ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2689

สรุปบท ตอนที่ 2689 สังหาร: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2689 สังหาร จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2689 สังหาร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2689 สังหาร

พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ที่มีวงแหวนเป็นประกายล้อมรอบ ควบคุมหมื่นอาณาจักร กลายเป็นผู้บงการของโลกทั้งโลก ตัวเขาคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดภายใต้สิบสามลัคนา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอะไร หรือผู้ปราศจากผู้ต่อกรอะไร ล้วนแล้วแต่เสมือนดั่งเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

สิบสามลัคนาได้ทำลายความรู้รอบตัวของทุกๆ คน ทุกคนต่างถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหว กระทั่งมีผู้ที่มองเห็นสิบสามลัคนาที่กระโดดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ถึงกับทอดถอนใจออกมาว่า “ชาตินี้สามารถมองเห็นเรื่องปาฏิหาริย์เช่นนี้ ถือว่าไม่สายดายแล้ว”

กล่าวสำหรับผู้คนทั่วหล้าแล้ว สามารถมองเห็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิบสามลัคนานั้น นับเป็นเรื่องที่ปาฏิหาริย์ยิ่งกว่าการกำเนิดปฐมบรรพบุรุษสักคน และสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนยิ่งกว่าเสียอีก จะอย่างไรเสีย ทุกๆ ยุคสมัยก็จะต้องมีระดับปฐมบรรพบุรุษถือกำเนิดขึ้นสักคน ขณะที่สิบสามลัคนานั้นมีเพียงหนึ่งเดียวชั่วนิรันดร์ เรียกได้ว่าชาตินี้คุ้มค่าแล้วหากสามารถเห็นสิบสามลัคนาด้วยตาของตนเอง

“แค่เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คู่ควรให้สิบสามลัคนาของข้าต้องมาด้วยตนเอง เพียงแต่ ในเมื่อเป็นปาฏิหาริย์ก็ให้ปาฏิหาริย์นี้สะเทือนหวั่นไหวยิ่งขึ้นสักนิดหนึ่ง” หลี่ชิเย่ก้มมองดูฟ้าดิน และยิ้มเรียบเฉยภายใต้สิบสามลัคนา

พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทำให้นักพรตไป๋ยื่อถึงกับหายใจไม่ออก ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว เขาเองก็ได้ฝากความหวังกับหอกปีศาจแดนอเวจีของตนเองเอาไว้สูงมาก สามารถสังหารคนโหดอันดับหนึ่งหรือไม่ สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่ก็ต้องอาศัยหอกปีศาจแดนอเวจีเล่มนี้ของเขาแล้ว

นึกไม่ถึงว่ายังไม่ทันจะสังหารหลี่ชิเย่ได้ กลับทำให้บังเกิดสุดยอดปาฏิหาริย์ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองในหล้าขึ้นมา ถึงกับปรากฏสิบสามลัคนาขึ้น

แม้แต่นักพรตไป๋ยื่อที่อยู่ในฐานะเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลพลันมีสีหน้าที่ซีดเผือดขณะมองเห็นสิบสามลัคนา ระดับปฐมบรรพบุรุษที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งมากกว่านี้ล้วนแล้วแต่สุดอยู่แค่สิบสองลัคนาเท่านั้น มาวันนี้กลับปรากฏสิบสามลัคนาขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของเขา หนึ่งเดียวตลอดกาล ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ มาวันนี้เขากลับเป็นศัตรูกับสิบสามลัคนา

ในเวลานี้ไม่เพียงนักพรตไป๋ยื่อเท่านั้น แม้แต่ผู้คนทั่วหล้าก็เข้าใจ เพราะอะไรคนโหดอันดับหนึ่งถึงได้ลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเล่า ลำพังที่เขามีสิบสามลัคนาอยู่ในครองครอง นั่นก็คือความสำเร็จที่ไม่สามารถประเมินได้นับแต่อดีตกาลที่ผ่านมาแล้ว

“ฆ่า…” ในเวลานี้ นักพรตไป๋ยื่อไม่มีทางเลือก เขาทำได้เพียงสู้กระทั่งตัวตาย ดังนั้น เขาจึงคำรามเสียงดังขึ้น และหอกปีศาจแดนอเวจีในมือได้ทำการโจมตีอีกครั้ง

เสียงตึง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง หอกปีศาจแดนอเวจีโจมตีฟ้า ประกายชั่วร้ายบดบังดวงตะวัน เสมือนดั่งเป็นการกลั่นทำลายเหมื่นอาณาจักร ทุกสิ่งทุกอย่างถึงหลอมกลั่น หนึ่งหอกที่ฆ่าเทพสังหารราชัน ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า การสังหารที่เด็ด่ขาด!

“ไปให้พ้น…” หลี่ชิเย่ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา พลังอำนาจสยบฟ้าดิน ภายใต้เสียงทุ้มต่ำดังกล่าว บรรดาสิ่งมีชีวิตสั่นเทา ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนเรียกได้ว่าขวัญหนีดีฝ่อ วิญญาณออกจากร่าง ถูกทำให้ตกใจจนต้องหมอบอยู่กับพื้นและอ่อนแรงไปทั้งตัว จนขยับตัวไม่ได้ กระทั่งถูกอำนาจที่สูงสุดนี้สยบจนไม่สามารถกระดิกตัวได้

เสียงปังดังสนั่น พริบตาเดียวนั่นเอง หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ซัดลงมาใส่ส่วนที่เป็นปลายแหลมของหอกปีศาจแดนอเวจีอย่างแรง ท่ามกลางเสียงดังปัง ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ภายใต้หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ได้กระแทกจนหอกปีศาจแดนอเวจีกระเด็นหลุดมือไปดื้อๆ

นักพรตไป๋ยื่อก้าวถอยหลังตึง ตึง ตึงติดต่อกัน สุดท้ายสุดกลั้นพลังลมปรานที่พลุ่งพล่านไม่ได้ แหวะขึ้นมาเสียงหนึ่ง กระอักเลือดออกมาอย่างแรง เมื่อหอกปีศาจแดนอเวจีได้กระเด็นหลุดจากมือไป

“อย่าว่าแต่เป็นแค่คงความอมตะตลอดกาลเลย ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว” หลี่ชิเย่ที่ยืนเอามือไพล่หลัง เหนือศีรษะปรากฏสิบสามลัคนาที่ลอยอยู่ สูงสุดปราศจากผู้เทียบเทียม เหนือกว่าสวรรค์

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ไม่เสียทีที่เป็นคนโหดอันดับหนึ่ง ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดปราศจากผู้ต่อกรในแดนลัทธิราชัน ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า มีเพียงหนึ่งไม่มีสองตลอดกาล” นาทีนี้ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่แสดงความเคารพสูงสุดต่อคนโหดอันดับหนึ่ง เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า มีเหนือกว่าสวรรค์ สิบสามลัคนาลอยสูงเด่น บนพื้นดินยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่คุกเข่าก้มลงกราบ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมอบกราบอยู่บนพื้นดิน

“หอกมา” หลังจากที่นักพรตไป๋ยื่อได้กระอักเลือดออกมาอย่างแรงแล้วได้คำรามเสียงทุ้มต่ำขึ้น ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง หอกปีศาจแดนอเวจีที่ถูกกระแทกจนหลุดลอยไปได้กลับเข้ามาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง

“ฆ่า…” นักพรตไป๋ยื่อส่งเสียงคำรามบ้าคลั่ง ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง หอกปีศาจแดนอเวจีได้เข้าโจมตีหลี่ชิเย่เสมือนดั่งพายุฝนฟ้าคะนองในทันที

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาไม่ขาดสาย เห็นเพียงนักพรตไป๋ยื่อที่ปรากฏประกายเลือดพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง พลังลมปรานทั้งหมดของเขาถูกรวบรวมเอาไว้ภายในหอกปีศาจแดนอเวจี

ดังนั้น ขณะที่หอกปีศาจแดนอเวจีโจมตีดั่งพายุฝนฟ้าคะนองนั้น มองเห็นเพียงคลื่นโลหิตที่ดั่งคลื่นยักษ์ การโจมตีที่หลั่งเลือดนับไม่ถ้วนพุ่งโจมตีเข้าไป ฉีกท้องฟ้าจนขาด ทำลายสุริยันจันทราและดวงดาวจนป่นปี้ ทำลายสัจธรรม มีความน่ากลัวยิ่งและโหดร้ายมากนัก

“ไสหัวไป…” หลี่ชิเย่ไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตา เมื่อต้องเผชิญกับการพุ่งโจมตีเข้ามาของหอกปีศาจแดนอเวจี หนึ่งหมัดได้ซัดสวนออกไปตรงๆ ได้ยินสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว สยบปราบเหล่าชั้นฟ้า ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ภายใต้หนึ่งหมัดนี้ ทุกสิ่งเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น ทุกสิ่งล้วนไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

ภายใต้เสียงปัง…ที่ดังขึ้น พายุฝนฟ้าคะนองทั้งหมดถูกทำลายทันที แม้ว่าหอกปีศาจแดนอเวจีจะพวยพุ่งเป็นความชั่วร้ายที่ดั่งคลื่นยักษ์ไม่มีสิ้นสุด ก่อเกิดให้หลั่งเลือดที่ดั่งคลื่นยักษ์ แต่ว่า ทั้งหมดล้วนแล้วแต่แตกละเอียด และถูกทำลายไปสิ้นภายใต้หนึ่งหมัดนี้

ภายใต้หนึ่งหมัดนี้ ท่ามกลางเสียงดังปัง หอกปีศาจแดนอเวจีถูกทุบเข้าให้อย่างแรงจนร่วงลงกับพื้น หมัดนี้ที่มุทะลุดุดัน รุนแรงและปราศจากผู้ต่อกรเหลือเกิน ในเวลานี้ไม่เพียงหอกปีศาจแดนอเวจีที่ถูกกระแทกจนปลิวในหนึ่งหมัด ยังได้ยินเสียงฉึกดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง เห็นนักพรตไป๋ยื่อถูกซัดจนกลายเป็นหมอกเลือดไปภายใต้หนึ่งหมัดนี้

ทุกคนต่างอ้าปากกว้างค้างอยู่อย่างนั้น ขณะมองเห็นนักพรตไป๋ยื่อถูกซัดจนกลายเป็นหมอกเลือดในหนึ่งหมัด หนึ่งหมัดที่ทำลายโลกาหมัดนี้กล่าวสำหรับทุกคนแล้ว ช่างสะเทือนหวั่นไหวเหลือเกิน สามารถทำลายโลกทั้งโลกจนพังพินาศย่อยยับได้ภายใต้หนึ่งหมัด กระทั่งทั่วทั้งแดนลัทธิราชัน ต้องกระเพื่อมกับสิ่งนี้ นับว่าน่าสยองขวัญปราศจากผู้เทียบเทียม

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้หอกปีศาจแดนอเวจีได้ตกไปอยู่ในมือของหลี่ชิเย่แล้ว ตามติดด้วยเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ที่เป็นเสียงสั่นสะเทือนดังเป็นระลอก มองเห็นหอกปีศาจแดนอเวจีที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่มีการสั่นสะเทือนขึ้น เหมือนต้องการดิ้นหลุดไปจากมือของหลี่ชิเย่

“คิดจะสังหารข้าไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” เวลานี้ นักพรตไป๋ยื่อที่มีสีน้าขาวซีด ได้ลิ้มลองรสชาติความตายมาแล้วถึงกับอกสั่นขวัญแขวน ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่ว่า เขายังคงทำปากแข็งในเวลานี้

“ต้องการฆ่าเจ้าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าแค่ต้องการให้เจ้าตายด้วยหอกปีศาจของตัวเองเท่านั้นเอง ถือว่ามีคำอธิบายให้กับประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วน”

เสียงตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวกันนั้นเอง พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ หอกปีศาจแดนอเวจีที่อยู่ในมือของเขาพลันเสือกแทงไปยังบริเวณอกของนักพรตไป๋ยื่อ

ตูม ตูม ตูมแต่ว่าในพริบตาเดียวนั่นเอง ปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย เกิดสั่นไหวขึ้นทั่วฟ้าดิน

เมื่อทุกคนมองตามไป เห็นเพียงหอกปีศาจแดนอเวจีที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่มีการสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง มันได้ระเบิดพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรขึ้นมา ระเบิดพลังความชั่วร้ายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา อาศัยพลังที่แข็งแกร่งยิ่งปราศจากผู้เทียบเทียมเบรกกำลังส่งเอาไว้ มันหยุดลงโดยพลันเมื่ออยู่ห่างจากบริเวณอกของนักพรตไป๋ยื่อแค่เอื้อม โดยที่มันได้ระเบิดพลังที่ทรงพลังยิ่งออกมาต่อต้านกับหลี่ชิเย่

“ฮ่า ฮ่า ฮ่าหอกปีศาจแดนอเวจีเล่มนี้ของข้าคือสิ่งที่มีฐานะสูงสุด มันจะไม่สังหารเจ้าของอย่างเด็ดขาด คิดจะอาศัยมันมาฆ่าข้าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” นักพรตไป๋ยื่อเองก็ถูกทำให้ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน เมื่อเห็นว่าหอกปีศาจแดนอเวจีได้ทำการต่อต้านหลี่ชิเย่โดยไม่ได้แทงเข้ามา เขาถึงกับหายใจด้วยความโล่งอกที่กระต่ายตื่นตูมไปหน่อย

“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยและกล่าวว่า “ในมือของข้าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

พลันที่พูดขาดคำ ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว มองเห็นสิบสามลัคนาส่งประกายเจิดจ้า และทิ้งวงแหวนลงมา ตามติดด้วยเสียงดังปัง สิบสามลัคนาได้ทำการประทับสลักลงบนหอกปีศาจแดนอเวจี

ขณะที่สิบสามลัคนาได้ประทับสลักลงบนหอกปีศาจแดนอเวจีนั้น ทุกอย่างล้วนถูกทำลาย ร่องรอยต่างๆ ถูกลบเลือนหายไป ทันใด้นั้น มันไม่ได้เป็นของๆ นักพรตไป๋ยื่ออีกต่อไปแล้ว

“ไม่…” เมื่อนักพรตไป๋ยื่อรับรู้ถึงรอยประทับที่ตนได้สลักบนหอกปีศาจแดนอเวจีถูกลบเลือนไปโดยพลัน และถูกชิงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของไปทันที ถึงกับร้องเสียงแหลมออกมาด้วยความหวาดผวา

ฉึก…เสียงหนึ่งดังขึ้น หอกปีศาจแดนอเวจีพลันแทงทะลุอกของนักพรตไป๋ยื่อในทันที เข่นฆ่าไร้ซึ่งความปรานี! พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ปรากฏวงแหวนล้อมรอบ ปกครองหมื่นอาณาจักร กลายเป็นผู้บงการของโลกทั้งโลก ภายใต้สิบสามลัคนานั้น เขาคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอะไร หรือผู้ไร้เทียมทานอะไรนั่น ล้วนแล้วแต่เสมือนดั่งเป็นเมฆที่เลื่อนลอยไปอย่างนั้น

………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล