ตอนที่ 2651 หนึ่งกระบี่ไร้ผล
หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา ทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตา เหมือนว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านหนึ่งกระบี่ที่สุดยอดในหล้าที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี้ได้ ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ผู้ดำรงอยู่ในฐานะใด ปราศจากผู้ต่อกรใดๆ ล้วนแล้วแต่ถูกสังหารสิ้น
หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา สามารถเช่นฆ่าเทพ ประหารราชันได้ หนึ่งกระบี่นี้ได้ก้าวถึงระดับที่ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านขวางเอาไว้ได้อีกแล้ว
เมื่อหนึ่งกระบี่นี้ได้ฟันทะเลอสนีบาตรจนขาดและฟันใส่ร่างของหลี่ชิเย่นั้น ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างรู้สึกว่าหนึ่งกระบี่นี้เป็นการฟาดฟันใส่ตัวของพวกเขาเอง และขณะที่หนึ่งกระบี่ดังกล่าวฟาดดันเข้ามานั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าร่างกายตนเองนั้นถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าครึ่งออกเป็นสองซีก
หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมานั้น เลือดสดๆ แตกกระจาย ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนเสมือนหนึ่งมองเห็นร่างกายของตนถูกผ่าแบ่งครึ่งออกเป็นสองซึก เลือดสดๆ พุ่งกระจาย เลือดเนื้อแยกจากัน ท่ามกลางขั้นตอนที่เกิดขึ้นนี้ทุกคนได้แต่นัยน์ตาทั้งสองเบิกกว้าง มองด้วยสายตาที่งงงันกับร่างกายของตนที่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกนั่น
ตลอดขั้นตอนดังกล่าวนี้ ทุกคนทำได้แค่เบิกตามองดูร่างกายของตนที่หลังจากถูกผ่าออกแล้ว เลือดสดแตกกระจาย อวัยวะภายในกระจายเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด
ตลอดขั้นตอนดังกล่าวนี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าตนเองนั้นกระดิกตัวไม่ได้เลย เรียกว่าไม่สามารถขัดขืนได้อยู่แล้ว กระทั่งขณะที่หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมานี้ แม้แต่ความกล้าในการที่จะขัดขืนยังไม่มี ได้แต่รอเวลาให้ตนเองถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าออกเป็นสองซีกเท่านั้น
หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา เสมือนหนึ่งฝุ่นผงที่ตกลงพื้นดิน ทะเลสายฟ้าถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าออก สายฟ้าแลบที่คล้ายดั่งเป็นน้ำหลากที่พลุ่งพล่านก็ถูกฟันจนกลายเป็นสองท่อน ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ดูเหมือนหลี่ชิเย่ก็ถูกฟันจนขาดสองท่อน ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ที่ถูกผ่าออก เลือดสดๆ แตกกระจาย กระทั่งมีผู้ที่มองเห็นร่างกายที่ถูกฟันขาดสองท่อนของหลี่ชิเย่นั้นร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า
หลังจากที่หนึ่งกระบี่ได้ฟาดฟันลงมาแล้ว เมื่อชักกระบี่กลับคืนมา ทุกอย่างดูจะสิ้นสุดลงแล้ว ทุกอย่างได้เป็นที่แน่นอนแล้ว ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หายไปอย่างไร้ร่องรอยภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ทะเลฟ้าร้องก็ดี น้ำหลากสายฟ้าก็ช่าง กระทั่งตัวหลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้วภายใต้หนึ่งกระบี่นี้
หนึ่งกระบี่ทำการปิดฉาก จบสิ้นทุกอย่างในคราเดียว ในเวลานี้ฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกสยบด้วยหนึ่งกระบี่ที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ ไม่สามารถเรียกสติคืนกลับมาเป็นเวลานาน
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกคนจึงค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นมีเหงื่อเย็นที่ไหลโทรมกาย และต่างพบว่าเสื้อผ้าของตนถูกเหงื่อเย็นทำให้เปียกชุ่มไปแล้ว
กระทั่งมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยหลังจากได้สติกลับมาแล้ว พบว่าร่างกายของตนนั้นเจ็บแปลบขึ้นมา เหมือนว่าเมื่อครู่นี้ร่างกายของพวกเขาได้ถูกผ่าออกเป็นสองซีกจริงๆ เหมือนว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ได้ตายอนาถภายใต้หนึ่งกระบี่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไปแล้ว
“น่ากลัวเหลือเกิน” ไม่ง่ายนักกว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจะได้สติคืนกลับมา ถึงกับร่างสั่นเทาไปทีหนึ่ง ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้ต้องตกใจกลัว พลันเข่าทั้งสองข้างอ่อนแรงขึ้นมา ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นและรู้สึกชาไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หวาดผวาจนหน้าถอดสี ใบหน้าขาวซีด ทุกคนต่างถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่แข็งแกร่งเพียงใด แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งยิ่งก็ต้องรู้สึกเหงื่อเย็นที่ไหลโทรมกายเช่นกัน เนื่องจากภายใต้หนึ่งกระบี่เช่นนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน แม้แต่พวกเขาที่เป็นถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเช่นนี้ก็ได้แต่ยืดคอรอการถูกเชือดเท่านั้น ไม่สามารถที่จะต่อต้านขัดขืนกับหนึ่งกระบี่นี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้อยู่แล้ว
“ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง หากชั่วชีวิตสามารถบรรลุสัจธรรมกลายเป็นราชันได้ล่ะก็ อย่าได้พลาดโอกาสอย่างเด็ดขาด” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับทอดถอนใจออกมาด้วยความหดหู่ ภายในใจได้ผุดความคิดขึ้นมาร้อยแปดพันเก้า
หนึ่งกระบี่ปราศจากผู้ต่อกร แม้ว่าสิ่งนี้หาใช่เป็นพลังเพียงคนเดียวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และไม่ได้เป็นเพียงผลงานของเขาเพียงคนเดียว ในนั้นยังมีคุณูปการจากพวกของลู่เคอะเวิง แต่ว่า ท่ามกลางหนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกร แม้พวกของลู่เคอะเวิงจะแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ ท้ายสุดแล้วยังคงต้องอาศัยราชันแท้จริงมู่เจี้ยน หากไม่มีราชันแท้จริงมู่เจี้ยน พวกเขาก็ไม่สามารถสำแดงหนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ออกมาได้
นี่แหละคือช่วงห่างระหว่างเทพแท้จริงขั้นอมตะกับราชันแท้จริง เทพแท้จริงขั้นอมตะได้แค่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ จะไม่สามารถกลายเป็นราชันแท้จริงตลอดกาล และไม่สามารถกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษได้ตลอดกาลเช่นกัน
“หลี่ชิเย่ตายไปแล้ว…” ไม่ง่ายนักกว่าจะได้สติกลับมากัน มีผู้ที่มองดูรอบๆ แล้วไม่เห็นเงาของหลี่ชิเย่ และไม่ได้มีน้ำหลากสายฟ้า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว บนท้องฟ้าทีเพียงท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง
“เกรงว่าจะตายไปแล้ว…” ผู้คนจำนวนมากมองหาแล้วต่างก็ไม่พบตัวหลี่ชิเย่ จึงอดที่จะพูดออกมาว่า “ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งแข็งแกร่งมากว่านี้ก็ยังคงไม่สามารถต่อกรได้ ยังคงไม่สามารถเทียบเทียมได้ มีเพียงตายสถานเดียว”
นึกถึงภาพหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาเมื่อครู่ ทุกคนล้วนแล้วแต่เห็นกับตาตนเองว่าหลี่ชิเย่ถูกหนึ่งกระบี่ผ่าออกเป็นสองซีก ทุกคนต่างมองเห็นเลือดที่แตกกระจายเมื่อครู่ ต่างเข้าใจว่าหลี่ชิเย่ได้ถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวนี้สังหารไปแล้ว
“การร่วมมือกันลักษณะเช่นนี้ ปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า แม้คนโหดอันดับหนึ่งจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ เกรงว่าทั่วทั้งแดนลัทธิราชันคงหาผู้ที่สามารถต้านรับกับหนึ่งกระบี่นี้ได้อีกแล้ว จะอย่างไรเสียก็มีสภาพของปฐมบรรพบุรุษแล้ว” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสได้กล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นึกถึงหนึ่งกระบี่เมื่อครู่ที่น่าลัวแล้วต่างอดที่จะพยักหน้าไม่ได้ เห็นด้วยกับคำพูดเช่นนี้ หนึ่งกระบี่ขณะฟาดฟันลงมาของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนใช่เพียงปราศจากผู้เทียบเทียม มันคือสภาพของปฐมบรรพบุรุษไปแล้ว สภาพปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย ช่างเป็นสภาพที่น่ากลัวเหลือเกิน
หากจะกล่าวว่า ในโลกนี้ยังมีใครที่สามารถต้านรับกระบี่นี้ได้ล่ะก็ ทุกคนนึกถึงแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นก็คือนักพรตไป๋ยื่อ บางทีคงมีเพียงนักพรตไป๋ยื่อที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจึงสามารถต้านรับกับหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวนี้เอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...