“จะว่านั้นก็ได้” หลี่ชิเย่ยังคงวุ่นวายกับสิ่งที่ทำอยู่ ตอบขึ้นมาคำหนึ่ง
“ขุดไม้เย่ามู่รึ?” ชายหนุ่มบนเรือจำนวนไม่น้อยรู้สึกสนใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ไม้เย่ามู่ก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง
“ถ้าหากเจ้าสามารถขุดไม้เย่ามู่ออกมาได้สักท่อนหนึ่งล่ะก็รวยแน่ๆ เลย พลิกชีวิตกลับมาร่ำรวย ไม่แน่นักอาจสามารถเข้าไปอยู่ในสำนักที่ดีๆ ได้” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่พูดล้อเล่นกับหลี่ชิเย่
แน่นอน พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่เคยพบเห็นหลี่ชิเย่มาก่อน ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ธรรมดาคนนี้ก็คือผู้ชายแซ่หลี่ที่พวกเขาพูดถึงเมื่อครู่
“ไม้เย่ามู่ชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง จะมีค่าเท่าไรเชียว” หูชิงหนิวที่หยิ่งยโสและเย็นชาเพียงมองหน้าหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง กล่าวดูเคลนว่า “เคยมีเทพแท้จริงคนหนึ่งหอบเอาไม้เย่ามู่มาหีบหนึ่งมาขอให้ข้ารักษาให้ ข้ายังไม่มองเสียด้วยซ้ำ” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว แอบเหลือบมองฉินซาวเย่าทีหนึ่ง
เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินซาวเย่าที่ปรกติขี้คร้านแม้แต่จะพูดก็อยากจะแสดงตัวอย่างยิ่ง และพูดมากขึ้นมาแล้ว ขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการอวดอ้างตนเองต่อหน้าฉินซาวเย่า ให้ฉินซาวเย่าได้รู้ว่าตนเองนั้นมีความยอดเยี่ยมเพียงใด มีของวิเศษจำนวนเท่าไร และมีฐานะที่สูงส่งเช่นใด
แต่ว่า ฉินซาวเย่าไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อยสำหรับคำพูดที่เย่อหยิ่งของหูชิงหนิว เพียงใจจดใจจ่ออยู่กับการปั้นหลุมโคลนของหลี่ชิเย่เท่านั้น
คำพูดที่อวดดีของหูชิงหนิวทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่บางคนที่อยู่บนเรือรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก เหมือนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่โอ้อวดต่อหน้าเทพธิดาฉินเป็นอย่างนั้น แต่ทว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่สบอารมณ์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หูชิงหนิวมีต้นทุนเพียงพอที่จะอวดดี วิชาแพทย์ของเขานับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ทุ่มเงินทองมหาศาลขอให้เขาช่วยรักษา เขายังไม่สนอย่างดูแคลน
จางเหยียนถึงกับเอามือแตะที่หน้าผาก รู้สึกว่าพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง หูชิงหนิวเป็นคนที่พร้อมจะทำให้การสนทนาต้องสิ้นสุดลง ฝีมือในการทำให้กร่อยเช่นนี้คงไม่มีใครอีกแล้ว หากไม่เป็นเพราะเขารู้จักกับหูชิงหนิวมานานแล้วล่ะก็ เขาอยากจะถีบให้ตกลงไปในบึง มันเป็นการทำให้เขาต้องเสียโอกาสในการจีบหมอเทวดาหญิงไป
“คิดจะขุดไม้เย่ามู่จากสถานที่เช่นนี้ไม่ง่ายนัก” จางเหยียนได้แต่ปรับบรรยากาศให้ดีขึ้น ขิ้มกล่าวว่า “ไม้เย่ามู่ส่วนใหญ่แล้วจะจมอยู่ใต้น้ำในลำธารที่ลึก ชายหาดที่เป็นดินโคลนเช่นนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีไม้เย่ามู่ เนื่องจากไม้เย่ามู่หนักเหมือนเหล็ก ที่นี่คือบึงโอสถ ต่อให้มีไม้เย่ามู่จริงก็จมลงใต้บึงแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่จะลอยขึ้นมาอยู่บนดินเล่า ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในดินโคลน”
“หมอเทวดามู่ และเทพธิดาฉินที่อยู่ตรงนี้กับพวกเราต่างก็เป็นปรมาจารย์ทางด้านนี้ ถ้าหากสามารถได้รับการชี้แนะจากนางสักคำสองคำ ไม่แน่นักเจ้าอาจจะสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้จริงๆ หมอเทวดามู่เป็นผู้ที่อาศัยไม้เย่ามู่ในการเข้าญาณเป็นประจำ ขอเพียงนางดมกลิ่นนิดหนึ่งก็รู้ว่าบริเวณไหนมีไม้เย่ามู่ อยู่ต่อหน้าพระแท้จริงเช่นนี้ เจ้าสามารถขอให้ช่วยได้”
