ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2307

“น่าสนุก” เมื่อคุณชายผิงเฉิงมองเห็นองค์หญิงเซี่ยก็พากำลังมาส่วนหนึ่งจึงถูมือไปมาและหัวเราะกล่าวกับหลี่ชิเย่ว่า “พี่ใหญ่ ดูท่าวันนี้คงจะเป็นการตะลุมบอนครั้งใหญ่นะเนี่ย ต้องการร่วมมือกันระหว่างเราสนุกกับมันหรือไม่”

“ข้อแรก ข้าไม่ใช่พี่ใหญ่ของเจ้า” หลี่ชิเย่เหลือบมองคุณชายผิงเฉิงทีหนึ่ง กล่าวเอ้อระเหยว่า “ข้อสอง แค่มดปลวกฝูงหนึ่งเท่านั้น จะถือเป็นการตะลุมบอนครั้งใหญ่อะไรได้ แค่หนึ่งถึงสองกระบวนท่าก็จัดการพวกมันได้แล้ว”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ยอดฝีมือที่เห็นอยู่ตรงหน้าซึ่งนำโดยเหมียวเหล่ยและองค์หญิงเซี่ยมีจำนวนนับพันคน อีกทั้งยังไม่มีผู้ด้อยแม้แต่คนเดียว หลี่ชิเย่ถึงกับกล้าพูดว่าแค่หนึ่งหรือสองกระบวนท่าก็จัดการกับพวกเขาได้แล้ว คำพูดนี้ออกจะยโสเกินไปแล้ว

“เจ้าคนแซ่หลี่ เจ้ากำแหงเกินไปแล้ว” จังหวะที่หลี่ชิเย่เพิ่งจะพูดขาดคำ เสียงน่าเกรงขามเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความยโสอย่างยิ่ง ร้องเสียงดังว่า “วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแน่นอน!”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันหันไปมอง เมื่อได้ยินคำพูดเสียงดังที่ดังขึ้นมากะทันหัน มองเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งพายอดฝีมือกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา อีกทั้งในบรรดายอดฝีมือกลุ่มนี้ยังมีไม่น้อยที่เป็นระดับเจ้าสำนัก ผู้อาวุโสตระกูลขุนนางโบราณที่เป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโส

“โจวจื้อคุน…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตกใจเมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่นำพายอดฝีมือกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

“เขาเพิ่งถูกสั่งสอนอย่างหนักไปเมื่อครู่มิใช่รึ?” ผู้บำเพ็ญตนที่เพิ่งเดินทางมาจากตำหนักหมีเซียนถึงกับพูเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อมองเห็นท่าทางที่ดุดันของโจวจื้อคุน

ไม่นานก่อนหน้านี้ ผู้คนจำนวนมากต่างเห็นมากับตาตนเองว่า หลี่ชิเย่ได้บีบกระดูกบนตัวของโจวจื้อคุนจนละเอียด ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าภายในระยะเวลาอันสั้นเขาก็ออกมากระโดดโลดเต้นได้อีกแล้ว อีกทั้งยังมีทีท่าที่ข่มผู้คน

ทุกคนไม่เข้าใจว่า โจวจื้อคุนที่เมื่อครู่ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เวลานี้กลับมีทีท่าที่เข้มขรึมดูน่าเกรงขามขึ้นมาทันที ท่าทางหยิ่งทะนงตนอีกแล้ว

“เจ้าน่ะไม่เข้าใจหรอก” ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของโจวจื้อคุนมาถึงแล้ว”

“นายน้อยมู่” ยอดฝีมือถึงกับร้องเสียงหลง และรู้สึกหวาดผวาอยู่ในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้

“ไม่ใช่” ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าส่ายหน้าและกล่าวว่า “เป็นผู้เฒ่าฝาน คนรับใช้เก่าแก่ที่อยู่ข้างกายนายน้อยมู่ ซึ่งก็คือผู้ที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้โจวจื้อคุนได้พึ่งพาผู้มีอิทธิพลได้ เริ่มต้นจากการประจบผู้เฒ่าฝานได้ก่อน แล้วทำให้เขาได้กลายเป็นอัครทูตในที่สุด”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง มิน่าเล่าเวลานี้จึงมียอดฝีมือจำนวนมากที่ออกหน้าแทนเขา” เมื่อยอดฝีมือได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วมองดูยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังโจวจื้อคุน ปรากฏว่าบรรดายอดฝีมือเหล่านี้ยังมีผู้ที่เป็นถึงระดับเจ้าสำนักหรือผู้อาวุโสของตระกูลขุนนางโบราณ

แม้ว่าโจวจื้อคุนจะถูกหลี่ชิเย่สั่งสอนขณะอยู่ด้านหน้าตำหนักหมีเซียนเมื่อครู่ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีใครยินดีออกหน้าแทนเขา เวลานี้กลับแตกต่างกัน โจวจื้อคุนนำพายอดฝีมือเหล่านี้มาด้วยความดุดันโดยตรง และในมือของยอดฝีมือเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถืออาวุธและของวิเศษพร้อมลงมือ โดยไม่ใช่มาเพื่อความคึกครื้นอีกแล้ว

โจวจื้อคุนที่ก่อนหน้านั้นถูกทำให้ขวัญหนีดีฝ่อพลันหยิ่งทะนงตนขึ้นมาได้ทันทีก็เพราะมียอดฝีมือจำนวนมากมายที่พร้อมลงมือเพื่อเขาอยู่ข้างกายนั่นเอง เนื่องจากผู้สนับสนุนของเขามาแล้ว ทำให้บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลขุนนางโบราณเหล่านี้ทยอยกันยอมเป็นลูกสมุนให้กับเขา

“เห็นทีเจ้านี่เบื่อมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ” หลี่ชิเย่ไม่เพียงไม่โกรธ ตรงกันข้ามกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา เมื่อมองเห็นท่าทีที่ดุดันของโจวจื้อคุน

“หลี่ชิเย่ เจ้ากำแหงมากเกินไปเสียแล้ว” เวลานี้โจวจื้อคุนที่อยู่ท่ามกลางการอารักขาของผู้อาวุโสหลายคนดูยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “ต่อให้เจ้าเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะ แต่ทว่าอาศัยเจ้าออกปากลบหลู่นายน้อยมู่ก็สมควรตายหมื่นครั้งแล้ว!”

“เขา เขาก็คือศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะ ผู้ปราบกบฏของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจนราบคาบนะเนี่ย ได้ยินมาว่าเขาสามารถควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ทำลายแคว้นว่านโซ่วจนแหลกละเอียด” ยอดฝีมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใหญ่ถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินคำพูดของโจวจื้อคุน

ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิต่างๆ จำนวนไม่น้อยต่างรู้เรื่องราวเกี่ยวกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เวลานี้เมื่อได้ยินชื่อหลี่ชิเย่ พวกเขาล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ทำลายล้างแคว้นว่านโซ่วขณะอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะในวันนั้นของเขา

“ดูท่าเจ้าไม่ได้นำคำพูดของข้าไปแจ้งแล้วสิ” หลี่ชิเย่ที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าและกล่าวว่า “แต่ว่า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รอให้ฆ่าเจ้าเสียก่อนยังจะต้องกลัวว่านายของเจ้าจะไม่ออกหน้ารึ? เมื่อถึงตอนนั้นก็ถือโอกาสฆ่าเขาอีกคนก็จบแล้ว”

คำพูดที่ตามอารมณ์ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องส่งเสียงจี๊ดจ๊ะออกมา เจ้าหนูนี่กำแหงเหลือเกิน ถึงกับกล้าพูดจาเอ้อระเหยว่าถือโอกาสฆ่านายน้อยมู่เสีย

“คำพูดนี้ยโสมากเกินไปแล้วกระมัง” มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา “เวลานี้นายน้อยมู่ดั่งพระอาทิตย์กลางหาว ใครกล้าล่วงเกินเขา?”

“เจ้าไม่เข้าใจเขา” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ลัทธิหนึ่งส่ายหน้าและกล่าวว่า “เจ้าหลี่ชิเย่คนนี้เป็นคนโหด เขาไม่เพียงเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะ ยังเป็นผู้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลานกำแหง ได้ยินว่าเขาเคยลั่นวาจาท้าสู้กับแดนลัทธิพรรษทั้งหมด คำพูดที่สุดโหดเช่นนี้ต่อให้เป็นนายน้อยมู่ก็ไม่แน่ว่าจะกล้าพูด แต่ว่าเขากลับพูดออกมาอย่างไม่ต้องกังวลทั้งสิ้น”

แหะ แหะ แหะ…จังหวะที่หลี่ชิเย่เพิ่งจะพูดขาดคำ เสียงที่น่าเกรงขามเสียงหนึ่งดังขึ้น “เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย นายน้อยของข้าไหนเลยที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างเจ้าจะอาจเอื้อมถึง อาศัยคำพูดนี้ของเจ้าก็สมควรถูกสับเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น!”

ในเวลานี้เองปรากฏเงาของคนผู้หนึ่งแต่ไกล เป็นผู้เฒ่าคนหนึ่งที่สวมชุดสีเทาทั้งชุด ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเทพแท้จริง พลันที่มองเห็นก็ทำให้รู้สึกขนลุกซู่ในใจ

“ผู้เฒ่าฝาน” สีหน้าของระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นผู้เฒ่าผู้นี้ พูดเสียงแผ่วเบาว่า “เป็นผู้รับใช้ข้างกายของนายน้อยมู่”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องเงียบกริบดั่งจั๊กจั่นในหน้าหนาวเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ สำหรับคนรับใช้ของนายน้อยมู่นั้นได้ยินว่าเป็นผู้ที่ติดตามนายน้อยมู่ลงมาจากเบื้องบน ทักษะยุทธของเขาไม่เห็นจะแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ แต่ฐานะของเขาไม่ธรรมดา

แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากก็ต้องรู้สึกเย็นวาบในใจเมื่อมองเห็นผู้เฒ่าที่มีชื่อว่าฝานกุ้ยซิน เนื่องจากเขาเป็นผู้รับใช้ในบ้านของนายน้อยมู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล