สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2649 ร่วมมือสังหารที่เด็ดขาด – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2649 ร่วมมือสังหารที่เด็ดขาด ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2649 ร่วมมือสังหารที่เด็ดขาด
ตึง…เสียงกระบี่คำรามขึ้นมาเสียงหนึ่ง หนึ่งกระบี่ตื่นตระหนกเป็นนิรันดร์ หนึ่งกระบี่สะเทือนเก้าชั้นฟ้า
เวลานี้ มองเห็นหนึ่งกระบี่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่ชี้ฟ้า ท่าทีที่ล้ำเลิศปราศจากผู้ต่อกรในหล้า นาทีนี้เขาคือผู้บงการฟ้าดินหมื่นอาณาจักร เป็นผู้ควบคุมจักรวาลตลอดกาล ในเวลานี้ตัวเขาเสมือนหนึ่งกลายเป็นผู้บงการทุกสิ่งทุกอย่าง
ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่หนึ่งกระบี่ชี้ฟ้า ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน นาทีนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างของฟ้าดินล้วนแล้วแต่ดูเล็กจิ๋วอะไรขนาดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างท่ามกลางฟ้าดินล้วนแล้วแต่ดูไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
โดยเฉพาะท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่น ขณะที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้พวยพุ่งกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่เป็นใหญ่ในหล้าปราศจากผู้ต่อกรออกมานั้น เขาเหมือนเป็นปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่งที่ปรากฏขึ้นในโลก ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้อีกแล้ว
นาทีนี้ มองไปที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนโดยรอบแล้ว ปรากฏท่วงทีที่สง่างามของปฐมบรรพบุรุษขึ้นมาแล้ว ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ทุกๆ ท่วงท่าของเขาล้วนแล้วแต่สามารถทำลายโลกๆ หนึ่งให้พังพินาศย่อยยับ และถือกำเนิดโลกๆ หนึ่งขึ้นมาได้
“ปฐมบรรพบุรุษ…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ภายในใจต้องสั่นเทาทีหนึ่ง เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่เป็นใหญ่ในหล้าปราศจากผู้ต่อกรซึ่งพวยพุ่งออกมาทั่วตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นลึกๆ ในใจอยู่หลายส่วน เหมือนว่านี่คือความหวาดกลัวที่เป็นสัญชาตญาณ เป็นการก้มลงกราบสูงสุดอย่างหนึ่ง
ขณะที่ทั่วร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพวยพุ่งเป็นกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษออกมานั้น มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยรู้สึกสั่นเทาภายในใจ เข่าอ่อนทั้งสองข้างและก้มลงกราบ ยินดีอาบเอิบอยู่ภายใต้กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ ยินดีอาบเอิบภายใต้กบลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้านั่น
“พลังต่อสู้นี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน เกรงว่าสามารถต่อกรกับลู่เคอะเวิงได้ หรืออาจจะแข็งแกร่งมากกว่า” ภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้เห็นสภาพของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในเวลานี้ กระทั่งระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็รู้สึกอิจฉากับสิ่งนี้อย่างยิ่ง
มีเพียงระดับเทพแท้จริงเท่านั้นที่สามารถระเบิดพลังที่มีสภาพเช่นนี้ออกมาได้ สำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ กระทั่งเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ไม่สามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรสภาพเช่นนี้ออกมาได้
“น่าสนใจ แต่ว่า ลำพังตัวเจ้าเพียงคนเดียวยังคงอ่อนไปนิดหนึ่ง พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่เพียงมองดูด้วยท่าทีที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำหรับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่ปรากฎในสภาพของปฐมบรรพบุรุษ ท่าทีอย่างไรก็ได้โดยสิ้นเชิง
