สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2612 ใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นวม – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2612 ใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นวม ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2612 ใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นวม
“เสียดาย โลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง” หลี่ชิเย่ไม่เห็นเป็นเช่นนี้สำหรับการยอมแพ้ และการประจบสอพรอของแขกสวรรค์ชุดเขียว กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “วันนี้ มีจุดจบเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือ พวกเจ้าต้องตายทั้งหมด!”
พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อยทีเดียว แขกสวรรค์ทั้งห้าล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว
แขกสวรรค์ชุดเขียวยอมแพ้ ยังประจบสอพรอคนโหดอันดับหนึ่งเป็นการใหญ่ ทุกคนต่างเข้าใจว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะต้องยอมให้เรื่องนี้จบลงแค่นี้ ไม่เอาเป็นเอาตายกับแขกสวรรค์ทั้งห้า นึกไม่ถึงว่า คนโหดอันดับหนึ่งกึงกับไม่ยอมถือโอกาสซื้อใจตามน้ำไป หรือต้องการให้เสียหายทั้งสองฝ่ายให้ได้
“วิธีการทำงานนับว่าอันธพาลอย่างยิ่ง” เมื่อยอดฝีมือเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่ยอมเว้นทางหนีทีไล่ให้แขกสวรรค์ทั้งห้าแม้แต่นิดเดียว ถึงกับแอบยกนิ้วโป้งให้ลับๆ
กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากแล้ว มักจะดำเนินการตามทางสายกลาง ทำการใดๆ อย่าให้มันเกินไปนัก ด้วยเหตุนี้เอง มักจะมีเรื่องที่ใหญ่มากถูกทำให้กลายเป็นเรื่องเล็กไป
“คนโหดอันดับหนึ่งนับว่ายกตนข่มท่านมากจนเกินไปแล้ว ภาษิตกล่าวไว้ว่า คนเราจะอย่างไรเสียก็ต้องเจอกันบ่อยๆ เหตุใดจะต้องให้ตายไปข้างหนึ่งให้ได้เล่า” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนก็พึมพำขึ้นมาด้วยความกังขา
พวกเขารู้สึกว่า การที่แขกสวรรค์ชุดเขียวได้ยอมแพ้แล้ว สิ่งนี้ถือว่าเพียงพอแล้วในสายตาของพวกเขา ทำไมจะต้องไปเล่นงานแขกสวรรค์ทั้งห้าถึงตายให้ได้ จะอย่างไรเสีย คนโหดอันดับหนึ่งก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไร
สีหน้าของแขกสวรรค์ชุดเขียวที่เป็นแขกสวรรค์ทั้งห้าดูปั้นยากถึงที่สุดเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ การที่พวกเขายอมอ่อนข้อและยอมแพ้เช่นนี้ต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า นับว่าเป็นการวางท่าทีที่ต่ำมากๆ ในชั่วชีวิตของพวกเขาแล้ว กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วมันคือความอัปยศอย่างยิ่งทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นึกไม่ถึงเลยว่าคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่จะไม่ยอมเลิกราเพียงเท่านี้ มันคือการตบหน้าพวกเขาอย่างแรงฉาดหนึ่ง
เรื่องนี้ก็คล้ายดั่งบุคคลผู้หนึ่งยอมก้มหัวแสดงความเคารพให้แล้ว แต่อีกฝ่ายยังคงหนึ่งฝ่ามือฟาดเข้าให้อย่างแรง แล้วจะไม่ให้คนผู้นั้นรู้สึกรับไม่ได้ได้อย่างไร? ไม่ให้เขาต้องมีเพลิงแห่งความโกรธที่ลุกโชนขึ้นมาเล่า?
