ตอนที่ 2631 บนโลกมีแต่มดปลวกทั้งนั้น
หม้อสามขาวิเศษสี่ใบส่งประกายเลือดวูบวาบ โดยที่ประกายเลือดดังกล่าวได้แผ่กลิ่นอายเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลออกมา ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายเช่นนี้ ก็ต้องบังเกิดความเคารพยำเกรงขึ้นในใจ การรับรู้ถึงกลิ่นอายเช่นนี้ เสมือนหนึ่งรับรู้ได้ว่ามีผู้ได้รับความเคารพสูงสุดคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าอย่างนั้น ทำให้ต้องเงยหน้ามอง คนที่ทักษะอ่อนกระทั่งบังเกิดอารมณ์ต้องการกราบไหว้
จี๊ด จี๊ด จี๊ดในเวลานี้ เห็นเพียงเลือดแก่นจที่อยู่ภายในหม้อสามขาโบราณทั้งสี่ได้พวยพุ่งออกมโดยพลัน และไปเกาะติดอยู่บนร่างกายของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่คน
ท่ามกลางเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดนั้น เหมือนว่าเลือดแก่นได้หลอมรวมเข้าไปอยู่ภายในร่างของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่คน และรวมกับเลือดแก่นที่เป็นของสี่เทพแท้จริงขั้นอมตะเองโดยสิ้นเชิง
หลังจากที่เลือดแก่นได้หลอมรวมเข้ากับเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่อย่างสิ้นเชิงแล้ว ทันใดนั้นเอง เสียงตูมดังสนั่น กลิ่นอายที่น่กลัวพลันพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง
ในเวลานี้ลมปราณของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง พวยพุ่งอานุภาพที่น่าเกรงขามและไม่มีสิ้นสุด โดยที่อานุภาพนี้ได้เกินกว่าพลังของตัวพวกเขาเองแต่เดิม ท่ามกลางกลิ่นอายอมตะของพวกเขาได้หลอมรวมกับพลังตลอดกาล
ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่น เห็นเพียงเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่มีพลังที่ยิ่งใหญ่ไพศาลเป็นนิรันดร์ อยู่เหนือเก้าขั้นฟ้า ในเวลานี้เทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่เสมือนดั่งได้กลับกลายเป็นมนุษย์สี่คน ยามที่ดวงตาทั้งสองของพวกเขาลืมตาขึ้นมา ฟ้าดินล้วนแล้วแต่สลดและอับแสง เสมือนดั่งมีดวงอาทิตย์แปดดวงอยู่บนท้องฟ้าอย่างนั้น พลันส่องฟ้าดินจนสว่างไสว แม้แต่ดวงอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้าก็สูญเสียสีสันไป
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง มองเห็นเพียงรอบๆ กายของเทพแท้จริงขั้นอมตะปรากฎกฎเกณฑ์แต่ละสายลอยขึ้น และสิ่งนี้หาใช่กฎเกณฑ์ของพวกเขาเอง แต่เป็นกฎเกณฑ์แต่ละสายของเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ทิ้งตัวลงมารอบกายของพวกเขา เหมือนดั่งน้ำตกสวรรค์ที่ลงมากจากท้องฟ้า
ขณะที่กฎเกณฑ์ที่ไม่มีสิ้นสุดทิ้งตัวลงมานั้น เทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่พลันพวยพุ่งอานุภาพเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ท่ามกลางเสียงตูมดังขึ้นเสียงหนึ่ง อานุภาพเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเกรียงไกรทั่วฟ้าดิน สยบเหล่าชั้นฟ้า
“เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวาดผวาจนหน้าถอดสี เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายที่แผ่กระจายออกมาจากเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกใจหายใจคว่ำ ภายในใจถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ในเวลานี้เทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่เหมือนได้กลายเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลไปแล้ว เสมือนดั่งเป็นร่างจำแลงของนักพรตไป๋ยื่ออย่างนั้น ทุกๆ การเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่มีท่าทีที่ตำหนิติเตียนฟ้าดิน มีอานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า
เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายที่น่ากลัวเช่นนี้แผ่กระจายจากตัวของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกใจหายใจคว่ำ เวลานี้ ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดแต่ละเสียงที่ดังขึ้น นาทีนี้ มองเห็นเพียงเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ที่ก้าวออกมาก้าวหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาล้วนแล้วแต่หลอมละลายไป สัจธรรมฟ้าดินเมื่ออยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาแล้วกลับกลายเป็นเลือนลางอย่างยิ่ง เหมือนว่าสัจธรรมทั่วฟ้าดินล้วนแล้วแต่หลอมละลายไปภายใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา
“นี่เป็นพลังอะไร?” นาทีนี่มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยรู้สึกได้ว่าพลังสัจธรรมของตนกำลังไหลออก สิ่งนี้คล้ายดั่งเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ที่พลันหลอมละลายสัจธรรมทั่วหล้าไป ขณะที่พลังสัจธรรมของทุกคนเสมือนดั่งน้ำที่ล้นจากเขื่อน ไหลออกมาโดยไม่อยู่ในความควบคุม
สิ่งนี้ได้สร้างความตระหนกยิ่งให้กับทุกคน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยทยอยกันถอยหลังออกไป
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ มองเห็นเหนือศีรษะของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่คล้ายดั่งได้เปิดช่องว่างออกมาช่องหนึ่งอย่างนั้น ต่างคนต่างมีดวงตะวันดวงหนึ่งที่ลอยขึ้นมาช้าๆ
อย่างไรก็ตามดวงตะวันแต่ละดวงของพวกเขาทั้งสี่ล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน ดวงหนึ่งมีสีเขียวทะเลสาบ ดวงหนึ่งเป็นสีแดง อีกดวงเป็นสีทอง ยังมีอีกดวงเป็นสีเหลืองเข้ม
“นี่เป็นการหยิบยืมอภินิหารของนักพรตไป๋ยื่อมาใช้” มีระดับบรรพบุรุษที่มองเห็นความนัยถึงกับตระหนกอยู่ในใจเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เลือดแก่นของนักพรตไป๋ยื่อมีการหลอมกลั่นเคล็ดวิชาที่สุดยอดของเขาเอาไว้ เมื่อเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ได้หลอมรวมกับลือดแก่นของนักพรตไป๋ยื่อ จึงทำให้สามารถสำแดงสุดยอดอภินิหารของนักพรตไป๋ยื่อได้”
“ท่าน ล่วงเกินแล้ว” ในเวลานี้เอง เทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
เสียงตูมดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นเพียงดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือศีรษะของเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสี่ได้ระเบิดเปลวไฟที่ร้อนแรงที่ดั่งคลื่นยักษ์ขึ้นมา และเปลวไฟที่น่ากลัวพลันปกคลุมฟ้าดินจนจมมิด
ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นเสียงนี้ เห็นเพียงเปลวไฟที่ร้อนแรงดั่งคลื่นยักษ์ได้ปิดกั้นฟ้าดินจนสนิท และเข้าปกคลุมหลี่ชิเย่จนจมมิดไปทันที มองเห็นหลี่ชิเย่ถูกเปลวไพที่ร้อนแรงดั่งคลื่นยักษ์ห่อหุ้มเอาไว้อย่างแน่นหนา
ในขณะที่เปลวไฟร้อนแรงได้เข้าปกคลุมหลี่ชิเย่นั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้น บริเวณที่หลี่ชิเย่อยู่นั้น พลังสัจธรรมทั้งหมดถูกเผาไหม้จนสิ้นกลายเป็นผง เหมือนว่าฟ้าดินพลันสูญเสียพลังไปทั้งหมด ทำให้ผู้คนตกอยู่ในโลกที่กันดาลอย่างยิ่ง
ตูม…เสียงดังสนั่น จังหวะที่เปลวไฟร้อนแรงเผาไหม้พลังสัจธรรมอยู่นั้น ขอเพียงลมปราณของหลี่ชิเย่มีการเคลื่อนไหว ก็จะถูกเปลวไฟร้อนแรงที่น่ากลัวอย่างยิ่งเผาไหม้ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...