ชื่อเสียงของฮ่องเต้องค์ใหม่โด่งดังขจรไกลมานานแล้ว ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เวลานี้ใครบ้างไม่รู้จักฮ่องเต้องค์ใหม่ ดังนั้น เมื่อมองเห็นฮ่องเต้องค์ใหม่จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่แสดงท่าทีเหยียดหยามออกมา และมีคนจำนวนมากที่เมินใส่ฮ่องเต้องค์ใหม่ ต่อให้ไม่แสดงท่าทางที่เหยียดหยามออกมา สีหน้าก็แฝงด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
ผู้คนส่วนใหม่ที่มองเห็นหลิ่วชูฉิงแล้ว ต่างรู้สึกเจ็บใจแทนและรู้สึกเสียดายแทน องค์หญิงหลินไห่ที่เป็นสาวงาม เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ กลับจะต้องมาถูกฮ่องเต้องค์ใหม่ที่เป็นสวะทำให้ลำบากไปชั่วชีวิต
หวนนึกไปถึงวันนั้น วันที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังครองราชย์อยู่ หากมีโอกาสได้พบกับฮ่องเต้องค์ใหม่ล่ะก็ เกรงว่าผู้คนจำนวนมากแทบอยากจะวิ่งเข้าไปคุกเข่าแทบเท้าและเลียเท้าฮ่องเต้องค์ใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป
แต่ทว่า เวลานี้ ณ ท่าเรือขนาดเล็กเช่นนี้ แม้ว่าจะมีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ยืนอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ว่าไม่มีสักคนที่ยินดีเข้าไปทักทายฮ่องเต้องค์ใหม่ ไม่มีใครยินดีเข้าไปทักทายปราศรัยกับฮ่องเต้องค์ใหม่สักคน ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ใยดีต่อฮ่องเต้องค์ใหม่
แม้ว่าผู้คนจำนวนมากต่างดูถูกเหยียดหยามในตัวฮ่องเต้องค์ใหม่ และเมินใส่ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็ตาม แต่หลิ่วชูฉิงยังคงสนิทกับหลี่ชิเย่เช่นนั้น จังหวะที่หลี่ชิเย่คล้องแขนของนางนั้น นางได้ซบกับไหล่ของหลี่ชิเย่อย่างสนิทสนม
นาทีนี้กล่าวสำหรับหลิ่วชูฉิงแล้ว รู้สึกหวานชื่นอยู่ในใจ สามารถสนิทชิดใกล้จูงมือด้วยกันกับหลี่ชิเย่ มันเป็นสุขยิ่งสำหรับนางแล้ว และเต็มเปี่ยมสำหรับนางแล้ว หัวใจดวงนั้นของนางแช่อยู่ความหวานชื่น ส่วนคนอื่นจะมองหลี่ชิเย่อย่างไรนั้น นางไม่ได้ใส่ใจ
ตูมในเวลานี้เอง เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นทัพอาชาขบวนหนึ่งวิ่งฮ้อเข้ามา ด้วยพลังที่เสมือนดั่งดันภูเขาพลิกน้ำทะเลอย่างนั้น ความรวดเร็วของทัพอาชาที่วิ่งฮ้อเข้ามานั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ดุจดั่งน้ำหลากทีเป็นเหล็กไหลพุ่งชนเข้ามา ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านการโจมตีของมันได้
ทัพอาชาขบวนนี้มีไพร่พลเพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้นเอง แต่ทว่า สามารถมีท่าทีที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ ย่อมสามารถประเมินได้ว่า กองทัพอาชาลักษณะเช่นนี้มันน่าสยองขวัญและช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้
ฮี้เสียงม้าที่ร้องคำรามขึ้นมา ทัพอาชาขบวนนี้วิ่งฮ้อเข้ามาด้วยความเร็วที่สูงมาก ขณะที่วิ่งฮ้อมาถึงนั้นได้สร้างความหวาดผวาแก่ผู้คนอย่างยิ่ง ผู้คนจำนวนไม่น้อยตระหนกตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
แต่ทว่า ท่ามกลางเสียงม้าร้องนั้น ทัพอาชาขบวนนี้ก็ได้หยุดกึกลง ม้าศึกได้ยกเท้าหน้าขึ้นเสมือนดั่งเป็นรูปแกะสลักที่ยืนค้างอยู่อย่างนั้น เปี่ยมด้วยพลังไปทั่วบริเวณ
“ดี” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันปรบมือร้องเสียงเชียร์เสียงดัง เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
“ไม่เสียทีที่เป็นกองทัพตระกูลหม่า ไม่เสียทีที่เป็นกองทัพที่คลุกคลีอยู่กับสมรภูมิรบมานาน ไม่เสียทีที่เป็นส่วนของกำลังรบที่แข็งแกร่งของกองทัพส่วนกลาง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยส่งเสียงเชียร์และกล่าวชื่นชม เมื่อได้มองเห็นกองทัพอาชาที่มีอยู่สิบกว่าคนขบวนนี้ที่อยู่ตรงหน้า
ทัพอาชาขบวนนี้เป็นกองกำลังรบที่แข็งแกร่งนำโดยหม่าจินหมิงนั่นเอง เวลานี้เขานั่งอยู่บนหลังม้ามองดูอย่างทระนง และเสพสุขกับการส่งเสียงเชียร์จากผู้คนจนพอใจแล้ว จึงได้ก้าวกระโดดลงมาจากม้าศึก
“คุณชายหม่า ไม่พบกันเสียนาน” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันเดินไปกล่าวทักทายต่อหม่าจินหมิงเมื่อเขาได้กระโดดลงมาจากหลังม้าแล้ว ยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากดูจะแสดงออกถึงความสนิทสนมกับหม่าจินหมิงยิ่งนัก
ในเวลานี้ ข้างกายของหม่าจินหมิงห้อมล้อมไปด้วยผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย จำนวนนั้นมีผู้ที่คอยประจบเขาอยู่ไม่น้อยทีเดียว ข้างกายของหม่าจินหมิงเรียกได้ว่าเป็นดาวล้อมเดือน เทียบกับสภาพที่เงียบเหงาวังเวงทางด้านของหลี่ชิเย่แล้ว เห็นภาพแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน
ลองนึกภาพดู ครั้งนั้นขณะที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังครองบัลลังก์อยู่ เฉกเช่นหม่าจินหมิงที่บทบาทเล็กๆ ต่อให้คิดจะคุกเข่าเลียก็ต้องเข้าคิวยาวไปถึงด้านนอกตำหนักท้องพระโรงโน่น วันนี้แตกต่างจากวันวาน เวลานี้ไม่มีใครยินดีที่จะไปประจบฮ่องเต้องค์ใหม่อีกแล้ว กระทั่งละทิ้งและออกห่างไปให้ไกลด้วยซ้ำ
หม่าจินหมิงที่อยู่ภายใต้ดาวล้อมเดือนนั้นเรียกได้ว่ามีจิตใจที่ฮึกเหิม ถือเป็นผู้ที่มีความโดดเด่น เป็นมังกรแลหงส์ในหมู่ผู้คน แม้ว่าจะไม่เท่าราชันแท้จริงปาเจิ้น ไม่เท่าทังเฮ่อเสียง แต่ทว่าเขาก็นับว่าได้ยืนอยู่บนจุดสุงสุดของผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว ยากจะหาผู้ต่อกรได้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้อำนาจล้นฟ้าของผู้เป็นบิดา มีกองทัพส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพทั้งห้า ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าฐานะของหม่าจินหมิงนั้นสูงส่งเพียงใดแล้ว
ภายใต้การห้อมล้อมดุจดาวล้อมเดือน หลังจากที่หม่าจินหมิงได้ทักทายปราศรัยกับบรรดาผู้คนเหล่านั้นแล้ว สายตาได้ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ แววตาของเขาพลันเย็นชา จากนั้นเดินเข้าไปหาหลี่ชิเย่
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พลันหลีกเป็นทางเมื่อเห็นหม่าจินหมิงเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนไม่น้อยพลันเผยให้เห็นท่าทางยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปาก จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเย็นชา
แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะเชิดใส่ฮ่องเต้องค์ใหม่อยู่ในใจ กระทั่งดูถูกเหยียดหยามฮ่องเต้องค์ใหม่ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วยังไม่ต้องการไปหาเรื่องฮ่องเต้องค์ใหม่ จะอย่างไรเสียผู้ยิ่งใหญ่แม้ตายไปก็ยังคงมีอิทธิพลอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฮ่องเต้องค์ใหม่คือผู้ที่เคยกุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาก่อน จะมากหรือน้อยก็ยังคงมีบารมีเหลืออยู่บ้าง โดยเฉพาะปัจจุบันราชวงศ์โต่วเซิ่นยังคงอยู่
หม่าจินหมิงเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ แต่ทว่า หลี่ชิเย่เพียงจ้องมองทิวทัศน์ของทะเลสาบเท่านั้น ไม่ได้มองหน้าเข้าแม้แต่แวบเดียว
“หลี่ชิเย่” หม่าจินหมิงกล่าวน้ำเสียงเย็นชาเมื่อเดินเข้าไปใกล้
หลี่ชิเย่ไม่ได้มองหน้าเขาแม้แต่แวบเดียว และขี้คร้านจะไปตอบ เพียงจ้องมองทิวทัศน์ของทะเลสาบ เหมือนว่าไม่ได้ยินคำพูดของเขาอย่างนั้น
ในเวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่สังหารเจิงยี่ปิง ขณะที่เจิงยี่ปิงก็คือน้องของหม่าจินหมิงซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เกรงว่าหม่าจินหมิงจะไม่ยอมเลิกราเพียงเท่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้องค์ใหม่ในปัจจุบันได้สูญเสียอำนาจไปแล้ว ขณะที่หม่าจินหมิงดั่งพระอาทิตย์ที่ขึ้นอยู่กลางหาว ถ้าหาหม่าจินหมิงต้องการสังหารฮ่องเต้องค์ใหม่ มันเป็นเรื่องที่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่ว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้ให้ความสนใจต่อหม่าจินหมิงแม้แต่น้อย พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องมองหน้ากันและกัน แม้ฮ่องเต้องค์ใหม่จะสูญเสียแผ่นดินไปแล้ว แต่มาดนั้นนับว่ายังมากพอดูอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...