“ผู้เยาว์ เจ้าอย่าได้ยกตนข่มท่านให้มากเกินไป รังแกกันมากเกินไป!” แขกสวรรค์เขาทองคำไม่อาจสะกดอารมณ์ได้อีกต่อไป อดที่จะตวาดเสียงดังขึ้นมา
แม้พวกเขาจะรู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ แต่ทว่า การที่หลี่ชิเย่อาศัยสิ่งนี้มารังแกกันเช่นนี้ พวกเขาไหนเลยจะกล้ำกลืนความอัปยศเช่นนี้ได้เล่า
“ยกตนข่มท่าน รังแกกันมากเกินไป?” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ขณะที่พวกเจ้าจับเอาราษฎรมาบูชายันต์เคยคำนึงถึงการยกตนข่มท่าน รังแกกันมากเกินไปหรือเปล่า?”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวที่เป็นแขกสวรรค์ทั้งห้าพูดอะไรไม่ออก ถึงกับจ้องมองตากันและกันในเวลานี้
“คุณท่านโปรดระงับความโกรธ” แขกสวรรค์เคราขาวแสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “คุณท่านกับข้าไม่เคยมีความแค้นยิ่งใหญ่ต่อกัน และไม่มีความแค้นเคืองกับเคอะเหมิงพวกเรา ปล่อยผ่านเรื่องราวในวันนี้ไปพวกเรายังคงเป็นสหายต่อกัน เคอะเหมิงของพวกเราก็ยินดีคบคุณท่านเป็นสหาย วันหน้าหากต้องการ เคอะเหมิงของพวกเราก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ วันนี้ เพียงเพราะมดปลวกไม่กี่คนเท่านั้นคุณท่านไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พวกเราขออภัยต่อคุณท่านก็แล้วกัน”
บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อแขกสวรรค์เคราขาวพูดคำๆ นี้ออกมา ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน
กล่าวได้ว่า คำพูดลักษณะเช่นนี้เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนต้องหัวใจเต้นตูมตาม นี่หาใช่เพียงแค่ยอมแพ้ต่อหลี่ชิเย่เท่านั้นแล้ว นี่คือการให้คำมั่นในเงื่อนไข มอบผลประโยชน์ให้กับหลี่ชิเย่แล้ว
สมควรทราบว่า เคอะเหมิงคือกลุ่มพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนลัทธิราชันยุคปัจจุบัน ยกเว้นสามผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีกลุ่มของพันธมิตรใดๆ ใหญ่กว่าพวกเขาอีกแล้ว
เวลานี้ แขกสวรรค์เคราขาวในฐานะหนึ่งในห้ารองผู้นำได้ออกปากรับจะให้ความช่วยเหลือหลี่ชิเย่อย่างเต็มที่ด้วยตนเอง ทั้งยังเป็นการกล่าวต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเช่นนี้
ลองนึกดู มีผู้คนจำนวนเท่าไรในแดนลัทธิราชันที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จะเคอะเหมิงแล้วไม่ได้ ถ้าหากสามารถได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากเคอะเหมิงเท่ากับมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง กระทั่วมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับทรัพยากรที่ไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
กล่าวได้ว่าผลประโยชน์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ปรารถนาของผู้คนจำนวนเท่าไร เป็นเรื่องที่ไม่อาจได้มาสำหรับผู้คนจำนวนเท่าไร มันเหมือนดั่งเป็นสิ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าชัดๆ
ในเวลานี้ ทุกคนต่างอดที่จะจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ไม่ได้ ในความคิดของผู้คนจำนวนมากแล้ว ด้วยเงื่อนไขลักษณะเช่นนี้ ผลประโยชน์เช่นนี้ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เงื่อนไขลักษณะเช่นนี้ช่างเย้ายวนใจมากเหลือเกิน
“ต้องตอบตกลงอยู่แล้ว” มีผู้พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “เพื่อมดปลวกไม่กี่คน แล้วปฏิเสธผลประโยชน์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็ต้องเป็นคนโง่แล้ว”
แม้ว่าคำพูดเช่นนี้ออกจะไม่น่าฟังเป็นพิเศษ แต่ก็คือความจริง เพื่อราษฎรธรรมดาทั่วไปไม่กี่คนที่ไม่เคยรู้จักกับตน และไม่ได้เป็นญาติมิตร แล้วไปปฏิเสธผลประโยชน์ใหญ่ที่ทางเคอะเหมิงรับปากให้มา เป็นเรื่องที่มีเพียงคนโง่เท่านั้นจึงทำเรื่องเช่นนี้ได้
