจะมีจำนวนมากขึ้นทุกที
เวลานี้ อำนาจของคำสาปปรากฏอย่างชัดเจน จากการที่บนตัวของหลี่ชิเย่ปรากฎรอยด่างดำมากขึ้นเรื่อยๆ พลังลมปราณ และพลังสัจธรรมอ่อนด้อยลงทุกที อีกทั้งรอยด่างดำได้เพิ่มจำนวนรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ย่อมไม่ต้องสงสัย ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ในขณะนี้ได้เร่งความตายให้กับหลี่ชิเย่เร็วขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...