ในขณะนี้ จางเหยียนกล่าวชมมู่หย่าหลันโดยไม่ทิ้งร่องรอย หวังชนะใจสาวงามให้ได้
แน่นอน จางเหยียนเองก็ไม่ได้ใจดีที่ไปชี้แนะต่อหลี่ชิเย่ แค่ต้องการอาศัยโอกาสนี้ทำให้สาวงามมีความนิยมชมชื่น และเบี่ยงแบนหัวข้อสนทนาออกไป ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้น มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดสาวงาม มิฉะนั้น หากทุกคนอยู่ในสภาพที่กร่อยแบบนี้ ไม่สามารถทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาได้ ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดอยู่แล้ว
เพียงแต่ปฏิกิริยาของมู่หย่าหลันยังคงเย็นชาอย่างยิ่ง ยังคงยืนท่าทีเหินห่างอย่างนั้น จ้องมองดูหลี่ชิเย่
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นะเนี่ย” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา เงยหน้ามองดูมู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “ดูท่าข้าควรจะขอพระแท้จริงแล้วล่ะ”
“คิดจะได้รับการชี้แนะจากหมอเทวดามู่และเทพธิดาฉิน ก็ไม่ดูว่าตัวเองเป็นใคร” หูชิงหนิวกล่าวเย็นชาว่า “เฉกเช่นเจ้าที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนไม้ผุที่ไม่สามารถแกะสลักได้ ต่อให้ชี้แนะเจ้าก็ฟังไม่เข้าใจ”
เป็นการราดน้ำเย็นลงมาอีกตามเคย จางเหยียนถึงกับกุมขมับและร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อต้องมาเจอกับเจ้าแห่งความกร่อย ต้องยอมอย่างสิ้นเชิง
“ผู้ที่มีปณิธานเด็ดเดี่ยวย่อมประสบผลสำเร็จ ขอเพียงเจ้าพยายามไม่คลาย ไม่แน่นักอาจสามารถขุดเอาไม้เย่ามู่ได้บ้าง” สุดท้ายจางเหยียนได้แต่พูดเช่นนี้
เวลานี้เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ไม่ง่ายนักทุกครั้งกว่าที่เขาจะดึงหัวข้อสนทนาขึ้นมาได้ แต่แค่คำพูดที่อวดดีอย่างยิ่งประโยคเดียวก็ทำให้บรรยากาศเย็นลงทันที
จางเหยียนอยากจะพูดออกมาว่า พี่ท่าน ต่อให้คิดจะโอ้อวดก็ต้องดูโอกาสดูจังหวะให้ดี ทุกครั้งก็ทำให้การสนทนาต้องชะงักลง แล้วทุกคนยังจะพูดคุยกันได้อย่างมีความสุขรึ? ยังจะทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาได้รึ?
“ทุกเรื่องราวล้วนแล้วแต่มีความเป็นไปได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
“ฮึ หากดินโคลนเช่นนี้ยังขุดเอาไม้เย่ามู่ขึ้นมาได้ล่ะก็ มันคือสุดปาฏิหาริย์ในหล้าแล้ว” หูชิงหนิวยิ่งมองหลี่ชิเย่แล้วยิ่งไม่สบอารมณ์
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่ว่าเขาเอาใจต่อฉินซาวเย่าอย่างไรก็ตาม นางไม่เคยจะมองหน้าตนเองมากกว่าสักครั้ง ขณะที่กับผู้ชายที่ธรรมดากลับสามารถดึงดูดความสนใจของนางได้อย่างง่ายดาย แล้วจะไม่ให้ในใจของหูชิงหนิวดูไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษกับผู้ชายธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพียงตอบรับตามอารมณ์คำหนึ่ง
“ฮึ ถ้าหากสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้คือความมหัศจรรย์ ข้าจะมอบโชคให้กับเจ้า” หูชิงหนิวมีท่าทีดูแคลน และข่มเหงเหนือผู้คน กล่าวเสียงเย็นชาขึ้นมา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลองพนันกันดูก็ได้” คำพูดเช่นนี้ของหูชิงหนิวทำให้จางเหยียนเห็นอะไรบางอย่าง พลันมีแนวความคิดที่ดียิ่งกว่า
“พี่หูคืออัจฉริยะบุคคลของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ลงมือต้องไม่ธรรมดาแน่ ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชนะเขาได้ จะทำให้เจ้าได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว” จางเหยียนรีบยิ้มกล่าวกับหลี่ชิเย่
หูชิงหนิวส่งเสียงฮึออกมาและกล่าวว่า “พนันก็พนัน ไม่เห็นจะหนักหนาอะไร ข้ามียาครีมสวรรค์เอ็นพยัคฆ์อยู่ขวดหนึ่ง ถ้าหากเจ้าสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้ชิ้นหนึ่ง มันก็จะเป็นของเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...