ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2526

สรุปบท ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า
เลือนรางไม่ชัดเจนไร้ขอบเขต เขาจิ่วเหลียนซานเหมือนดั่งถูกบดบังเอาไว้ทั้งหมดอย่างนั้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมปรากฏขึ้น ทำการครอบคลุมเขาจิ่วเหลียนซานอยู่ภายในทั้งหมด

ท่ามกลางค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่ยิ่ง เต็มไปด้วยการเข่นฆ่า กระบี่ยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ผุดขึ้นมา หลังจากที่ถูกกวาดล้างโดยกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งไปแล้ว ดวงดาวบนท้องฟ้าก็เสมือนดั่งกลายเป็นฝุ่นผงที่ปลิวกระจายหายไป

ขณะที่กระบี่ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมานั้น กลิ่นอายของการเข่นฆ่าตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน เหมือนว่าสรรพสิ่งมีชีวิตที่อยู่ท่ามกลางค่ายกลกระบี่นี้ก็ต้องถูกสังหารไปในพริบตา ทั้งยังเป็นการบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไม่มีเหลือแม้แต่ซาก

‘ค่ายกลกระบี่เทียนหยวน’ ในเวลานี้เอง ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณที่มองดูเขาจิ่วเหลียนซานกลับกลายเป็นค่ายกลกระบี่แล้ว อดที่จะพึมพำขึ้นมาว่า “นี่คือค่ายกลกระบี่ที่ทรงพลังมากที่สุด เป็นหนึ่งในสามสุดยอดค่ายกลของแคว้นว่านเจิ้น”

ในเวลานี้ ทุกคนที่มองเห็นทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่ถูกค่ายกลกระบี่ที่มีขนาดยักษ์อย่างยิ่งครอบคลุมเอาไว้ทั้งหมดอยู่ในนั้น จึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรก่อนหน้านั้นราชันแท้จริงปาเจิ้นจึงได้ให้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลพุ่งลงมาจากฟ้าและปักอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานทั้งหมด เพื่อต้องการวางสุดยอดค่ายกลกระบี่ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี้เอาไว้บนเขาจิ่วเหลียนซาน

ในเวลานี้ ทุกคนอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่ได้ แคว้นว่านเจิ้นได้รับการยกย่องว่ามีค่ายกลที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง มาวันนี้ราชันแท้จริงปาเจิ้น ได้ทุ่มเทกำลังใจกำลังสมองมากมายเช่นนี้ วางสุดยอดค่ายกลกระบี่ในหล้าเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่

เสียงตึง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเองราชันแท้จริงปาเจิ้นก้าวเท้าเข้ามาและหยุดอยู่ที่เขาหงฮวงซาน สายตาที่เยือกเย็นของเขากวาดตามองผ่านไป และสายตาของเขาตกอยู่บนตัวของปิงฉือหานยวี่เป็นอันดับแรก ปิงฉือหานยวี่ในเวลานี้ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่เงียบๆ

จากนั้น สายตาของราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ ขณะที่สายตาของเขาตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่นั้น ได้เบ่งบานเป็นประกายกระบี่ที่เจิดจ้าอย่างยิ่ง เสมือนหนึ่งโลกๆ หนึ่งระเบิดขึ้น เปี่ยมด้วยกลิ่นอายน่าเกรงขามที่ปราศจากผู้ต่อกร

เมื่อศัตรูเวียนมาพบกันย่อมรู้สึกโกรธ เพียงแต่ ราชันแท้จริงปาเจิ้นยังคงเป็นราชันแท้จริง ยังมีจิตใจที่กว้างขวาง ในเวลานี้ไม่ได้เอะอะโวยวายด้วยความโกรธ

“หลี่ชิเย่…” ในเวลานี้ ราชันแท้จริงปาเจิ้นเรียกชื่อหลี่ชิเย่ออกมาตรงๆ เสียงของเขาแกร่งประดุจเหล็กและหิน เสมือนดั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ออกจากฝัก ทุกๆ คำล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยการฆ่าฟันที่รุนแรง

การพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกัน ในพริบตาเดียวนี้เองทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างอดที่จะจ้องเขม็งไปยังภาพตรงหน้าอย่างไม่ลดละ ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการพลาดสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดไป

ในเวลานี้ ฟ้าดินมีเพียงเสียงของลมหายใจอย่างนั้น เหมือนว่าแม้แต่เข็มเงินตกพื้นสักเล่มก็สามารถได้ยิน

ทุกคนต่างจ้องมองดูหลี่ชิเย่ กับราชันแท้จริงปาเจิ้นอย่างไม่กะพริบตา กล่าวได้ว่า นี่เป็นการพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกันเป็นครั้งที่สองระหว่างหลี่ชิเย่กับราชันแท้จริงปาเจิ้น

การพบกันครั้งแรก ราชันแท้จริงปาเจิ้นนำพากำลังพันธมิตรจากหกกองทัพ ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ และแคว้นว่านเจิ้นตีวังหลวงจนแตก นำทัพเข้าประชิด

ในขณะนั้น ฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นเพียงฮ่องเต้โง่เขลาที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมคนหนึ่งเท่านั้น อ่อนแอจนไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

เรียกได้ว่า เวลานั้นสามารถคาดการณ์ได้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นได้อย่างสิ้นเชิง ผู้คนเอาใจออกห่าง ฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกราชันแท้จริงปาเจิ้นขับไล่ออกจากบัลลังก์ ต้องหลบหนีไปเสมือนหนึ่งหมดที่พึ่งไร้ญาติขาดมิตร

สำหรับราชันแท้จริงปาเจิ้นในขณะนั้นเรียกได้ว่ามีจิตใจฮึกเหิม มีชื่อเสียงโด่งดังมากปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งมีทีท่าว่าจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้แทน

แต่ทว่า การพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกันอีกครั้งในวันนี้ ทุกอย่างได้กลับกลายเป็นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ทุกสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่มดปลวกทั้งสิ้น แม้แต่ราชันแท้จริงปาเจิ้นเองยังต้องตั้งมั่นพร้อมรับมือกับศัตรู

สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกยิ่งกว่าก็คือ องค์หญิงหานยวี่ คู่หมั้นของราชันแท้จริงปาเจิ้นตกอยู่ในมือของฮ่องเต้องค์ใหม่!

ท่าทางของหลี่ชิเย่ดูเอ้อระเหยสำหรับการเรียกชื่อตรงๆ ของราชันแท้จริงปาเจิ้น วางถ้วยน้ำชาในมือลง ทำท่าหาวทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนเซ็งมาก และกล่าวว่า “เจ้าใช้เวลาเตรียมตัวนานมาก น่าเบื่อจริง”

พลันที่คำพูดลักษณะเช่นนี้ถูกพูดออกมา ทำให้ผู้คนถึงกับหายใจไม่ออก ราชันแท้จริงปาเจิ้นนั้นเรียกได้ว่าสรรพวิชารวมอยู่บนตัว มีลักษณะท่าทางที่ปราศจากผู้ต่อกรอยู่ในความครอบครอง แต่ว่า ด้วยลักษณะท่าทางเช่นนี้ในสายตาของฮ่องเต้องค์ใหม่มองว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แม้ว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นในขณะนี้จะบังคับและควบคุมพลังอันน่าเกรงขามของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีท่าทีอย่างไรก็ได้ ยังคงมีท่าทางเหมือนเป็นเรื่องที่เซ็งมาก ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่ได้มองราชันแท้จริงปาเจิ้นอยู่ในสายตาเลย

สภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ยังไม่อยู่ในสายตาของฮ่องเต้องค์ใหม่ เช่นนั้นแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่มีความแข็งแกร่งเช่นใด มีความน่ากลัวเพียงใด ดังนั้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่อดที่จะอึดอัดจนหายใจไม่ออก

ราชันแท้จริงปาเจิ้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ ท่าทางของเขาหนักแน่นจริงจัง สายตาดูไม่เป็นมิตร กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “วันนี้ ข้ามาเพื่อรับตัวองค์หญิงหานยวี่!” พลันที่พูดขาดคำ ดวงตาทั้งสองของเขาได้พวยพุ่งประกายที่เจิดจ้าออกมาเหมือนสามารถผ่าโลกทั้งโลกได้

ลักษณะท่าทางเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้น บ่งบอกถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาดของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

“ความกล้าหาญน่ายกย่องชมเชย มีน้ำใจ” หลี่ชิเย่ยังคงมีท่าทีที่มีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง โบกมือเบาๆ ทำท่าหาวทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้ามีความสามารถที่จะเอาตัวนางไปจากมือข้าได้หรือไม่ เจ้าต้องถามนางเสียก่อนว่านางยินดีที่จะไปกับเจ้าหรือไม่”

