สรุปตอน ตอนที่ 2100 กระดูกแก่นนิรันดร์กาล – จากเรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
ตอน ตอนที่ 2100 กระดูกแก่นนิรันดร์กาล ของนิยายActionเรื่องดัง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้น พลังทำลายล้างที่พุ่งโจมตีเข้ามา ทำให้สิบสามทวีปสั่นไหวโคลงเคลงไปทั่ว และทั่วทั้งสิบสามทวีปล้วนแล้วแต่กระเพื่อมเพราะสิ่งนี้ เหมือนว่าพริบตาเดียวนี้เองสิบสามทวีปอาจจะถูกโจมตีจนจมลงได้ทุกเมื่อ โลกทั้งโลกมีความเป็นไปได้ที่ถูกโจมตีจนแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรง กระทั่งมีจอมราชันเซียนหวังจำนวนไม่น้อยที่ถูกพลังกระแทกจนตัวปลิวออกไปโดยพลัน!
จอมเทพระดับล่างกระทั่งถูกพลังนี้กระแทกจนร่างกายแตกร้าว เลือดไหลซึมออกมา ทำเอาพวกเขาตกใจจนต้องรีบหนีไปเสียให้ไกล แม้ว่ายังไม่ทันได้ลงมือ แต่พลังเช่นนี้เพียงพอที่จะเข่นฆ่าเทพสังหารมารได้แล้ว ถ้าหากพลังที่ทำลายฟ้าดินเช่นนี้โจมตีลงมามิแย่เลยรึ
ชั่วพริบตาเดียวนี่เอง ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างปรากฏกระบี่ยาวในมือเล่มหนึ่ง มันคือกระบี่กระดูกเล่มหนึ่ง ขณะที่กระบี่กระดูกเล่นนี้อยู่ในมือ พลังทำลายฟ้าดินเสมือนดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งโหมสาดซัดเข้ามา กระทั่งพุ่งโจมตีไปทั่วโลก คลื่นคลั่งที่สามารถทำลายฟ้าดินเช่นนี้สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
เสียงแตกละเอียดดังคร๊ากก…ขึ้นมา ขณะที่ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างกำกระบี่กระดูกเล่มนี้ในมือนั้น ร่างกายของเขาก็ทนรับพลังของกระบี่กระดูกเล่มนี้ไม่ไหว ปรากฏเป็นรอยแตกร้าวเป็นริ้วๆ บนร่างกาย
สมควรทราบว่า ราชันมารกวงหมิงเป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครอง แต่ร่างกายของเขาก็ยังรองรับพลังของกระบี่กระดูกนี้ไม่ได้ ย่อมประเมินได้ว่าพลังของกระบี่กระดูกเล่มนี้มันน่ากลัวเพียงใดแล้ว คิดจะควบคุมกระบี่กระดูกลักษณะเช่นนี้ ต้องเป็นจอมราชันเซียนหวังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมราชันเซียนหวังชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายจึงจะเอาอยู่!
“กระดูกแก่นนิรันดร์กาล” เซียนหวังอิเย่ก็ต้องรู้สึกเย็นวาบ เมื่อมองเห็นกระบี่กระดูกในมือของราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่าง!
ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่ากระดูกแก่นนิรันดร์กาลคืออะไรกันแน่ แต่ว่าจอมราชันเซียนหวังระดับสูงบางส่วนกลับรู้จัก เป็นต้นว่าราชันซื่อตี้ เทพโบราณกุยฝานต่างก็รู้ว่ากระดูกแก่นนิรันดร์กาลคืออะไร!
นี่คืออาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคที่น่าสยองขวัญยิ่งเล่มหนึ่ง โดยอาศัยกระดูกแท้จริงของสรรพสิ่งมีชีวิตจำนวนนับล้านล้านชีวิตในหนึ่งยุคมาหลอมกลั่นสร้างขึ้น อานุภาพของมันน่าสยองขวัญและยอดเยี่ยมยากจะหาใดเทียม มันคืออาวุธที่สยองขวัญ ชั่วร้ายและทรงพลังมากที่สุดแห่งยุค!
ครั้งนั้นที่แหลมห้าวว่างหลี่ชิเย่ก็เคยสร้างเลียนแบบกระดูกแก่นนิรันดร์กาลขึ้นมาเล่มหนึ่งจากกระดูกที่มีอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งในครั้งนั้นแม้ว่าจะเป็นของเลียนแบบ แต่ทว่ากระบี่กระดูกเช่นนั้นก็มีอานุภาพที่ไม่มีสิ้นสุด!
