“มดปลวกเท่านั้น ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง!” หลี่ชิเย่มองดูราชันมารกวงหมิงด้วยสายตาเย็นชา เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา เพียงจ้องมองไปที่โลงมรณะเท่านั้นเอง
“ดี เจ้าอีกาทมิฬ ตายเสียเถอะ!” ราชันมารกวงหมิงถูกยั่วโมโหจนโกรธจัด ร้องคำรามเสียงดัง มือที่พลิกกลับอย่างชำนาญ ปรากฏคันฉ่องมารที่แลดูดำมืดยิ่งนักอยู่ในมือ ส่งประกายแห่งความตายวูบวาบออกมา
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ประกายแห่งความตายพลันสาดส่องลงบนตัวของหลี่ชิเย่ ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดไม่ขาดสาย รอยด่างดำบนตัวของหลี่ชิเย่เริ่มแผ่ขยายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เคล็ดปราบกบฏ…ในขณะนี้ ราชันสวรรค์ยิวได้นำพาพวกจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ ทำการสำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ขึ้น พลังคำสาปจึงเข้าพันธนาการตัวของหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง
ในเวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวต่างทุ่มสุดตัวต้องเสียค่าตอบแทนเท่าไรก็ยอม พวกเขาทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถ กระทั่งไม่เสียดายยอมสิ้นเปลืองเลือดวัฒนะ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หลี่ชิเย่นั้นน่าสยองขวัญเหลือเกิน วันนี้หากหลี่ชิเย่ไม่ตาย พวกเขาจะไม่มีวันสงบสุข ต่อให้วันนี้พวกเขาสามารถรอดชีวิตไปได้ ช้าหรือเร็วสักวันหนึ่งหลี่ชิเย่ก็ต้องฆ่าพวกเขาอยู่ดี
จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงแห่งความตายดังก้องอยู่ในรูหูของทุกคนไม่จางหาย เดิมทีการปรากฎของสวรรค์ลงทัณฑ์ทำให้รอยด่างดำจางหายไปมากทีเดียว เนื่องจากเวลานั้น พวกกของราชันสวรรค์ยิวไม่มีกำลังพอที่จะไปส่งคำสาปต่อหลี่ชิเย่อีกแล้ว
เวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวได้สำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ อีกครั้ง ทำให้รอยด่างดำมีการขยายตัวออกไปบนร่างกายของหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง เมื่อรอยด่างดำมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นๆ ร่างกายจึงเกิดการลุกไหม้ขึ้นมาอีก
เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นสีดำดังถ่าน ทั่วทั้งร่างเหมือนถูกไฟไหม้ที่ไม่ลุกไหม้ขึ้นมาไหม้ลามไปทั่ว
ต่อให้ร่างกายเสมือนดั่งถูกไฟที่ไม่ลุกขึ้นมาไหม้ลามไปทั่วตัว หลี่ชิเย่ยังคงตามอารมณ์ยิ่งนัก ยังคงไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อย เขาเพียงยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “พวกเจ้าเข้าใจว่าข้าใส่ใจในสิ่งที่เรียกว่า ‘เคล็ดปราบกบฏ’ อะไรของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ? สิ่งนี้สำหรับข้าในวันนี้แล้ว มันก็แค่ฝีมือระดับต่ำต้อยเท่านั้นเอง!”
“ในสายตาของข้า อำนาจมืดไม่สามารถปรากฎต่อสาธารณะชนตลอดไปอยู่แล้ว!” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “พลังอำนาจของคำสาปมันก็แค่วิชามารเท่านั้นเอง วันนี้จะให้พวกเจ้าได้รู้จักว่าอะไรที่เรียกว่าสง่าผ่าเผย ให้พวกเจ้าได้รู้จักอะไรที่เรียกว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ปราศจากผู้ต่อกร!”
พลันที่หลี่ชิเย่กล่าวขาดคำ เสียงแว้งค์แต่ละเสียงที่ดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง หน้าอกของหลี่ชิเย่พวยพุ่งประกายออกมาเป็นสายๆ ประกายแต่ละสายช่างศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวหาใช่พลังที่มาจากภายนอก และไม่ได้มาจากพลังการฝึกปรือ แต่มันออกมาจากภายในจิตใจของหลี่ชิเย่!
“ข้าคือปราชญ์ ปราศจากมารตลอดกาล!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ นาทีนี้ประกายศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขามีความเข้มข้นรุนแรง มีความน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นนักปราชญ์อย่างนั้น
ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ประกายศักดิ์สิทธิ์หนึ่งร้อยล้านล้านล้านสายพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ส่องประกายสว่างไสวไปนิรันดร์ เวลานี้หลี่ชิเย่ก็คือปราชญ์ที่ยืนอยู่เหนือสุดยอดของโลก ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาสาดส่องไปทั่วหล้าอย่างเท่าเทียม ขับไล่ความมืด ชี้นำสรรพสัตว์!
นี่คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร จิตที่ได้วิวัฒนาการกลายเป็นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ดวงหนึ่ง เวลานี้หลี่ชิเย่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แกร่งจนไม่อาจทำลายได้ พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาสามารถชำระมารร้ายทั้งหมดในโลกให้บริสุทธิ์ สามารถครอบคลุมตลอดทั้งยุคสมัย ต่อให้กาลเวลาที่ไหลเคลื่อนไปเรื่อยๆ ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะไหลรินไปตามกาลเวลา
ดูเหมือนว่าหลี่ชิเย่ในเวลานี้ได้หลอมรวมเข้ากับยุคสมัยไปแล้ว ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขามีอยู่ทุกแห่งหน ไม่มีที่ใดที่ไม่มี ไม่ว่าความมืดใดๆ หากเจอะเจอกับประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาแล้วก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี
“นี่คือสัจธรรมศักดิ์สิทธิ์รึ?” จอมเทพจำนวนมากต่างรู้สึกหวั่นไหว เมื่อมองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องไปทั่วหล้าอย่างเสมอภาพ กระทั่งไหลรินไปตามสายน้ำแห่งกาลเวลาของยุคสมัยนี้ เวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างได้รับผลกระทบจากประกายศักดิ์สิทธิ์ บนตัวถึงกับเปล่งประกายออกมาเป็นสายๆ
“ไม่ใช่สัจธรรมศักดิ์สิทธิ์ นี่คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงหนึ่ง” มีเซียนหวังที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ และกล่าวว่า “จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาแข็งแกร่งจนไม่สามารถทำลายได้อีกแล้ว เขาคิดอยากจะเป็นนักปราชญ์ก็เป็นนักปราชญ์ เขาต้องการกลับกลายเป็นมารร้ายก็ได้เป็นมารร้าย! เขาทำได้ตามแต่ใจปรารถนาแล้ว จะเป็นนักปราชญ์ก็ดี เป็นมารก็ช่าง มันก็แค่แวบหนึ่งของความคิดของเขาเท่านั้น! เขาได้ก้าวล้ำหน้าทุกคนในด้านจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไปแล้ว ก้าวเดินไปได้ไกลกว่าทุกๆ คน!”
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น เวลานี้ รอยด่างดำบนตัวของหลี่ชิเย่ค่อยๆ จางหายไป เสมือนดั่งน้ำลงอย่างนั้น และลมปราณของหลี่ชิเย่ค่อยๆ คืนกลับมาหล่อเลี้ยงกายา ต่อให้พลังคำสาปรุนแรงและน่าสยองขวัญมากกว่านี้ ยังคงต้านพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ของหลี่ชิเย่ไม่ได้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาแกร่งจนไม่อาจทำลายได้ และแหลมคมสุดต้านทาน! มันจึงทำลายพลังคำสาปนั้นไป
แม้พลังคำสาปจะทรงพลัง แม้ว่าจะน่าสยดสยอง แต่จะอย่างไรเสียมันก็คือวิชามาร เมื่อประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องทั่ว่หล้าอย่างเสมอภาค พลังของคำสาปเมื่อเปรียบเทียบกับมัน ดูจะมีใจแต่ไร้เรี่ยวแรงเสียแล้ว
“เร็ว สลายพลัง รีบสลายพลังเร็ว!” ในเวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวต่างตกใจยิ่ง ร้องเสียงดังออกมา พยายามดึงเอาชะตาฟ้าของตนกลับ แต่ทว่า เมื่อไรที่มีการสำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ แล้วคิดจะเรียกคืนใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะถ้าหากง่ายขนาดนั้น พวกเขาคงหนีไปไกลตั้งแต่สวรรค์ลงทัณฑ์ปรากฏแล้ว
“ที่ข้าต้องการก็คือหัวใจศักดิ์สิทธิ์ดวงนี้ของเจ้า!” เมื่อเทียบกับราชันสวรรค์ยิวแล้ว ราชันมารกวงหมิงไม่ได้ตกใจกลับจะดีใจเสียด้วยซ้ำ พริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่ง ราชันมารกวงหมิงพลันกางปีกออกสองข้าง ซึ่งไม่รู้ว่าเขามีปีกโผล่ออกมาสองข้างได้อย่างไร เป็นที่แปลกประหลาดมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...