ป่าหินของเกาะเซียนหลีตั้งอยู่ที่บริเวณใจกลางของเกาะเซียนหลี ณ ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยหินแปลกที่มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ ก้อนหินที่ชูสลอนตั้งขึ้นเหมือนต้นไม้ในป่า ดุจดั่งที่ตรงนี้คือโลกของก้อนหิน ภูเขาเล็กๆ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้คล้ายดั่งเป็นต้นไม้หินแต่ละต้นที่ขึ้นเจริญเติบโตอยู่ตรงนี้
ดังนั้น เมื่อยืนมองลงไปจากที่สูง ภูเขาที่ตั้งตระหง่านเป็นชั้นๆ มองดูแล้วก็เหมือนหนึ่งเป็นป่าหินขนาดใหญ่อย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เองสถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่าป่าหิน
ด้านในสุดของป่าหินถึงกับมีแท่นหินตั้งอยู่ ด้านหลังของแท่นหินเป็นภูเขาสองลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ โดยที่ภูเขาทั้งสองลูกซ้ายขวาเหมือนโอบกอดกัน และดูเหมือนเป็นฉากกั้นที่โอบกอดแท่นหินเอาไว้
อย่างไรก็ตามด้านหลังแท่นหินมีขั้นบันไดหินที่เดินขึ้นไปได้ เมื่อขึ้นไปถึงบริเวณกึ่งกลางเขาทั้งสองลูกกลับมีแท่นสูงแท่นหนึ่ง บนแท่นสูงมีเก้าอี้หินอยู่ตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแท่นหินหรือเก้าอี้หิน กระทั่งบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไป ล้วนแล้วแต่คล้ายสลักขึ้นมาจากภูเขาทั้งสองลูกที่อยู่ด้านหลังนั่น ดูเป็นเนื้อเดียวกัน
บันไดหินทั้งสองข้างปรากฏมนุษย์หินแต่ละตัวยืนอยู่ โดยที่มนุษย์หินแต่ละตัวเหล่านี้คล้ายเป็นองครักษ์อย่างนั้น ในมือถือขวานสองคมหิน ยืนตัวตรงไปตามบันไดหินซ้ายขวาทั้งสองข้าง เหมือนว่ากำลังเฝ้าปกป้องอะไรบางอย่าง
เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นแท่นหินหรือว่าบันไดหิน และหรือเก้าอี้หินที่อยู่ด้านบนล้วนแล้วแต่ว่างเว้นจากการดูแลมานาน ผ่านพายุฝนกระหน่ำมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน ทำให้สีสันจางหายไป และมุมถูกขัดเกลาลดมุมไปแล้วอย่างนั้น
ปรกติแล้วป่าหินแห่งนี้มีความเงียบสงบยิ่งนัก น้อยคนนักที่จะมาที่นี่ เพียงแต่มาวันนี้ฉินเจี้ยนเหยาได้มาจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ขึ้นที่ตรงนี้ ให้การต้อนรับผู้มีความฉลาดเป็นเลิศกลุ่มคนรุ่นใหม่ วีรบุรุษทั่วหล้า ดังนั้นจึงทำให้ที่ตรงนี้คึกคักขึ้นมาแต่วัน
ก่อนหน้านี้ก็มีคนมายุ่งอยู่กับงานที่นี้แต่เช้า พวกเขาไปมาระหว่างป่าหิน จัดวางโต๊ะเก้าอี้ภายในป่าหิน นำอาหารเลิศรสและผลไม้ไปวางเอาไว้ เพื่อต้อนรับผู้มีความฉลาดเป็นเลิศกลุ่มคนรุ่นใหม่ วีรบุรุษทั่วหล้าที่จะมาถึง
การที่ฉินเจี้ยนเหยามาจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ขึ้นที่ตรงนี้ ก็ไม่ได้จัดเป็นรูปแบบของการประชุม แต่เป็นการจัดแบบสังสรรค์เลี้ยงรับรอง แขกที่ถูกเชิญเข้าร่วมงานล้วนแล้วแต่สามารถเข้านั่งประจำที่ และหรือจับกลุ่มคุยสับเพเหระกัน หรือปรึกษาหารืองานเป็นกลุ่มเป็นก้อน
เรียกได้ว่างานเลี้ยงในวันนี้ไม่ได้กำหนดรูปแบบการจัดที่ตายตัว และบรรยากาศก็ดูคึกคักยิ่งนัก โดยภาพรวมของงานบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักอย่างยิ่ง
ผู้ที่ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะบุคคลของที่ใดที่หนึ่ง ดังนั้น กล่าวสำหรับทุกคนแล้วสามารถได้รับเชิญจากฉินเจี้ยนเหยาคือโอกาสที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ไม่พลาดโอกาสอันดีนี้ไปได้ ดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกกระตือรือร้นที่จะสำแดงตนให้เต็มที่ออกมา
ภายในป่าหินมีการจัดวางที่นั่งเต็มไปหมด แขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมาสามารถเลือกนั่งได้ตามอารมณ์ ทำให้บรรยากาศของงานเป็นไปด้วยความผ่อนคลาย แขกผู้มีเกียรติสามารถไปมาอย่างอิสระท่ามกลางงานเลี้ยง คบหาและรู้จักกับสหายคนใหม่ หรือเป็นการนั่งรำลึกความหลังสำหรับสหายเก่า
ขณะงานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น ฉินเจี้ยนเหยาได้ยกจอกคารวะและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “วันนี้เป็นวันที่อัจฉริยะบุคคลของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาร่วมสังสรรค์กัน นับเป็นวาสนาที่หาได้ยากยิ่ง ขอเชิญทุกท่านตามสบาย ไม่สนุกไม่เลิก”