ในเวลานี้ แม้แต่หวูโหย่วเจิ้ง และหลินยี่เสวี่ยก็รู้สึกตื่นเต้น ต่างอดที่จะกลั้นลมหายใจแล้วจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ พวกเขาเองก็เข้าใจ เป็นความจริงที่ความเย้ายวนเช่นนี้มีผลมากเหลือเกิน
หวูโหย่วเจิ้งในฐานะเป็นผู้ที่ผ่านอุปสรรคมาแล้วก็รู้ดีว่า โลกนี้ไม่เคยมีศัตรูที่ถาวร มีเพียงผลประโยชน์ที่เป็นนิรันดร์
“คุณท่านคิดจะทำอย่างไร?” ไม่ง่ายนักกว่าแขกสวรรค์เคราขาวจะได้สติกลับมา และกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่า “ขอเพียงคุณท่านยอมปล่อยผ่านบุญคุณความแค้นนี้ไป คุณท่านเปิดราคามา ขอเพียงพวกเราสามารถทำได้ จะต้องทำอย่างเต็มที่แน่นอน”
พวกของแขกสวรรค์เคราขาวก็รู้ดีว่าแม้พวกเขาจะร่วมมือกันก็หาใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ ดังนั้น จึงไม่อาจไม่เฉือนเนื้อตนเอง เวลานี้หากพวกเขาคิดจะมีชีวิตไปจากที่นี่ก็ต้องทำให้หลี่ชิเย่พึงพอใจ มิฉะนั้นล่ะก็ การที่พวกเขาคิดจะหนีไปจากที่นี่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ง่ายมาก ต้องการชีวิตของพวกเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “พวกเจ้าตัดหัวของตนเองออกมา ข้าก็จะไม่คิดบัญชีกับเคอะเหมิงของพวกเจ้า และไม่ไปสืบสาวราวเรื่องนี้อีก ไม่ทำลายล้างเคอะเหมิงพวกเจ้า”
หลี่ชิเย่พูดได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดออกมาอย่างเอ้อระเหยแต่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ปราศจากผู้ต่อกร โดยไม่มีการเว้นช่องว่างให้เป็นทางหนีทีไล่ได้แม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนต้องใจหายใจคว่ำ
“คุณท่านข่มเหงคนมากเกินไปแล้ว เห็นเคอะเหมิงพวกเราไม่มีคนรึ?” แขกสวรรค์เขาทองคำไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีก คำรามด้วยความโกรธขึ้นมา
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดไร้สาระ จะให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง พวกเจ้าทั้งห้าร่วมมือกันเข้ามาเลย นี่จะเป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ถ้าหากพวกเจ้าต้านเอาไว้ได้ เท่ากับพวกเจ้ารอดชีวิตกลับไป หากต้านไม่อยู่ก็คือพวกเจ้าเองฝึกยุทธมาไม่ดีพอ” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจ โบกมือเบาๆ ทีหนึ่ง
ผู้คนจำนวนมากถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ กับเรื่องนี้ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง การเจรจากับคนโหดอันดับหนึ่งก็ล้มเหลวแล้ว นี่คือคนที่บ้าบิ่นมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมาชั่วชีวิต เงื่อนไขที่งดงามเช่นนั้นยังปฏิเสธทันควัน ต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามตายให้ได้ อีกทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีความแค้นอะไรมากมาย คนประเภทนี้นับว่าบ้าระห่ำเหลือเกิน
ในเวลานี้ พวกของแขกสวรรค์เขาทองคำทั้งห้าบันดาลโทสะอย่างรุนแรง โมโหจนตัวสั่น แต่ว่า เพลิงโกรธเช่นนี้ก็ได้ถูกสะกดเอาไว้กลางอก คิดจะแสดงขึ้นมาก็แสดงไม่ได้
ภายในใจของพวกเขาชัดเจนยิ่งนัก พวกเขาร่วมมือและทุ่มเทกำลังสู้เต็มที่ เกรงว่าก็สังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้
แต่ว่า เวลานี้พวกเขาคิดจะหันหลังจากไป เกรงว่าจะทำให้ตายเร็วขึ้น จะอย่างไรเสียการก้าวมาถึงระดับอย่างพวกเขาหากสูญเสียปณิธานต่อสู้เมื่อไร จะง่ายแก่การถูกผู้ที่มีกำลังเหนือกว่าตนสังหารได้
“ดี สุราคารวะไม่ชอบ ชอบสุราลงโทษ ในเมื่อเป็นดังนี้พวกเราก็สู้กันจนตายไปด้วยกันทั้งคู่” นาทีนี้ แม้จะต้องแลกด้วยมูลค่าเพียงใดแขกสวรรค์ชุดเขียวก็ยอมทุ่มออกไป อดคำรามเสียงดังด้วยความโกรธไม่ได้
“ที่ตายคือพวกเจ้า ข้าไม่เป็นอะไร” หลี่ชิเย่หัวเราะท่าทีเมินเฉย และกล่าวว่า “พวกเจ้าสำคัญตนเองมากเกินไป ยังจะมาสูญเสียทั้งสองฝ่ายอะไร ข้าแค่สองสามทีก็บดขยี้พวกเจ้าจนตายแล้ว”
พลันทำให้แขกสวรรค์ทั้งห้าโกรธจนร่างสั่นเทา เมื่อถูกหลี่ชิเย่ดูแคลนถึงเพียงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...