ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2355

สรุปบท ตอนที่ 2355 สันเขาหมื่นยอด: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปตอน ตอนที่ 2355 สันเขาหมื่นยอด – จากเรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2355 สันเขาหมื่นยอด ของนิยายActionเรื่องดัง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สันเขาหมื่นยอดคือยอดเขาแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเงินทองตกพื้น เนื่องจากมันเป็นสันเขาที่ทอดขวางอยู่บนผืนแผ่นดินที่มียอดเขาเขียวชอุ่มล้อมรอบนับพัน ดังนั้น จึงได้ชื่อว่าสันเขาหมื่นยอด

มาวันนี้ ได้มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนลัทธิพรรษจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่สันเขาหมื่นยอดแห่งนี้ อีกทั้งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง กระทั่งเป็นระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่ง

โดยเฉพาะระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลง สุสานกระบี่ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียนเรียกได้ว่ายกออกมาหมดสำนัก ระดับบรรพบุรุษจำนวนมากล้วนแล้วแต่มาที่สันเขาหมื่นยอดด้วยตนเอง มาควบคุมสถานการณ์อยู่ตรงนี้

สถานการณ์โดยรวมครั้งนี้มีนักพรตพเนจรหยางหมิงดำเนินการด้วยตนเอง แม้จะกล่าวว่านักพรตพเนจรหยางหมิงไม่ได้เป็นผู้บัญชาการใต้หล้า และกระทำการโดยพละการด้วยการขอให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของแดนลัทธิพรรษทั้งหมดต้องเข้าร่วม แต่ว่า ยังคงมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนมากได้เข้าร่วมงานยิ่งใหญ่ที่สันเขาหมื่นยอด

งานยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่สนับสนุนมู่เส้าเฉินอย่างเต็มที่ และหรือมีจุดประสงค์อื่นต่างทยอยกันร่วมงาน

แม้ว่างานยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะริเริ่มให้มีการจัดขึ้นโดยนักพรตพเนจรหยางหมิงเป็นการขณะเกิดเหตุ แต่ทว่า คนที่ฉลาดต่างรู้ดีว่า งานยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมของแดนลัทธิพรรษ หากว่ามู่เส้าเฉินเป็นฝ่ายได้เปรียบ เช่นนั้นแล้วอาจมีความเป็นไปได้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่นานมาก มู่เส้าเฉินจะเป็นผู้ที่บงการสถานการณ์ทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษ

ถ้าหากมู่เส้าเฉินร่วมมือกับพวกระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใหญ่อย่างจูเซียงหวู่ถิงเหล่านี้ ด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่งเช่นนี้หากเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาล่ะก็ ยอมบ่งบอกว่าเมื่อถึงเวลานั้นมู่เส้าเฉินในฐานะผู้มีอิทธิพลเสนอสิ่งใดขึ้นมา ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนก็จะคล้อยตาม หากถึงขั้นนั้นจริงๆ ใช่เพียงสามารถสั่นคลอนต่อฐานะของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่เข้มแข็งอย่างพรรคหยายหมิงเหล่านั้นในแดนลัทธิพรรษเท่านั้น กระทั่งมีความเป็นไปได้ที่กุมสถานการณ์ทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษไว้ในมือ

ดังนั้น ผู้มีปัญญาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิบางแห่งได้กลิ่นที่ไม่ปรกติอย่างชัดเจน งานใหญ่เช่นนี้ไม่เพียงแค่ตัดสินว่าหลี่ชิเย่เป็นจอมมารหรือไม่เท่านั้น และไม่ใช่แค่จะปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างแดนลัทธิพรรษกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแห่งต่อไปในแดนลัทธิพรรษเท่านั้น

ภายในระยะเวลาอันสั้น มองเห็นยอดฝีมือที่รวมตัวกันในสันเขาหมื่นยอดเป็นจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาจากทั่วทุกสารทิศต่างทยอยกันปรากฎตัวขึ้นที่สันเขาหมื่นยอด ชั้นบรรพบุรุษระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่ปรกติจะไม่ปรากฎตัวในยุทธภพก็ทยอยกันปรากฎตัวที่สันเขาหมื่นยอด เมื่อเป็นดังนี้แล้ว บรรยากาศโดยรวมของสันเขาหมื่นยอดจึงดูบีบเค้นมากเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะเมื่อบรรดาระดับบรรพบุรุษของพวกระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงมาถึง ได้พกพาปณิธานการฆ่าที่เข้มข้นแสดงออกทางใบหน้าของพวกเขา ซึ่งสร้างกลิ่นอายการฆ่าที่รุนแรงอย่างยิ่งตลบอบอวลไปทั่วทั้งสันเขาหมื่นยอด

เนื่องจากงานยิ่งใหญ่ที่จัดให้มีขึ้นที่สันเขาหมื่นยอดมีนักพรตพเนจรหยางหมิงจัดให้มีขึ้นกะทันหัน ดังนั้นจึงมีพรรคหยางหมิงเป็นผู้รับผิดชอบด้านระเบียบภายในงาน เวลานี้เองได้แสดงให้เห็นสถึงศักยภาพที่ปราศจากผู้เทียบเทียมของพรรคหยางหมิง ต่อให้งานใหญ่ที่จัดขึ้นกะทันหัน ระเบียบภายในสันเขาหมื่นยอดยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้เกิดเหตุวุ่นวายใดๆ ขึ้นมา

โดยเฉพาะเมื่อมีนักพรตพเนจรหยางหมิงนั่งบัญชาการที่สันเขาหมื่นยอดด้วยตนเอง แม้ว่าจะมีระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนมากที่มาร่วมงาน ต่างปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่มีใครที่ถือตัวด้านฐานะทำลายกฎระเบียบของงานยิ่งใหญ่นี้

นอกจากนักพรตพเนจรหยางหมิงจะนั่งบัญชาการที่สันเขาหมื่นยอดด้วยตนเอง ด้านหลังของนางยังมีระดับบรรพบุรุษอย่างนักบวชหยางหมิงที่ร่วมเดินทางมาด้วย บวกกับยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยของพรรคหยางหมิงที่อยู่ในเหตุการณ์ เรียกได้ว่ากระบวนทัพของพรรคหยางหมิงนั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ที่สันเขาหมื่นยอด นอกเหนือจากพรรคหยางหมิงแล้ว ยังมีระดับบรรพบุรุษของจูเซียงหวู่ถิง ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงที่เป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่เข้มแข็งเข้านั่งประจำที่บนสันเขาหมื่นยอดตามลำดับ สำหรับยอดฝีมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่บนยอดเขาจำนวนมากที่อยู่รอบๆ สันเขาหมื่นยอด เมื่อเป็นเช่นนี้จึงกลายเป็นว่ามีสันเขาหมื่นยอดเป็นศูนย์กลาง และมีภูเขาทั้งหมดล้อมรอบ

รูปแบบการจัดวางเช่นนี้ก็เป็นการบ่งบอกเป็นนัยๆ ถึงสถานการณ์โดยรวมของแดนลัทธิพรรษว่า สภาพโดยรวมของแดนลัทธิพรรษยังคงอาศัยพรรคหยางหมิง จูเซียงหวู่ถิงพวกเขาเหล่านี้เป็นแกนกลาง บงการสถานการณ์ทั้งหมดของแดนลัทธิพรรษ

ภายในระยะเวลาอันสั้น สันเขาหมื่นยอดได้มีระดับบรรพบุรุษของเหล่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเป็นจำนวนมากของแดนลัทธิพรรษมาชุมนุมกัน ทำให้ทั่วทั้งสันเขาหมื่นยอดดูแออัดยัดเยียดคึกคักยิ่งนัก

“นี่จะมีการไตร่สวนสวนและตัดสินหลี่ชิเย่จริงๆ รึ?” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงกับเอ่ยถามขึ้นเบาๆ เมื่อมองเห็นสถานการณ์เช่นนี้

“ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น” ผู้อาวุโสส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เกรงว่างานยิ่งใหญ่คราวนี้จะเป็นการตัดสินถึงสถานการณ์เกี่ยวกับอนาคตในช่วงระยะเวลาหมื่นปีของแดนลัทธิพรรษ กระทั่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าสามารถบงการถึงความเจริญรุ่งเรืองและตกต่ำลงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเป็นจำนวนมากของแดนลัทธิพรรษ”

“นี่ นี่มันเป็นการไตร่สวนและพิพากษาว่าหลี่ชิเย่เป็นจอมมารหรือไม่มิใช่รึ? ทำไมถึงไปเกี่ยวพันถึงเจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอยของแดนลัทธิพรรษเล่า?” กลุ่มคนรุ่นใหม่มองสั้นจึงไม่เข้าใจ

“อนาคตเจ้าก็จะรู้เองแหละ” ผู้อาวุโสไม่ได้พูดมากความ มองดูข้างหน้าที่เต็มไปด้วยผู้คนด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมจริงจัง

มีจำนวนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่เดินทางมาเข้าร่วมงานยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลี่ชิเย่ในฐานะที่เป็นเป้าหมายถูกสอบสวนกลับไม่มีข่าวคราว เหมือนวัวดินลงทะเลไม่เห็นแม้แต่เงา