คารวะเทพธิดาฉิน…แขกผู้มีเกียรติที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทยอยกันยกจอกสุราขึ้น เพื่อคารวะต่อฉินเจี้ยนเหยา เวลานี้บรรยากาศยิ่งดูคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ขึ้นสู่จุดสูงสุด
หลังจากคารวะด้วยสุรากันเสร็จสิ้น ฉินเจี้ยนเหยาได้เดินไปมาระหว่างโต๊ะอาหาร นางยังคงมีความงดงามน่าประทับใจอย่างนั้น ยังคงดุจดั่งอยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ระหว่างเดินไปแต่ละโต๊ะ นางมักจะทักทายปราศรัยต่อวีรบุรุษและอัจฉริยะบุคคลที่อยู่ในงานเลี้ยงอยู่เสมอๆ เรียกได้ว่าต่อเนื่องลื่นไหล บุคลิกเฉพาะตัวทีงดงามสุภาพเรียบร้อยและรูปร่างอ่อนช้อยงดงาม
อาจกล่าวได้ว่า ท่ามกลางงานเลี้ยงฉินเจี้ยนเหยาถือเป็นจุดสนใจที่ทุกคนติดตามโดยตลอด ไม่รู้ว่ามีสายตาจำนวนเท่าไรที่เกาะติดและเคลื่อนที่ไปกับร่างเงาของฉินเจี้ยนเหยา
และมีอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยถือโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนี้ เข้าไปพูดคุยกับฉินเจี้ยนเหยาบ้าง และหรือเดินเคยงคู่ไปกับฉินเจี้ยนเหยา ถือโอกาสอาศัยโอกาสที่หาได้ยากยิ่งใกล้ชิดกับหญิงงาม และสำแดงตนให้ดีที่สุด เพื่อช่วงชิงให้ได้รับการโปรดปรานจากหญิงงาม
นอกเหนือจากอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ถือโอกาสใกล้ชิดฉินเจี้ยนเหยาแล้ว การที่ฉินเจี้ยนเหยาจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ลักษณะเช่นนี้ขึ้นมา ก็ได้ให้โอกาสที่ดีมากแก่อัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่
กล่าวได้ว่า แขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมาในงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่เหนือผู้อื่นทั้งสิ้น และประสบความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
การที่พวกเขาสามารถมาอยู่ร่วมกันที่นี่ในวันนี้ เรียกได้ว่าสามารถรู้จักกับอัจฉริยะบุคคลจากทั่วทุกมุมโลก
ดังนั้น ท่ามกลางงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ นอกจากผู้คนจำนวนมากหวังจะหาโอกาสได้ใกล้ชิดกับฉินเจี้ยนเหยาแล้ว ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากก็คิดจะคบหาบรรดาวีรบุรุษและอัจฉริยะบุคคลคนอื่นๆ
ดังนั้น ระหว่างงานเลี้ยงจึงมีสหายเก่าสหายใหม่ต่างนั่งกันเป็นกลุ่ม และหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ พูดคุยสัพเพเหระกันขึ้นมา
ท่ามกลางอัจฉริยะบุคคลที่อยู่ระหว่างงานเลี้ยง ต้องยกให้ข้างกายทังเฮ่อเสียง หยางฟู่ฝาน และหม่าจินหมิงที่ได้รวบรวมผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่เอาไว้มากที่สุด อัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มาจากสถานที่ต่างๆ ทยอยกันไปรวมตัวอยู่ข้างกายของพวกเขา ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จักกันมาก่อน ก็จะถือโอกาสนี้ทำความคุ้นเคยสักหน่อย และหรือพูดคุยเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ขึ้นมาได้บ้าง
ภายใต้การติดตามจากผู้คนจำนวนมากเป็นกลุ่มก้อน ทังเฮ่อเสียงนั้นดูจะสงบไม่ยินดียินร้ายในลาภยศอยู่บ้าง หยางฟู่ฝานนั้นเป็นคนช่างจำนรรจา ส่วนหม่าจินหมิงนอกเหนือจากมีความลำพองใจอยู่บ้าง สายตามักจะติดตามร่างเงาของฉินเจี้ยนเหยาอยู่เสมอๆ
ฉินเจี้ยนเหยาได้แสดงความปรารถนาดีและทักทายปราศรัยกับแขกผู้มีเกียรติแต่ละคนที่อยู่ในงาน โดยไม่ได้ทำเมินเฉยกับผู้หนึ่งผู้ใด แสดงออกถึงท่วงท่าที่สง่างามเปิดเผยตรงไปตรงมา กล่าวได้ว่าท่ามกลางขมวดคิ้วด้วยความกลัดกลุ้มหรือยิ้มแย้มด้วยความยินดีของนาง ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องผูกใจรัก เรียกได้ว่าทำให้ผู้คนต้องหลงใหล
ไม่รู้ว่ามีอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนเท่าไรที่นั่งอยู่ในงานต้องจิตใจหวั่นไหว ถูกดึงดูดจนจิตวิญญาณลุ่มหลงมัวเมาในขณะนี้ เมื่อได้เห็นฉินเจี้ยนเหยาที่งดงามหนึ่งไม่มีสอง อยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนและไม่ธรรมดา
“เทพธิดาฉินนับว่าสมคำร่ำลือจริงๆ นะเนี่ย” มีอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มเล็กๆ ที่ยึดครองพื้นที่มุมๆ หนึ่งเอาไว้ มีจำนวนไม่น้อยที่แววตาเผยให้เห็นถึงความรักใคร่ชื่นชมออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...