เวลานี้กระบี่กระดูกที่อยู่ในมือของราชันมารกวงหมิงไม่ใช่ของเลียนแบบ แต่เป็นกระดูกแก่นนิรันดร์กาลของแท้แน่นอน เป็นอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคเล่มหนึ่ง!
เมื่อนึกถึงข้อนี้แล้ว บรรดาจอมราชันเซียนหวังระดับสูงต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ การดำรงอยู่ของบุคคลเช่นนี้ไม่เพียงมีโลงมรณะซึ่งเป็นหนึ่งในสมบัตินพเก้าในครอบครอง ยังได้ครองครองอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุค มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเพียงใด นี่มันสามารถเกรียงไกรไปทั่วสิบสามทวีป และปราศจากผู้ใดสามารถต่อกรในหล้าอยู่แล้ว!
“สมควรสิ้นสุดได้แล้ว!” เวลานี้ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างคำรามเสียงดังออกมา ได้ยินเสียงคร๊ากก คร๊ากกดังขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเอง ร่างกายของราชันมารกวงหมิงแตกละเอียดออกเป็นชิ้นๆ คราวนี้หาใช่เป็นเพราะกระดูกแก่นนิรันดร์กาลที่ทำให้ร่างกายของราชันมารกวงหมิงต้องแตกละเอียด แต่เป็นเพราะมีผู้ที่จะโผล่ออกจากร่างกายของเขา เหมือนว่าภายในร่างกายของราชันมารกวงหมิงยังมีคนผู้หนึ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้น
“ฆ่า…” ในเวลานี้ เซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานต่างมองตากันและกัน คำรามเสียงยาวออกมา คนหนึ่งอาศัยตราประทับเหรินหวังที่ปราบปรามเหล่าชั้นฟ้า คนหนึ่งอาศัยชุดเกราะเซียนหยินโจ้วบุกเข้าโจมตี บดขยี้ทุกสิ่งให้แหลกลาญ
“ไม่เจียมตนเสียเลย” เวลานี้ราชันมารกวงหมิงที่ร่างกายกำลังแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ คำรามเสียงดัง กระดูกแก่นนิรันดร์กาลในมือฟาดฟันเข้ามาตามใจ การฟาดฟันลักษณะเช่นนี้ของอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคสามารถทำลายทุกสิ่งเป็นจุณได้ในพริบตา ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลายไปโดยพลัน ทางช้างเผือกและดวงดาวที่อยู่ไกลนับหนึ่งร้อยล้านล้านล้านลี้กลายเป็นเถ้าธุลีไปทันที หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามา เหล่าเทพและบรรดาราชันไม่คงอยู่อีกต่อไป
เสียงปัง…ดังสนั่น อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคที่โจมตีเข้าใส่ตามใจ ต้านการสังหารที่เด็ดขาดของเซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานเอาไว้ได้!
จังหวะที่กระบี่นี้ได้ต้านกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดของเทพโบราณกุยฝานและเซียนหวังอิเย่เอาไว้นั้น สุดท้ายได้ยินเสียงดังคร๊ากก ร่างกายของราชันมารกวงหมิงแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ โดยสิ้นเชิง คนผู้หนึ่งก้าวออกมาจากร่างกายของราชันมารกวงหมิง เป็นการปรากฏตัวออกมาอย่างแท้จริง
คนผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ทั่วร่างถูกล้อมรอบด้วยความมืด เหมือนว่าเขาจะก้าวออกมาจากความมืด เหมือนว่าจะถือกำเนิดในความมืด และดูเหมือนตัวเขาเองก็คือต้นกำเนิดของความมืด
บริเวณหน้าผากของเขากลับจะมีสัญลักษณ์ รูปเทียนฉวน และสัญลักษณ์เทียนฉวนบนหน้าผากของเขามีขนาดใหญ่กว่าทุกๆ คน ราชันซื่อตี้คือจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายของเผ่าสวรรค์ บริเวณหน้าผากของเขาก็มีสัญลักษณ์เทียนฉวนอยู่ แต่ทว่าสัญลักษณ์เทียนฉวนของซื่อตี้มีขนาดใหญ่ไม่เท่ากับของคนผู้นี้
อีกทั้งสัญลักษณ์เทียนฉวนที่สลักไว้บนหน้าผากของคนผู้นี้แตกต่างจากผู้อื่น โดยปรกติแล้ว ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไร สัญลักษณ์เทียนฉวนก็จะยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์เทียนฉวนของคนผู้นี้กลับเป็นสีดำ เหมือนว่ากำเนิดจากสีดำ และเจริญเติบโตจากสีดำอย่างนั้น
“คนผู้นี้เป็นใครกันแน่” ครั้นบรรดาจอมราชันเซียนหวัง มองเห็นบริเวณหน้าผากมีสัญลักษณ์รูปเทียนฉวนแล้วต่างมองหน้ากันและกัน ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าต้องเป็นคนเผ่าสวรรค์ของพวกเขาอย่างแน่นอน รวมทั้งจอมราชันเซียนหวังอาวุโสก็เช่นกัน เนื่องจากพวกเขาก็ไม่รู้ว่าคนผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้าคือใคร
ไม่มีใครสามารถมองออกถึงชาติกำเนิดของคนผู้เนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ถึงประวัติความเป็นมาของคนผู้นี้ ขณะที่ในมือของเขากำกระดูกแก่นนิรันดร์กาลนั้น เขาก็ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า และไร้ผู้เทียบเทียมตลอดกาล!
บรรดาจอมราชันเซียนหวังทั้งหมดต่างรู้สึกหวาดผวา เมื่อพลังสัจธรรมทั้งหมดของพวกเขาถูกผู้อื่นหยิบยืมไปโดยพลัน เปรียบเหมือนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังวิ่งฮ่อไป แล้วม้าชั้นเยี่ยมตัวนั้นหลันหลุดจากบังเหียนแล้ววิ่งหนีไป เหลือทิ้งไว้เพียงรถม้าอยู่ตรงนั้น! หากไม่เป็นเพราะพลังชะตาฟ้ายังคงอยู่ เกรงว่าพวกเขาในเวลานี้คงเหมือนดั่งเช่นบัณฑิตที่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะมัดไก่เอาไว้
มันเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่ง แม้ว่าฐานเต๋าของพวกเขายังคงอยู่ แต่พลังกลับถูกผู้อื่นหยิบยืมไป!
แม้แต่เซียนหวังอิเย่ ราชันซื่อตี้ที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครองก็ถูกหยิบยืมพลังสัจธรรมไปโดยพลัน มันจึงเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเหลือเกิน นาทีนี้พวกเขาสามารถพึ่งพาก็คือพลังชะตาฟ้า และพลังแท้จริงของตนเองเท่านั้น
“ข้าคือต้นกำเนิดสัจธรรม พวกเจ้าเป็นเพียงมดปลวกใต้ร่มเงาของข้าเท่านั้นเอง!” เวลานี้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดหมางเมินท่าหล้าก้มมองดูสรรพสัตว์ ในสายตาของเขา แม้แต่จอมราชันเซียนหวังก็เป็นเสมือนดั่งมดปลวกเท่านั้น
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา นาทีนี้หนึ่งกระบี่ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดได้ฟาดฟันลงมาใส่เซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝาน!
เซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานถูกหยิบยืมพลังไปมากมาย จึงทำให้กำลังอ่อนลงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่า นาทีนี้พวกเขายังคงคำรามเสียงยาวขึ้นมา และเหินฟ้าขึ้นไปรับมือกับผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดตรงๆ
เสียงปังดังสนั่น จังหวะที่เซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานโจมตีขึ้นไปนั้น วังวนทั้งสามของชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ก็พุ่งโจมตีลงมา วังวนทอง เงิน เหล็กทั้งสามเสมือนดั่งเป็นโล่ยักษ์ที่พุ่งโจมตีลงมา เข้าไปขวางพลังโจมตีส่วนใหญ่ของกระดูกแก่นนิรันดร์กาลเอาไว้
เสียงตูมดังสนั่น ฟ้าดินแตกละเอียด ภายใต้การร่วมมือระหว่างหลี่ชิเย่ เซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานสามคน ได้ป้องกันพลังทำลายจากหนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเอาไว้ได้
อาจกล่าวได้ว่า ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ อย่าว่าแต่สรรพสัตว์นับล้านล้านเลย แม้แต่จอมราชันเซียนหวังก็ดูเล็กจิ๋วมาก หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา สามารถสังหารสิ้นจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าต่ำกว่าสิบสองสายได้!
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...