ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2647

ตอนที่ 2647 กระบี่มู่หวิน

ในเวลานี้ สถานการณ์โดยรวมดูเงียบสงัดยิ่งนัก กระทั่งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกหายใจไม่ออก

ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนคืออัจฉริยะบุคคลหนุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแดนลัทธิราชัน เป็นราชันแท้จริงหนุ่ม เรียกได้ว่าตัวของเขานั้นเป็นตัวแทนความหวังของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในแดนลัทธิราชัน เสมือนดั่งเป็นพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณที่ขึ้นมาอย่างช้าๆ ตัวเขาที่อยู่ในฐานะของราชันแท้จริง ย่อมไม่เป็นที่สงสัยในเรื่องของกำลังความสามารถอยู่แล้ว

สำหรับตัวของลู่เคอะเวิงแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาคือผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาสี่คน เขาไม่เพียงมีอายุขัยที่ยืนยาวมากที่สุด ทั้งยังมีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในครอบครอง ในแดนลัทธิราชันนั้น ลู่เคอะเวิงจัดว่าอยู่ในอันดับต้นๆ แค่กระทืบเท้าทีหนึ่งทั่วทั้งแดนลัทธิราชันก็ต้องสั่นไหวสามครั้ง

สี่พุทธา และผู้เฝ้าดูต้นไม้พวกเขาต่างก็เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแดนลัทธิราชันในยุคปัจจุบัน ความองอาจห้าวหาญในด้านกำลังความสามารถของพวกเขานั้น ทอดสายตามองออกไปทั่วแดนลัทธิราชันมีไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้

กล่าวได้ว่า จะเป็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ดี ลู่เคอะเวิงก็ช่าง กระทั่งเป็นสี่พุทธา ผู้เฝ้าดูต้นไม้พวกเขาทั้งสี่เลือกออกมาตามอารมณ์สักคน ก็จะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่แหงนหน้ามองของผู้คนในแดนลัทธิราชัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามในบรรดาพวกเขาทั้งสี่คน ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือแห่งยุคที่ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนลัทธิราชันต้องให้ความเคารพสูงสุดทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม มาวันนี้พวกเขาทั้งสี่ร่วมมือกัน กระทั่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่ชนิดที่เรียกว่าถึงตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว จังหวะที่หลี่ชิเย่ปราศจากการป้องกันมากที่สุดในชั่วพริบตาเดียวนั่น แต่ว่า พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้ ตรงกันข้ามกลับถูกหลี่ชิเย่ซัดจนกระเด็น ถูกหลี่ชิเย่ซัดจนเลือดกระจายเต็มท้องฟ้า เกือบจะถูกสังหารโดยหลี่ชิเย่

ช่างเป็นภาพที่น่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น มันเป็นความจริงที่สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงกับสิ่งนี้มากมายเช่นใด พวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสี่คนไม่ว่าคนใดคนหนึ่งก็เพียงพอทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของแดนลัทธิราชันต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงและสั่นเทาแต่ว่า มาวันนี้ การร่วมมือกันระหว่างพวกเขาทั้งสี่ที่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ยังคงถูกหลี่ชิเย่เล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ภายใต้พลังที่เด็ดขาดของหลี่ชิเย่ พวกเขาทั้งสี่มีแต่ถูกบดขยี้เพียงสถานเดียว

ความจริงเช่นนี้ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกหวาดกลัว ภาพเช่นนี้ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง นาทีนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ได้เห็นภาพนี้แล้วต้องเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย กระทั่งเสื้อผ้ายังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น

แม้ว่าเวลานี้หลี่ชิเย่ลงมือต่อพวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสี่คน แต่ทว่า อานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่ได้คงเงาทมิฬที่ไม่สามารถลบเลือนได้ในใจของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าหากใครจะบอกว่าใครคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งที่สุดของแดนลัทธิราชันล่ะก็ บางทีทุกคนแวบแรกที่นึกถึงจะไม่ใช่นักพรตไป๋ยื่อที่สำเร็จคงความอมตะตลอดกาลอีกแล้ว แต่นึกถึงคนโหดอันดับหนึ่งที่สังหารทุกคนที่ขวางหน้า

ในพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ตามล้วนไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ และกดทับอยู่ในจิตใจของผู้คนทุกคน ภายใต้อำนาจบารมีของหลี่ชิเย่ ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรถึงกับรู้สึกสิ้นหวัง ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกว่าความพยายามของตน ทักษะของตนช่างอ่อนแอไร้ซึ่งพลังเหลือเกิน ต่อให้พวกเขาใช้เวลาชั่วชีวิตก็ไม่สามารถแซงล้ำหน้าหลี่ชิเย่ไปได้

หลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งเป็นศิลาจารึกที่สูงใหญ่ไม่มีวันล่มสลายตลอดกาลที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ตลอดกาล ทำให้พวกเขาต้องมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ภายใต้เงาทมิฬและอำนาจบารมีที่ปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่ตลอดไป

กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรแล้ว สิ่งนี้ช่างเป็นเรื่องที่สิ้นหวังและจนด้วยเกล้าอะไรอย่างนั้น ช่างเป็นความจริงที่อ่อนแอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเหลือเกิน

ในเวลานี้ ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัดจนถึงที่สุด ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่หายใจไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรขณะจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่นั้น แววตานั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ในแววตาของพวกเขาเผยให้เห็นสถึงความเคารพยำเกรงและหวาดกลัว นาทีนี้ ในความคิดของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนนั้น คนโหดอันดับหนึ่งก็คือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด

อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ เลย ในเวลานี้แม้แต่ในใจของพวกราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ลู่เคอะเวิง สี่พุทธา ผู้เฝ้าดูต้นไม้ก็อดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ภายในใจของพวกเขาก็พลันบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

ความจริงลักษณะเช่นนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างยิ่ง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ความโหดร้ายหาใช่เป็นเพราะพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่ แต่เป็นชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ความหวาดกลัวสายหนึ่งได้โฉบผ่านจิตใจของพวกเขาไป ความหวาดกลัวสายนี้ได้กำเนิดขึ้นและหยั่งรากภายในใจของพวกเขา กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว นี่แหละจึงเป็นสิ่งที่น่าสยองขวัญมากที่สุด

เมื่อผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว เป็นการยากที่จะมีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขากำเนิดใจมารขึ้นมา ผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นพวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้วยิ่งมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แกร่งมาก

แต่ทว่า ในขณะนี้ ภายในใจของพวกราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา บังเกิดใจมารขึ้นที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาล่องลอยไปนิดหนึ่ง พลันทำให้ในใจของพวกเขาถึงกับผวา รีบเร่งสะกดจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรให้นิ่งทันที

นาทีนี้ พวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสี่คนมองตากันและกัน สุดท้าย พวกเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง

“สู้ตาย…” ท้ายที่สุด ท่าทีของพวกราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแข็งแกร่งดั่งเหล็ก นาทีนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว พวกเขาได้แต่สู้ให้ถึงที่สุด

วันนี้หากพวกเขาไม่เอาชนะหลี่ชิเย่ให้ได้ ไม่สังหารหลี่ชิเย่ ไม่เอาชนะความหวาดกลัวที่อยู่ภายในใจของพวกเขา ต่อให้วันนี้พวกเขาสามารถมีชีวิตไปจากที่นี่ เช่นนั้นแล้วใจมารก็จะเสมือนดั่งเป็นเงาที่ปักหลักอยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาทมิฬของหลี่ชิเย่ตลอดไป

ดังนั้น นาทีนี้นอกเหนือจากเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศ่ของตนแล้ว เพื่อศักดิ์ศรีของสำนัก ยิ่งกว่านั้นเพื่อเอาชนะใจมารที่อยู่ภายในจิตใจของตน ทางเลือกเพียงทางเดียวของพวกเขาก็คือสู้ให้ถึงที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล