หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปจากตำหนักหมีเซียนแล้ว ได้เดินทางเข้าสู่ทะเลทรายที่เวิ้งว้างของเงินทองตกพื้น
“คุณชาย พวก พวก พวกเราจะไปที่ใดกันรึ?” หลินซิม่อที่ติดตามอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่เอ่ยถามด้วยความหวั่นๆ
“ถ้าหากมีเวลาเหลือเฟือก็จะไปดูสถานที่แห่งหนึ่ง บางทีอาจมีโอกาสค้นหาสุสานกระบี่คืนให้กับเจ้าได้” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยขึ้นว่า “แต่ว่า ถ้าหากเจ้าคิดจะควบคุมมันลำพังตัวเจ้าเองทำไม่ได้อยู่แล้ว เจ้าจำเป็นต้องมีสิ่งที่สามารถทำการวิวัฒนาการสุสานกระบี่ได้ มิฉะนั้นล่ะก็ ต่อให้หามันพบก็เป็นได้แค่ชมบุปผาท่ามกลางเมฆหมอก และคว้าจันทราในธาราเท่านั้นเอง”
หลินซิม่อทำท่าลังเลนิดหนึ่ง สุดท้าย ได้หยิบเอากล่องโบราณออกมาใบหนึ่ง กล่องโบราณใบนี้มีความงดงามเรียบง่ายแบบโบราณ นางได้มอบกล่องโบราณใบนี้ให้กับหลี่ชิเย่ เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “นี่ นี่ นี่เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษพวกเราได้ทิ้งเอาไว้ให้ บรรพบุรุษท่านบอกว่ามันคือกุญแจสำคัญที่จะเอาสุสานกระบี่คืนกลับมา ไม่ทราบ ไม่ทราบว่าคุณชายสามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์หรือไม่?”
หลี่ชิเย่เปิดกล่องโบราณออก พลันปรากฏพลังกระบี่ที่ตลบอบอวลในทันที เขามองดูและกล่าวว่า “เป็นปณิธานกระบี่จริงๆ แต่ว่า ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอะไรขนาดนั้น หากเจ้าคิดจะเอาสุสานกระบี่กลับไปจริง ก็ต้องดูว่าเจ้าจะแบกรับมันไหวหรือไม่”
“ข้า ข้าจะต้องทุ่มเทความพยายามทุกอย่าง” หลินซิม่อลังเลนิดหนึ่ง สุดท้ายเงยหน้าขึ้นและมองหน้าหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีมั่นคงแน่วแน่
แม้ว่านางก็รู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ทว่า ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนเช่นใดก็ตาม นางก็จะไม่ยอมละทิ้งเด็ดขาด
“เช่นนั้นก็ดี” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะต้องเตรียมใจให้พร้อม มันจะเป็นเส้นทางที่แสนเข็ญ ความเจ็บปวดไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว”
หลินซิม่อพยักหน้าด้วยความหนักแน่นจริงจัง แววตาดูแน่วแน่มั่นคง นางไม่เกรงกลัวต่อความเจ็บปวดทุกอย่างอยู่แล้ว
หลินซิม่อเองได้มอบกล่องโบราณใบนี้ให้กับหลี่ชิเย่ กล่าวสำหรับนาง และตระกูลหลินแล้ว กล่องโบราณใบนี้มีความสำคัญมากเหลือเกิน มันเกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของตระกูลหลินของพวกเขา มีความสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่สำคัญยิ่งขนาดนี้ตามหลักแล้วนางไม่ควรมอบให้กับใครทั้งสิ้น จะอย่างไรเสียสิ่งนี้ล้ำค่ามากเหลือเกิน
ยิ่งไปกว่านั้น นางเพิ่งรู้จักกับหลี่ชิเย่ได้ไม่นานนัก และไม่ได้คบหาลึกซึ้งแต่อย่างใด แต่ทว่าไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร นาทีนี้หลินซิม่อดูจะเชื่อใจในตัวของหลี่ชิเย่อะไรอย่างนั้น เชื่อใจในตัวเขายิ่งกว่าเชื่อใจใครๆ เสียอีก แม้ว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องโบราณจะมีความล้ำค่ายิ่ง กระทั่งสำคัญมากกว่าชีวิตของนางเสียอีก เรียกได้ว่าต่อให้นางต้องแลกด้วยชีวิตก็จะไม่มอบมันออกมา
แต่ว่า เวลานี้นางกลับมอบมันให้กับหลี่ชิเย่ อีกทั้งในใจยังรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง นางไม่รู้สึกกังวลว่าหลี่ชิเย่จะฮุบเอาของๆ ตนไปอย่างสิ้นเชิง ตรงกันข้ามที่มันไปอยู่ในมือของหลี่ชิเย่ดูจะปลอดภัยยิ่งกว่าอยู่ในมือของตนเสียมากกว่า
การที่หลินซิม่อมอบกล่องโบราณให้กับตน หลี่ชิเย่ไม่ได้กล่าวอะไรมากความ จัดการเก็บมันขึ้นโดยตรง
“ขายกระบี่ ขายกระบี่ ซื้อหนึ่งเล่มลดห้าเปอร์เซ็นต์ สองเล่มลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ สิบเล่มลดสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าซื้อหนึ่งร้อยเล่มคุยกันได้…” อย่างไรก็ตาม พวกหลี่ชิเย่เพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกล ก็ได้ยินเสียงร้องขายของที่คุ้นหูมากเหลือเกิน
ในเวลานี้เอง มองเห็นพื้นที่ชายเลนที่เป็นท่าข้ามมีคนผู้หนึ่งแบกกระสอบป่านขนาดใหญ่ กำลังร้องขายกระบี่ไม้ไผ่ของตนอยู่ ร้องเรียกไปพลาง และอธิบายยกย่องในสรรพคุณของกระบี่ไม้ไผ่ตน
นอกจากคุณชายผิงเฉิงแล้ว ยังจะมีใครที่ทำเช่นนี้ได้อีก?
“หากเทพธิดามีกระบี่ไม้ไผ่ของข้าอยู่ในมือ รับรองว่าจะทำให้ท่านดูงดงามมีสง่ายิ่งขึ้นไปอีก ต้องกลายเป็นหญิงงานอันดับหนึ่งของสำนักท่าน…” ในเวลานี้เอง คุณชายผิงเฉิงจับลูกค้าที่เป็นผู้บำเพ็ญตนสาวได้หลายคน เขาทำการโฆษณาขายกระบี่ไม้ไผ่ของตนอย่างแข็งขัน รอยยิ้มที่สดใส และจริงใจเป็นที่ดึงดูดใจ และสามารถสร้างความประทับใจได้ง่ายอย่างยิ่ง
“ท่านก็คือคุณชายผิงเฉิงที่มาจากเมืองผิงเฉิงอย่างนั้นหรือ?” ลูกค้าที่ถูกคุณชายผิงเฉิงรั้งตัวไว้ซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญตนหญิงหลายคนก็เม้มปากยิ้ม และมีความงดงามน่าประทับใจเช่นกัน
จะอย่างไรเสีย คุณชายผิงเฉิงคือหนึ่งในสามคุณชายแห่งยุค มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลในหล้า ไม่ว่าจะเป็นฐานะและตำแหน่งหรือว่ารูปลักษณ์ล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยแรงดึงดูด ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายผิงเฉิงยังเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ไม่ได้ทำตัวสูงเด่นแม้แต่น้อย ผู้บำเพ็ญตนหญิงกลุ่มคนรุ่นใหม่ล้วนแล้วแต่ยินดีคบหาเป็นสหายกับเขาเป็นส่วนใหญ่
“ถูกต้อง เฉกเช่นเทพธิดาที่งดงามเช่นพวกท่าน ต้องไปเที่ยวที่เมืองผิงเฉิงของพวกเราให้ได้ สถานที่เล็กๆ ดั่งเช่นเมืองผิงเฉิงพวกเรานั้น ถ้าหากประชาชนสามารถเห็นเทพธิดาที่งดงามเช่นนี้ รับรองว่าจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน รับรองว่าต้องเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” รอยยิ้มของคุณชายผิงเฉิงดูสดใส แม้ว่าจะออกปากกล่าวชมผู้บำเพ็ญตนหญิงตรงหน้ายกใหญ่ แต่กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกที่โอ้อวดเกินจริงแม้แต่น้อย
ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นต่างส่ายหน้าหัวเราะเจื่อนๆ และมีจำนวนมากที่รู้สึกว่ามันน่าสนใจ ทุกคนเกือบจะชินชากับพฤติกรรมที่ประหลาดของคุณชายผิงเฉิงเสียแล้ว
“ถ้าเช่นนั้น พวกเราซื้อกันคนละเล่มก็แล้วกัน” สุดท้าย ภายใต้รอยยิ้มที่จริงใจและสดใสของคุณชายผิงเฉิง เหล่าผู้บำเพ็ญตนหญิงทั้งหมดถูกเขาทำให้ซาบซึ้ง ต่างควักเงินซื้อกระบี่ไม้ไผ่ของเขา
ความจริงแล้ว กระบี่ไม้ไผ่เหล่านี้ของคุณชายผิงเฉิงไม่ได้มีมูลค่าถึงเพียงนี้ แต่ทว่าผู้คนจำนวนมากต่างยินดีซื้อกระบี่ไม้ไผ่ของคุณชายผิงเฉิง ซึ่งหาใช่เป็นเพราะกระบี่ไม้ไผ่นี้มีมูลค่าอะไร แต่เป็นเพราะพวกเขายินดีคบหาเป็นสหายกับคุณชายผิงเฉิง
“ค่อยๆ เดินนะ เทพธิดาแต่ละท่าน ว่างไปเที่ยวที่เมืองผิงเฉิงนะ” คุณชายผิงเฉิงยังคงมีรอยยิ้มที่สดใสและดูอบอุ่นยิ่งนัก หลังจากขายกระบี่ได้แล้ว
“ฮ่า ฮ่าพี่ใหญ่ พวกเราพบหน้ากันอีกแล้ว” ระหว่างที่หลี่ชิเย่พาหลินซิม่อกำลังเตรียมจะช้ามทะเลอยู่นั้น พลันคุณชายผิงเฉิงได้มาปรากฏตัวต่อหน้าหลี่ชิเย่ ด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า สดใสและจริงใจ
“พี่ใหญ่ ซื้อกระบี่ไม้ไผ่นะ” พลันที่คุณชายผิงเฉิงพบหน้าหลี่ชิเย่ก็ทำการโฆษณาขายกระบี่ไม้ไผ่ของตนทันที
หลินซิม่อที่ยืนอยู่ด้านหลังหลี่ชิเย่อยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็ไม่กล้า เมื่อมองเห็นท่าทางเช่นนี้ของคุณชายผิงเฉิง นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ด้วยฐานะตำแหน่งของคุณชายผิงเฉิง ไม่มีความจำเป็นต้องมาเป็นพ่อค้าอย่างสิ้นเชิง ไม่จำเป็นต้องมาขายกระบี่ไม้ไผ่ของตนเองอยู่แล้ว แต่เขากลับแบกกระบี่ไม้ไผ่กระสอบใหญ่ไปเร่ขายให้ผู้คนทุกที่ นางคิดแล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำเช่นนี้มีความหมายอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...