ท่าทางของหลี่ชิเย่ไม่ได้เห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นอยู่ในสายตาเลย ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกไม่เป็นธรรมต่อราชันแท้จริงปาเจิ้น รู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่อวดดีมากเหลือเกิน ลำพองเหลือเกิน

“องค์หญิง ท่านวางใจ ข้าจะต้องช่วยท่านออกมาให้ได้” ราชันแท้จริงปาเจิ้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทำใจสงบ แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อท่านต้องสูญเสียอิสรภาพเพราะข้า ข้าก็มีหน้าที่ที่ต้องพาท่านกลับไป!”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างแอบยกนิ้วให้เมื่อได้ยินคำพูดของราชันแท้จริงปาเจิ้น นี่แหละคือผู้ชายอกสามศอก พูดคำไหนคำนั้น ท่าทางที่แสดงถึงความรับผิดชอบ ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกเลื่อมใสศรัทธา

ปิงฉือหานยวี่ทอดถอนใจเบาๆ นางส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “คุณชายเทียนจือ ท่านยังคงไม่เข้าใจ ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่าบาท การดื้อดึงที่จะเป็นศัตรูกับฝ่าบาท มันเป็นหนทางแห่งความตาย สิ่งนี้หาใช่เพียงทำให้แคว้นว่านเจิ้นนำมาซึ่งภัยล่มสลาย และยังพลอยทำให้ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือต้องแย่ไปด้วย”

ในเวลานี้ คำพูดของปิงฉือหานยวี่ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรเสียอีก และพูดออกมาตรงๆ คำพูดเช่นนี้ไม่น่าฟังอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครก็ตามฟังแล้วก็จะรู้สึกไม่รื่นหู กระทั่งทิ่มแทงจิตใจ แต่ว่า คำพูดนี้ของปิงฉือหานยวี่กลับเป็นการพูดความจริง

ภายในใจของปิงฉือหานยวี่เข้าใจเป็นอย่างดี หากราชันแท้จริงปาเจิ้นดึงดันที่จะทำเช่นนี้ ต้องมีภัยถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน สิ่งนี้หาใช่เกี่ยวพันเพียงแค่เกียรติยศศักดิ์ศรีของพวกเขาทั้งสองเท่านั้น แต่เกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของแคว้นทั้งแคว้น และตระกูลทั้งตระกูล

พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดคำพูดเช่นนี้ออกมา ทุกคนต่างสะดุ้งภายในใจ และมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจการกระทำของปิงฉือหานยวี่ จะอย่างไรเสียผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองว่า การที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นยอมเสี่ยงภัยมากขนาดนี้มาที่นี่ก็เพื่อที่จะช่วยนาง

สีหน้าราชันแท้จริงปาเจิ้นเปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่ว่า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็สงบอารมณ์ขึ้นมาได้ เขาละสายตากลับมาจากตัวของปิงฉือหานยวี่อย่างไม่ลังเล

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงปาเจิ้นดูเฉียบขาด เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นมา แววตาของเขาได้กลับกลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม เหมือนต้องการฟันศีรษะหลี่ชิเย่ให้ขาดอย่างนั้น

ในพริบตาเดียวนั้นเอง ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้พวยพุ่งกลิ่นอายแห่งการฆ่าที่น่ากลัวออกมาทั่วร่าง ในพริบตาเดียวนี้เอง ร่างของเขาได้กลับกลายเป็นเทพสังหารอย่างนั้น ใครขวางทางเข้าล่ะก็ ฆ่าไม่มีละเว้น!

“วันนี้ ข้าจะให้เจ้ามอบศรีษะให้กับข้า! และพาองค์หญิงหานยวี่ไป มิฉะนั้นแล้ว ไม่ตายไม่เลิก” ลักษณะท่าทางราชันแท้จริงปาเจิ้น เวลานี้พลันดูเข้ม เสียงทุ้มต่ำ คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นหนักแน่นจริงจัง แทนหัวใจที่ตัดสินใจอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง

ปิงฉือหานยวี่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นตัดสินใจจะสู้ จึงไม่เกลี้ยกล่อมอีกต่อไป เนื่องจากนางรู้ว่าสิ่งนี้ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

…………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล