ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงขณะมองดูหยางฟู่ฝาน แม้แต่บรรดาอัจฉริยะบุคคลรุ่นเยาว์จำนวนไม่น้อยที่มองว่าตัวเองสูงเด่นกว่าใคร กระทั่งอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
การที่หยางฟู่ฝานสามารถทำให้ผู้คนต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงเช่นนี้ หาใช่เป็นเพราะอาจารย์ของเขาคือราชันแท้จริงปาเจิ้น ยิ่งไม่ได้เป็นเพราะเขามีชาติกำเนิดมาจากแคว้นว่านเจิ้น
แต่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมของเขา สมควรทราบว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นเพียงราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาเท่านั้นเอง ขณะที่หยางฟู่ฝานในฐานะศิษย์ของราชันแท้จริงปาเจิ้น เขาคือระดับเทพแท้จริง ขั้นสวรรค์ชั้นที่สามแล้ว
แม้ว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นในฐานะราชันแท้จริงขั้นสองลัคนายากจะเทียบเคียงกับราชันแท้จริงขั้นอมตะได้ แต่ระดับเทพแท้จริงทั่วไปไม่สามารถต่อกรกับเขาได้อยู่แล้ว
ปัญหาก็คือ หยางฟู่ฝานนั้นอายุเยาว์วัยมาก เข้าเป็นศิษย์ของราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ไม่นานนักก็คือระดับเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นที่สามแล้ว ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าพรสวรรค์ของเขานั้นสูงมากแค่ไหน
กระทั่งมีคนพูดว่า พรสวรรค์ของหยางฟู่ฝานนั้นสูงกว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขาเสียอีก และปราดเปรื่องน่าทึ่งกว่าราชันแท้จริงปาเจิ้น ไม่แน่นักสักวันหนึ่งเขายังจะสามารถล้ำหน้ากว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขา
มาวันนี้ หยางฟู่ฝานมาขอพบฉินเจี้ยนเหยาในนามตัวแทนของราชันแท้จริงปาเจิ้นย่อมไม่เหมือนกัน
“พักนี้ราชันแท้จริงปาเจิ้นสบายดีรึ” หลายวันมานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไปเยี่ยมคารวะฉินเจี้ยนเหยา แต่นางก็ไม่รับแขกโดยหลีกเลี่ยงที่จะพบ แต่ว่า เมื่อหยางฟู่ฝานมาขอพบนางยังคงยกเว้นให้พบได้เป็นกรณีพิเศษ
สามารถได้รับการยกเว้นจากฉินเจี้ยนเหยาให้เข้าพบได้ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เป็นความจริงที่หยางฟู่ฝานนั้นปราดเปรื่องน่าทึ่งในหล้า การที่เขาสามารถได้รับอนุญาตจากฉินเจี้ยนเหยาให้เข้าพบได้ไม่เพียงเพราะราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขาเท่านั้น ขณะเดียวกัน เขาก็นับเป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีพลังแฝงไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง
ในข้อนี้ หม่าจินหมิงที่มีชาติกำเนิดมาจากกองทัพส่วนกลางก็เทียบไม่ได้กับหยางฟู่ฝานแล้ว แม้จะกล่าวว่าหม่าหมิงชุนบิดาของหม่าจินหมิงจะเป็นแม่ทัพของกองทัพส่วนกลาง และเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ศักยภาพของเขามีความแข็งกร้าวและพาลอย่างแน่นอน
แต่ทว่า หม่าจินหมิงยังคงไม่ได้รับความโปรดปรานจากฉินเจี้ยนเหยา ย่อมเป็นการบ่งชี้ว่าผู้คนมั่นใจในตัวหยางฟู่ฝานมากกว่ามากทีเดียว
“เรียนเทพธิดา เร็วๆ นี้ท่านอาจารย์ได้กักตนเพื่อบรรลุ” หยางฟู่ฝานรีบโค้งคำนับและกล่าวขึ้น
“ราชันแท้จริงปาเจิ้นต้องการบุกเบิกลัคนาที่สามแล้วรึ? ”
“เรียนเทพธิดา การกักตนของท่านอาจารย์ไม่ได้เพื่อลัคนาที่สาม แต่เป็นการบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้” หยางฟู่ฝานกล่าวตอบ
ค่ายกลโบราณจูเซียน…ฉินเจี้ยนเหยาเองก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ และกล่าวว่า “ความรู้แจ้งรู้จริงด้านค่ายกลของราชันแท้จริงปาเจิ้น ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงได้ในยุคนี้อีกแล้ว นึกไม่ถึงเขาต้องกักตนเพื่อทำความบรรลุ เช่นนี้แสดงว่าเขาได้รู้ลึกถึงแก่นของค่ายกลโบราณแล้วสิ เยี่ยมมาก เกรงว่าวันที่เขาออกจากการกักตนก็จะเป็นวันที่สำเร็จโดยสมบูรณ์”
“อาศัยคำพูดที่เป็นมงคลของเทพธิดา” หยางฟู่ฝานรีบเร่งกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ก่อนกักตนก็มีความรู้ประสบการณ์อยู่มากทีเดียวอยู่ก่อนแล้ว มาคราวนี้คือต้องการตรองให้ทะลุปรุโปร่งถึงแก่นที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมของค่ายกลโบราณ ดังนั้น จึงได้กักตนเป็นกรณีพิเศษ”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยากจะมีใครสามารถควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนได้” ฉินเจี้ยนเหยาพยักหน้าและกล่าวชื่นชมคำหนึ่ง “หากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถทำความบรรลุค่ายกลดังกล่าวนี้ได้ จะต้องเหมือนดั่งพยัคฆ์ติดปีก เกรียงไกรทั่วหล้า”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น อนาคตยังคงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเทพธิดา” หยางฟู่ฝานรีบเอ่ยขึ้นมา
การที่ได้รับคำชื่นชมเช่นนี้จากฉินเจี้ยนเหยา ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบตระหนกอยู่ในใจ และผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกอิจฉา
ค่ายกลโบราณจูเซียน…ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากต่างไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเมื่อได้ยินคำพูด่ของหยางฟู่ฝาน แต่ว่า ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยกลับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณต่างก็มีท่าทีรู้สึกเย็นวาบบ
“ค่ายกลโบราณจูเซียนแข็งแกร่งมากรึ? ” กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักค่ายกลโบราณจูเซียน อดที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัยไม่ได้
“แข็งแกร่งมาก” ระดับบรรพบุรุษกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “แคว้นว่านเจิ้นอาศัยค่ายกลเป็นหนึ่งในหล้า นอกจากตัวแคว้นว่านเจิ้นเองที่เป็นสุดยอดค่ายกลใหญ่แล้ว สามสุดยอดค่ายกลแคว้นว่านเจิ้นเรียกได้ว่าเป็นที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งในหล้า แต่ทว่า ลำพังอาศัยเรื่องของค่ายกลอย่างเดียว ค่ายกลโบราณจูเซียนอยู่เหนือสุดยอดค่ายกลใหญ่ทั้งสาม…”
“…อีกทั้งค่ายกลโบราณจูเซียนไม่ได้สร้างขึ้นโดยราชันแท้จริงของแคว้นว่านเจิ้น มันเป็นค่ายกลโบราณที่มีความโบราณอย่างยิ่งและมีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน มีอานุภาพสูงมาก คำว่า ‘จูเซียน’ สองคำก็เพียงพอที่จะบ่งบอกถึงอานุภาพของมันแล้ว แต่ทว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาในแคว้นว่านเจิ้นมีผู้ที่สามารถควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนได้อย่างแท้จริงมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจากมันทรงพลังมากเกินและลึกซึ้งยอดเยี่ยมเกินไป กระทั่งมีผู้กล่าวว่า คิดจะควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนขั้นต่ำจะต้องเริ่มด้วยระดับราชันแท้จริง…” ครั้นระดับบรรพบุรุษผู้นั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ได้หยุดนิดหนึ่ง ท่าทางหนักแน่นจริงจัง และกล่าวว่า “ถ้าหากปล่อยให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นทำความบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนได้ล่ะก็ นับว่ายอดเยี่ยมมากจริงๆ แม้ว่าเขาจะเป็นราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาแต่ก็จะไม่ด้อยไปกว่าราชันแท้จริงขั้นสามลัคนา กระทั่งมีโอกาสสู้กับราชันแท้จริงขั้นสี่ลัคนาได้”
การต่อสู้ข้ามขั้นของราชันแท้จริง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างเสียวสันหลังวาบบ เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว
ผู้ที่มีความรู้ล้วนแล้วแต่ทราบดีว่า เรื่องศักยภาพของราชันแท้จริงมีความเข้มงวดยิ่ง ภายใต้กฎเกณฑ์ปรกติ ราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาจะไม่ใช่คู่ต่อสู่ของราชันแท้จริงขั้นสามลัคนาอย่างเด็ดขาด การมีลัคนาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแน่นอน เว้นแต่ฝ่ายตรงข้ามจะงัดเอาอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาใช้ มิฉะนั้นล่ะก็ ภายใต้กฎเกณฑ์ปรกติแล้วหากคิดจะท้าสู้ข้ามรุ่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง
แต่ทว่า หากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถทำความบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนและถึงกับสามารถท้าสู้ข้ามรุ่นได้ กระทั่งสามารถสู้กับราชันแท้จริงขั้นสี่ลัคนาก็เป็นได้ ช่างเป็นค่ายกลโบราณที่น่ากลัวเพียงใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...