“นักพรตพเนจร ถ้าหากจอมมารอย่างหลี่ชิเย่ไม่ยอมปรากฎตัว แล้วจะจัดการประชุมเพื่อพิพากษาครั้งนี้อย่างไร?” ในระหว่างที่หลี่ชิเย่ยังไม่ได้มาเข้าร่วมงาน ระดับบรรพบุรุษของสุสานกระบี่ได้ริเริ่มเคลื่อนไหวด้วยการซักถามนักพรตพเนจรหยางหมิง

“จูเซียงหวู่ถิงของพวกเจ้าวางใจเถอะ” หลังจากที่ระดับบรรพบุรุษของจูเซียงหวู่ถิงพูดจบ นักพรตฉางเซิน ได้พูดเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “หุบเขาอมตะของข้าเป็นประกันให้กับเขา หลี่ชิเย่จะต้องปรากฏตัวขึ้นในงานไตร่สวนยิ่งใหญ่นี้แน่นอน! ถ้าหากพวกเจ้าไม่ต้องการให้เขาปรากฏ ให้เลิกล้มความตั้งใจนี้เสีย”

“แหะ แหะ นักพรต ขออนุญาตพูดคำพูดที่ล่วงเกิน” ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงหัวเราะน่าครั่นคร้ามขึ้นมาและกล่าวว่า “เกรงว่าพวกเจ้าหุบเขาอมตะเป็นพวกเดียวกันมานานแล้ว พวกเจ้าสมคบคิดกัน มีสิทธิ์อะไรมารับประกันให้หลี่ชิเย่”

นักพรตฉางเซินเหลือบมองระดับบรรพบุรุษผู้นี้ทีหนึ่ง ไม่แสดงอาการโกรธ ยิ้มแต้และกล่าวว่า “หุบเขาอมตะของข้าไม่มีสิทธิ์? เช่นนั้นแล้วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงพวกเจ้า ไม่สิ พรรคบูชาจันทราพวกเจ้านับเป็นตัวอะไร แค่พวกปรสิตที่เป็นนกเขาแย่งรังของนกสาลิกาฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่สามารถมาอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ง่ายนักกว่าจะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้ กล้ามาดิ้นอยู่ตรงหน้าหุบเขาอมตะของข้า”

คำพูดเช่นนี้ของนักพรตฉางเซินนับว่าพาลปราศจากผู้เทียบเทียม พลันที่คำพูดนี้ได้พูดออกมาคือการตบหน้าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงเข้าให้ฉาดใหญ่ เวลานี้ทำให้ผู้คนถึงกับส่งเสียงจี๊ดจ๊าดออกมา แม้จะกล่าวว่าทุกคนต่างรับรู้เรื่องราวของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลง แต่ไม่มีใครอยากจะพูดถึง มันเป็นการทำลายมิตรภาพระหว่างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ

เวลานี้นักพรตฉางเซินออกปากเย้ยหยันต่อหน้าผู้คนทั่วหล้าโดยตรง ซึ่งจุดนี้ไม่เหมือนท่วงทีที่เก็บตัวของหุบเขาอมตะในอดีตแม้แต่น้อย

“เจ้า…” ระดับบรรพบุรุษผู้นี้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงลุกขึ้นยืนโดยพลัน จ้องมองนักพรตฉางเซินอย่างโกรธแค้น กล่าวเสียงเย็นชาว่า “นักพรตฉางเซิน คำพูดของเจ้าเกินไปแล้วนะ มองว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงของพวกเราไม่มีคนหรือไร?”

“มองว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงพวกเจ้าไม่มีคนแล้วอย่างไร” นักพรตฉางเซินหัวเราะโดยไม่ใส่ใจ และกล่าวว่า “หรือจะต้องกลัวระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงพวกเจ้า”

“นักพรต คำพูดนี้เกินไปแล้ว” เวลานี้ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียนออกปากกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ต่อให้หลี่ชิเย่เป็นศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะพวกเจ้าจริง แต่ว่า หากหุบเขาอมตะคิดจะรับประกันให้เขาใช่ว่าจะง่ายดาย…”

“ไม่มีอะไรง่ายไม่ง่ายหรอกนะ” นักพรตฉางเซินกล่าวตัดบทระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียน กล่าวเฉยเมยว่า “ก็แค่คนแซ่มู่คนหนึ่งมิใช่รึ? มีอะไรนักหนา ต้องการให้หุบเขาอมตะของข้าเชิญราชันแท้จริงจากแดนลัทธิเซียนลงมาสักคนหรือไม่ ในเมื่อทุกคนจะทำการใหญ่ ก็ทำให้มันยิ่งใหญ่เป็นอย่างไรเล่า! ไม่ต้องทำเป็นหลบๆ ซ่อนๆ ทุกคนเผยธาตุแท้ภายในออกมาก็แล้วกัน ผดุงคุณธรรมขจัดมารอะไรนั่น พยายามยกย่องตัวเอง แค่สุภาพบุรุษจอมปลอมฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง”

…………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล