ตอนที่ 2758 ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง
หลังจากไปจากลานประลองแล้ว หลี่ชิเย่ไม่ได้กลับไปที่ด้านหน้ากำแพงโบราณอีกเลย แต่ไปพักอาศัยอยู่ในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งภายในเมืองโบราณ โดยเหมาเป็นบ้านที่มีลานบ้านเป็นเอกเทศ
แน่นอนที่สุด หากเปลี่ยนเป็นเมื่อครั้งอดีต นิกายหู้ซานจงของพวกเขามีอสังหาริมทรัพย์และจวนอยู่เป็นจำนวนมาก กระทั่งมีที่พักชั่วคราวในทุกๆ เมืองโบราณ ในครั้งนั้น ศิษย์นิกายหู้ซานจงที่มายังเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาไม่จำเป็นต้องพักอาศัยโรงเตี๊ยมอยู่แล้ว
เพียงแต่ในเวลานี้ ทางนิกายหู้ซานจงได้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาจนหมดสิ้นไปนานแล้ว และหากให้เฉินเหวยเจิ้งเป็นคนจัดการล่ะก็ หาโรงเตี๊ยมเล็กๆ สักแห่งสำหรับหลบลมหลบฝนพักอาศัยก็พอแล้ว จะอย่างไรเสียกล่าวสำหรับเฉินเหวยเจิ้งแล้ว สามารถประหยัดได้ก็ประหยัดสักนิด
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เข้าพักในโรงเตี๊ยมแล้ว มองดูพวกกัวเจียหุ้ยทีหนึ่ง จัดการโยนศิลาแกร่งให้พวกเขาถุงหนึ่ง สั่งการไปว่า “ออกไปดูโลกภายนอกเถอะ ถือเป็นรางวัลสำหรับความพยายามของพวกเจ้า”
พวกกัวเจียหุ้ยเปิดถุงจักรวาลออกดู พลันทำให้งงงันไปหมด มองเห็นศิลาแกร่งที่บรรจุอยู่ภายในถุงจักรวาลนั้นส่งประกายวูบวาบ แม้ว่าในอดีตพวกเขาไม่เคยได้เห็นศิลาแกร่งที่มากมาย และระดับสูงขนาดนี้มาก่อน ก็รู้ว่าศิลาแกร่งที่มีอยู่เต็มถุงนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด
ในเวลานี้ พวกของกัวเจียหุ้ยต่างยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น มองดูศิลาแกร่งที่บรรจุอยู่เต็มถุงแล้วไม่ทราบว่าควรจะทำเช่นใด เนื่องจากชั่วชีวิตของพวกเขาไม่เคยได้เห็นศิลาแกร่งจำนวนมากมายเช่นนี้มาก่อน
“ยังไม่รีบขอบคุณท่านปรมาจารย์” เมื่อเฉินเหวยเจิ้งได้สติกลับมาแล้วจ้องเขม็งพวกเขาทีหนึ่ง เขาเองก็ได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ ภายในใจ ความจริงแล้ว เจ้านิกายอย่างเขาก็ไม่เคยพบเห็นศิลาแกร่งจำนวนมากมายเช่นนี้มาก่อน ศิลาแกร่งระดับเช่นนี้นิกายหู้ซานจงของพวกเขาก็มีอยู่ไม่เท่าไร
เวลานี้พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือ แค่เงินปลีกย่อยสำหรับให้ผู้เยาว์นำไปใช้จ่ายก็น่าตกใจขนาดนี้ ปรมาจารย์ย่อมเป็นปรมาจารย์ ความมือเติบของเขาเป็นสิ่งที่ผู้เยาว์ไม่สามารถจินตนาการได้อยู่แล้ว
พวกกัวเจียหุ้ยเมื่อได้สติกลับมา คารวะต่อหลี่ชิเย่คารวะแล้วคารวะอีกด้วยความดีอกดีใจ แม้ว่าเทียบกับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว พวกเขานับว่าเป็นผู้มีฐานะผู้หนึ่ง แต่ว่า หากเปรียบเทียบกับศิษย์ของแคว้นเจ้าลัทธิแล้ว พวกเขาคือเจ้าหนูที่เรียกว่ายากจนไม่รู้จะยากจนอย่างไรแล้ว
เวลานี้หลี่ชิเย่ถือโอกาสโยนเงินปลีกสำหรับใช้จ่ายมากมายถึงเพียงนี้ แล้วจะไม่ให้พวกเขาดีใจได้อย่างไรกันเล่า พวกเขามีของที่ถูกใจจำนวนไม่น้อยต้องการจะซื้อตั้งแต่แรกเข้ามาในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาแล้ว เพียงแต่มีเงินอยู่จำกัดไม่สามารถซื้อได้ ในที่สุดเวลานี้ก็มีเงินที่สามารถซื้อสิ่งที่พวกเขาต้องการได้แล้ว
“ฮึอย่าได้ดีใจเร็วเกินไปนัก” ขณะที่พวกของกัวเจียหุ้ยดีอกดีใจยิ่ง เตรียมตัวออกไปซื้อของอย่างเต็มที่ เฉินเหวยเจิ้งได้จ้องเขม็งพวกเขาทีหนึ่ง สั่งการไปว่า “ถึงจะมีเงินก็ให้ประหยัดใช้จ่ายสักหน่อย วันหน้ายังมีที่ที่ให้พวกเจ้าต้องใช้จ่ายเงินอีกมาก”
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม พวกของหลี่เจี้ยนคุนรีบจดจำคำพูดของเฉินเหวยเจิ้งเอาไว้แล้วยิ้มแต้วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
มองดูพวกหลี่เจี้ยนคุนที่วิ่งจู๊ดออกไป เฉินเหวยเจิ้งอดที่จะยิ้มๆ ภายในใจไม่รู้ว่ารู้สึกอิจฉาเพียงใด วัยเยาว์ก็ดีอย่างนี้ ไร้ความกังวล
แม้จะกล่าวว่าตัวเขาในฐานะเจ้านิกายไม่ได้มีความสามารถมากมายนัก แต่ว่า เขาแบกรับภารกิจของนิกายเอาไว้ทั้งหมด ตั้งอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่อันตรายมากตลอดเวลาที่ผานมา ตัวสั่นงันงก ไม่กล้าหละหลวมแม้แต่น้อย
หลี่ชิเย่สังหารหัวหน้าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ธงเพลิง และเทพกระบี่ฉีฟงได้สร้างแรงกระเพื่อมขึ้นมาในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าหัวหน้าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ธงเพลิง และเทพกระบี่ฉีฟงไม่นับเป็นยอดฝีมือระดับบนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร และไม่นับเป็นยอดฝีมือในหล้า แต่ทว่า หลี่ชิเย่กลับมาจากนิกายหู้ซานจง
นิกายหู้ซานจงในปัจจุบันเป็นเพียงสำนักระดับสามเล็กๆ เท่านั้นเอง ขณะที่หลี่ชิเย่ในฐานะปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงกลับสังหารยอดฝีมือรวดเดียวถึงสองคน นับว่าสร้างความตระหนกแก่ผู้คนอย่างยิ่ง ที่ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวั่นไหวยิ่งกว่าก็คือ สำนักขนาดเล็กอย่างนิกายหู้ซานจงถึงกับล่วงเกินแคว้นฉีฟง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และแคว้นโบราณยันต์แปดทิศที่เป็นสำนักใหญ่รวดเดียวทั้งสามสำนัก
สมควรทราบว่า ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และแคว้นโบราณยันต์แปดทิศล้วนแล้วแต่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร แม้ว่าแคว้นฉีฟงจะไม่ได้แข็งแกร่งมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร แต่ก็มีกำลังความสามารถที่เข้มแข็งยิ่งนัก
แต่ เวลานี้นิกายหู้ซานจงที่อ่อนแอกลับล่วงเกินต่อสำนักเจ้าลัทธิในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารรวดเดียวถึงสามแห่ง ทั้งยังมีท่าทีที่มั่นใจอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้ภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน และสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารรู้สึกแปลกใจ
นิกายหู้ซานจงที่เป็นเพียงสำนักระดับสามมีความมั่นใจอะไรกันแน่ในการเป็นศัตรูกับสามสำนักเจ้าลัทธิเล่า หรือพวกเขาไม่กลัวสามสำนักเจ้าลัทธิจะทำลายล้างนิกายหู้ซานจงรึ? กระทั่งผู้คนจำนวนมากมองว่า การที่สำนักเจ้าลัทธิทั้งสามจะทำลายล้างนิกายหู้ซานจงที่เป็นเพียงสำนักระดับสามนั้น เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร กระทั่งเรียกได้ว่าง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก
เวลานี้ ท่ามกลางผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกแปลกใจว่านิกายหู้ซานจงมีความมั่นใจอะไรที่จะต่อต้านกับสามสำนักเจ้าลทธิกันแน่ ก็ได้มีผู้คนจำนวนมากรู้สึกแปลกใจใจฐานะของหลี่ชิเย่ผู้เป็นปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงผู้นี้ สำนักระดับสามแห่งหนึ่งพลันมีปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมากะทันหันเช่นนี้ และในอดีตไม่เคยได้ยินมาก่อน และกระทั่งปราศจากชื่อเสียงมาก่อน นับว่าแปลกเหลือเกิน
มียอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับครุ่นคิดอย่างเต็มที่ว่าสามารถจับหลี่ชิเย่ไปเทียบเคียงกับปรัชญาเมธีที่แข็งแกร่ง และหรือบรรพบุรุษของนิกายหู้ซานจงว่าตรงกันหรือไม่ แต่ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะครุ่นคิดอย่างหนักจนหมดปัญญา ก็ไม่สามารถคิดได้ว่านิกายหู้ซานจงเคยให้กำเนิดบุคคลเช่นนี้มาก่อน
ฮึ…วันที่สองหลังจากที่หลี่ชิเย่ได้สังหารเทพกระบี่ฉีฟง และหัวหน้าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ธงเพลิงไป ภายในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาปรากฏเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้น คนผู้หนึ่งได้เดินทางมาที่เมืองโบราณแห่งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...