ตอนที่ 2673 ต้านสุดกำลัง
การฟาดลงมาของกระบองกู่ท้าวเมื่อครู่ก็สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนมากพออยู่แล้ว ทำให้ผู้คนจำนวนมากอ้าปากกว้าง ขณะที่มองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าเวลานี้นั้น ปากของทุกคนอ้ากว้างจนไม่สามารถกว้างมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
ในเวลานี้เรียกได้ว่าเงียบกริบ ทุกคนต่างมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงุนงงจนไม่สามารถเรียกสติกลับมา ภาพเช่นนี้เรียกว่ากดทับบนอกของทุกคนอย่างหนัก จนทุกคนแทบหายใจไม่ออก
กระบองกู่ท้าวที่หวดลงมาเมื่อครู่นั้น ไม่จำเป็นต้องไปสาธยายถึงความน่ากลัวของอานุภาพของมันอีกแล้ว ภายใต้หนึ่งกระบองสามารถทำลายทุกอย่างจนพินาศย่อยับ ต่อให้มีเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนมากกว่านี้ ก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาภายใต้หนึ่งกระบองนี้ ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรใดๆ ของวิเศษไร้เทียมทานก็ต้องแตกสลายในพริบตาเดียวภายใต้หนึ่งกระบองนี้
กล่าวได้ว่า เมื่อหนึ่งกระบองนี้หวดลงมา อย่าว่าแต่กายที่เป็นเลือดเนื้อเลย ต่อให้เป็นของวิเศษราชันแท้จริงก็ต้านหนึ่งกระบองที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมนี้ได้ พูดได้เต็มปากว่า ของวิเศษราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็จะต้องแตกละเอียดภายใต้หนึ่งกระบองนี้
อย่างไรก็ตามที่น่ากลัวก็คือ นาทีนี้หลี่ชิเย่ถึงกับอาศัยแขนสองข้างต้านรับกับหนึ่งกระบองที่หวดลงมา ซึ่งแขนสองข้างนี้คือร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อนะ
ขอเพียงผู้ที่มีสติสัมปชัญญะสักนิด ล้วนแล้วแต่ไม่คิดว่าแขนคู่หนึ่งสามารถรับมือหนึ่งกระบองนี้ได้ หนึ่งกระบองลักษณะเช่นนี้ที่ฟาดลงมานี้ หากอาศัยแขนไปต้านรับจริงๆ เกรงว่าไม่เพียงแขนจะถูกหวดจนแหลกละเอียดเท่านั้น เกรงว่าตัวคนก็จะต้องถูกหวดจนกลายเป็นเนื้อบดไป
เป็นอย่างไรล่ะตอนนี้ แขนสองข้างของหลี่ชิเย่ส่งประกายวูบวาบ เสมือนดั่งหล่อขึ้นมาจากทองคำอย่างนั้น หลังจากที่ต้านรับกับหนึ่งกระบองนี้แล้ว ยังคงไม่ได้เสียหายแม้แต่น้อย ภาพเช่นนี้ทำให้ผู้คนไม่อยากจะเชื่อ
ผู้คนรู้สึกสงสัยว่า แขนคู่นี้เป็นร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อจริงๆ รึ? เป็นแขนคู่หนึ่งจริงรึ?
“นี่เป็นเรื่องจริงรึ?” มีผู้ที่สงสัยว่าตนเองนั้นตาลายหรือไม่ ถึงกับเอามือไปขยี้ตา แต่ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ากลับดูเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น
ช่างเป็นกายเนื้อที่แข็งแกร่งอะไรอย่างนั้น…ไม่ง่ายนักขณะที่ได้สติกลับมา หัวใจของผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกเหมือนถูกบีบเอาไว้อย่างแรง ต่างรู้สึกหายใจไม่ออก ซึ่งทำให้ผู้คนไม่สามารถจินตนาการได้ว่า กายเนื้อเช่นนี้ต้องปราศจากผู้ต่อกรอย่างแน่นอนแล้ว
“เกรงว่านี่คือกายเนื้อที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมมากที่สุดในโลกแล้ว เกรงว่าจะสามารถต้านรับกับอาวุธอะไรก็ได้ ร่างกายของเขาก็คือสุดยอดของวิเศษชิ้นหนึ่ง” ระดับบรรพบุรุษถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ
“บางที สิ่งนี้ไม่เพียงแค่กายเนื้อที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร เกรงว่าอาจจะเป็นเพราะได้ฝึกเคล็ดวิชากายที่ยอดเยี่ยมมา” มองดูแขนคู่นั้นของหลี่ชิเย่ที่ผลักดันกระบองกู่ท้าวขึ้นไปทีละนิดๆ ไม่ว่าจะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะคนใดก็ได้แต่อุทานด้วยความชื่นชม
ในโลกนี้ มีกายเนื้อของผู้ใดบ้างที่สามารถต้านกับการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตของกระบองกู่ท้าวได้? คนโหดอันดับหนึ่งกลับต้านเอาไว้ได้ อีกทั้งไม่มีความเสียหายใดๆ แม้แต่น้อย ความแข็งแกร่งเช่นนี้ไม่สามารถอาศัยคำพูดมาเปรียบเปรยตัวเขาได้อีกแล้ว
“ขอเพียงเขาเอาจริง เกรงว่าแม้แต่ปฐมบรรพบุรุษก็ได้เวลาต้องหวั่นเกรงแล้ว” นาทีนี้มีเทพแท้จริงขั้นอมตะที่นึกถึงคำพูดของหลี่ชิเย่เองและพึมพำขึ้นมา
“เขาไม่เพียงมีกายเนื้อที่แข็งกร้าว พาลและไร้เทียมทาน ทักษะยุทธก็ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง” มีระดับบรรพบุรุษรู้สึกใจหายใจคว่ำ ขณะมองดูหลี่ชิเย่ผลักดันให้กระบองกู่ท้าวลอยขึ้นไปช้าๆ
ในเวลานี้ กระบองกู่ท้าวอันนี้ไม่เพียงแต่พลังที่มีอยู่ในตัวของมันเอง ยิ่งกว่านั้นยังได้หอบเอาพลังต้นกำเนิดสัจธรรมมาด้วย คล้ายเป็นต้นกำเนิดสัจธรรมทั้งหมดที่กดทับลงบนตัวของหลี่ชิเย่ แต่ว่า กระบองกู่ท้าวยังคงไม่สามารถสยบคนโหดอันดับหนึ่งเอาไว้ได้ ยังคงถูกคนโหดอันดับหนึ่งผลักดันให้กระบองกู่ท้าวลอยขึ้นไปช้าๆ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า นาทีนี้แม้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะแปลงร่างโดยสัจธรรม ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง
ไม่เพียงแต่สามสิบหกบรรพบุรุษเท่านั้น แม้แต่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเองก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อมองเห็นคนโหดอันดับหนึ่งผลักดันให้กระบองกู่ท้าวลอยขึ้นช้าๆ นี่คือท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งมากที่สุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่แล้ว ยังคงปราบคนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้ ในเวลานี้ ทำให้ทุกคนในตระกูลมู่มีเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย
ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ต้นกำเนิดสัจธรรมเจิดจ้า น้ำแก่นสัจธรรม และพลังปฐมบรรพบุรุษมากกว่านี้ได้อัดฉีดเข้าไปในร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ทำให้พลังของกระบองกู่ท้าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการสั่นไหวทีหนึ่ง ภายใต้เสียงตูมที่ดังขึ้น มองเห็นเพียงกระบองกู่ท้าวที่หอบเอาพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าสยบลงไป
หลี่ชิเย่เพียงชะงักนิดหนึ่งภายใต้การปราบปรามที่เพิ่มมากขึ้นดังตูมขึ้นมาเท่านั้น ประกายบนตัวของเขาดูจะมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น และกลิ่นอายขมุกขมัวได้ทะลักออกมา ทำให้บริเวณที่ที่เขาอยู่กลายเป็นโลกขมุกขมัว เหมือนว่าเขาก็คือโลกแห่งความขมุกขมัวอย่างนั้น
ท่ามกลางโลกแห่งความขมุกขมัวที่ไม่มีสิ้นสุด พลังที่ทรงพลังมากกว่านี้ก็ไม่สามารถปราบโลกขมุกขมัวนี้ลงไปได้
ดังนั้น ภายใต้พลังที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ดังตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามไม่ขาดสายเข้าปราบปรามนั้น หลี่ชิเย่ยังคงอาศัยสองแขนที่ไขว้กัน ยังคงต้านการปราบปรามของกระบองกู่ท้าวเอาไว้ ยังคงผลักดันให้กระบองกู่ท้าวค่อยๆ ลอยสูงขึ้น
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ในโลกนี้จะมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” การได้มองเห็นภาพเช่นนี้ทำให้ผู้คนถึงกับสิ้นหวังกับสิ่งนี้ บรรดาศิษย์ตระกูลมู่ถึงกับส่งเสียงร้องแหลมขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...