ทุกคนล้วนแล้วแต่หายใจไม่ออกกับสิ่งนี้พลันที่พูดคำพูดนี้ออกมา ต่างรู้สึกว่ามีมือขนาดใหญ่ที่ไร้รูปมาบีบคอของตนเอาไว้แน่น การปรากฎสภาพปฐมบรรพบุรุษของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็นับว่าน่ากลัวมากแล้ว และทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน จำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ
แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับพูดคำพูดเอ้อตะเหยคำหนึ่งว่า “ยังคงอ่อนไป” คำสี่คำนี้ช่างเป็นการดูถูกเหลือเกิน กระทั่งมีท่าทีที่แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาอยู่หลายส่วน ท่าทีเช่นนี้จะไม่ให้คนอื่นต้องหายใจไม่ออกได้อย่างไรเล่า คนโหดอันดับหนึ่งนี่สมคำเล่าลือจริงๆ
“หลานรัก พวกเราจะช่วยเจ้าอีกแรง” พวกของลู่เคอะเวิงก็รู้ดีว่า คิดจะสังหารหลี่ชิเย่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ลำพังอาศัยเพียงราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ความหวังเพียงหนึ่งเดียวคือการฝากความหวังกับการร่วมมือของพวกเขา
ดังนั้น ในเวลานี้พวกของลู่เคอะเวิงก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา ต่างลงมือเข้าช่วยเหลือราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอีกแรงหนึ่ง
ได้ยินเสียงกวางร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นลู่เคอะเวิงกลายร่างเป็นกวางโลหิตตัวหนึ่ง นี่แหละคือร่างที่แท้จริงของลู่เคอะเวิงเขาล่ะ
มองเห็นกวางโลหิตตัวนี้มีสีแดงทั้งร่าง โดยภาพรวมของกวางโลหิตตัวนี้ดูไปแล้วมีความงดงามยิ่งนัก มันคล้ายกวางโตเต็มวัยที่อาศัยทับทิมแกะสลักขึ้นมา ปรากฏประกายของทับทิมที่เคลื่อนไหวไปทั่วทั้งร่าง
มันกระทั่งสามารถมองทะลุผ่านผิวหนังของมัน เหมือนว่าสามารถมองเห็นเลือดล้ำค่ายิ่งที่ไหลเคลื่อนไหวอยู่ทุกๆ อณูของเนื้อหนังอย่างนั้น เลือดล้ำค่าทุกๆ หยดล้วนแล้วแต่ส่งประกายออกมาวูบวาบ เสมือนว่านี่คือเลือดวิเศษที่ล้ำค่ามากที่สุดในโลก คล้ายสามารถทำให้ผู้คนฟื้นคืนชีพได้อย่างนั้น
“กวางโลหิตที่บรรลุมรรคผล ทุกส่วนของมันมีความล้ำค่ายิ่งในตัวเองอยู่แล้ว ทุกๆ ส่วนของร่างกายล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการยืนอยู่ในระดับสูงสุดเช่นนี้” มีผู้ที่กลืนน้ำลายลงคอคำหนึ่ง เมื่อมองเห็นลู่เคอะเวิงเผยร่างที่แท้จริงออกมา
หากจะกล่าวว่า จับเอากวางโลหิตลักษณะเช่นนี้มาตุ๋นและกลั่นเป็นยาเม็ดล่ะก็ จะต้องเป็นของวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างแน่นอน แน่นอนที่สุด สำหรับผู้คนจำนวนมากแล้วแนวความคิดเช่นนี้ทำได้แค่แอบคิดนิดหนึ่งภายในใจเท่านั้น จะมีใครที่กล้าไปทำเช่นนี้เล่า
เสียงร้องของกวางร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นกวางโลหิตตัวนี้พลันกระโดดขึ้นสูง ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่ง ช่องว่างเกิดการกระเพื่อม ทุกสิ่งคล้ายมีการหลอมละลายตามอย่างนั้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง กวางโลหิตคล้ายมีการหลอมละลายไป เสมือนหิมะที่ต้องแสงตะวันยามฤดูใบไม้ผลิอย่างนั้น หายไปในชั่วพริบตาเดียว
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวกับจังหวะที่กวางโลหิตตัวนี้หายตัวไป พลังลมปรานของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนดูจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นทั่วทั้งร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่เดิมพวยพุ่งเป็นกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษนั้น ได้พวยพุ่งเป็นประกายเลือดที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา และประกายเลือดดังกล่าวพลันหลอมรวมเข้ากับร่างของเขาในทันที ทำให้ลักษณะท่าทางแลดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา
ก่อนหน้านี้ ลักษณะท่าทางของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็แลดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาอยู่แล้ว แต่ในขณะนี้เขาเองเสมือนดั่งได้กินโสมโลหิตอายุล้านล้านปีเข้าไปต้นหนึ่งอย่างนั้น พลังลมปราณพลันเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนคนที่ถูกฉีดสารกระตุ้นอย่างนั้น ทำให้ลักษณะท่าทางที่กระฉับกระเฉงเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่าสิบเท่า
“วิญญาณวิเศษสิงร่าง!” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่เก่ากะลาถึงกับแอบรู้สึกตกใจเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว และกล่าวว่า “สี่พุทธาคราวนี้เรียกได้ว่าลงมือหนัก ด้วยการนำวิญญาณวิเศษสิงร่างของตนไปสิงในร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน นี่เป็นการกระเทือนต่อรากฐานของตนเองชัดๆ”
เวลานี้ บนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนปรากฎวงแหวนสามวง ร่างกายดั่งหลอมสร้างขึ้นด้วยทองคำ ความจริงแล้วสิ่งนี้คือวิญญาณวิเศษที่เป็นของวิเศษสี่ชิ้นของสี่พุทธา
เล่าลือกันว่า สี่วิญญาณวิเศษของสี่พุทธาถูกนำมาใช้เพื่อคุ้มครองชะตาแท้ของตน ดังนั้น จึงมีการเล่าลือกันว่าต่อให้ทำลายร่างกายของสี่พุทธาจนหายวับไปกับตาในพริบตา ชะตาแท้ของเขาที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของวิญญาณวิเศษก็จะไม่ได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด
กล่าวได้ว่า คิดจะสังหารสี่พุทธาให้ตายจะต้องทำลายสี่วิญญาณวิเศษที่คอยคุ้มครองชะตาแท้ของเขา แต่ว่า สี่วิญญาณวิเศษนั้นแข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ ในแดนลัทธิราชันเคยมีคนคิดว่า กายเนื้อของสี่พุทธานั้นสามารถทำลายได้ แต่ ไม่สามารถทำลายชะตาแท้ของสี่พุทธา ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากคิดว่าสี่พุทธานั้นไม่สามารถฆ่าให้ตายได้
กล่าวสำหรับสี่พุทธาแล้ว วิญญาณวิเศษถือเป็นชีวิตของเขา แต่ว่า เวลานี้เขาถึงกับนำเอาวิญญาณวิเศษไปสิงบนร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ในพริบตาเดียวนั่นเอง เท่ากับได้ทำการปลุกเสกแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดไว้ให้กับราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อวิเศษที่สวมบนร่างก็เทียบไม่ได้กับการสิงร่างของสี่วิญญาณวิเศษ
“เก่ากะลาเองก็จะให้การช่วยเหลือด้วยกำลังน้อยนิดที่มีอยู่” เวลานี้ผู้เฝ้าดูต้นไม้ได้คำรามเสียงยาวทีหนึ่ง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ต้นเหวินจุ๊จินสือปรากฎขึ้นมา ทันใดนั้น ต้นเหวินจุ๊จินสือเสมือนหนึ่งได้หยั่งรากเข้าไปอยู่ในตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอย่างนั้น
ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ ทั่วทั้งร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนปรากฎประกายสีเขียววูบวาบ นาทีนี้พลังที่ไม่มีสิ้นสุดเหมือนดั่งน้ำหลากที่เทเข้าไปอยู่ภายในร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน
พลังที่เสมือนดั่งน้ำหลากดังกล่าวไม่เพียงมาจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเหวินจุ๊เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเสมือนหนึ่งได้ครอบครองพลังชีวิตที่ไม่จำกัด หลังจากที่ได้หลอมรวมเข้ากับต้นเหวินจุ๊จินสือไปแล้วอย่างนั้น
ตัวเขาที่เดิมทีสามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิได้อยู่แล้ว พลันเสมือนหนึ่งได้หยั่งรากลงไปในต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ ทำให้สามารถดึงเอาพลังและธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิออกมาได้ถึงขีดสูงสุดในฉับพลันทันที ทำให้การหยิบยืมและควบคุมพลานุภาพของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสำแดงถึงขั้นสูงสุด
…………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...