ตอน ตอนที่ 2857 กำแหง จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2857 กำแหง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 2857 กำแหง
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสายตา ในทัศนะของผู้อื่นมองว่า มันช่างกำแหงเหลือเกิน ช่างอวดดีมากเหลือเกิน ไม่เห็นว่าผู้อื่นมีอะไรดีหนักหนาชัดๆ
เมื่อตู้เหวินรุ่ยได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ เท่านั้น คำพูดที่ผู้อื่นมองว่ากำแหงอย่างยิ่งนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง กำลังความสามารถของทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอยู่แล้ว การที่นาทีนี้เวลานี้หลี่ชิเย่ยังคงสามารถสงบอารมณ์พูดคุยเช่นนี้ด้วย นั่นคือเปี่ยมด้วยความเมตตาแล้ว และเมตตามากยิ่งกว่าหลวงจีนที่บรรลุธรรมชั้นสูงเสียอีก
ลองนึกภาพดู มนุษย์ยักษ์ที่มีฐานะสูงสุดคนหนึ่ง กับอีกคนที่เป็นเพียงมดปลวก มดปลวกตัวหนึ่งท่าทียกตนข่มท่านขณะสอบถามต่อมนุษย์ยักษ์ผู้นั้น แล้วมนุษย์ยักษ์ผู้นั้นยังสามารถพูดโต้ตอบด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นและเมตตาอะไรอย่างนั้น
สมควรทราบว่า มนุษย์ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ แค่เคลือนนิ้วเท้าไปตามอารมณ์ก็สามารถบดขยี้มดปลวกเช่นนี้ให้กลายเป็นเนื้อบดได้
แน่นอน เทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่ไม่ได้ตระหนักว่าตนเองนั้นเป็นได้เพียงมดปลวกตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหน้านิ้วเท้าของมนุษย์ยักษ์เท่านั้น เมื่อถูกหลี่ชิเย่โต้กลับไป พลันมีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด
สมควรทราบว่าเทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่ไม่เพียงเป็นหัวหน้าของเผ่ามนุษย์อาชา ไม่เพียงมีชาติกำเนิดมาจากตำหนักมังกรแท้จริง ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ตัวเขาเองยังอยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นอมตะพันชาติ นับว่ามีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งมาก เพียงพอที่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปทั่วหล้า
มาวันนี้ถึงกับถูกหลี่ชิเย่ดูถูกถึงเพียงนี้ ถูกนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปคนหนึ่งไม่เห็นว่าตนเองนั้นมีอะไรดีหนักหนา นับว่าทำให้เขายากจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ไว้ได้
“เจ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะหาเรื่องกับกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงใช่หรือไม่? ” สีหน้าของเทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่เย็นชา เผยปณิธานฆ่าขึ้นมา กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าต้องเข้าใจ การเป็นศัตรูกับกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง เป็นศัตรูกับฝ่าบาทราชันหญิง ช่างเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย ฮึถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เจ้าเองรักษาชีวิตไม่ได้ เกรงว่าจะทำให้คนข้างกายต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย…”
เวลานี้ตู้เหวินรุ่ยส่งเสียงไอออกมาคำหนึ่ง และกล่าวว่า “เทพธนู เกรงว่าท่านจะมีความเข้าใจผิดเล็กน้อย ความหมายของนักศึกษาหลี่ก็คือ ถ้าหากเทพกระบี่ต้องการเปลี่ยนจากการต่อสู้มาเป็นสันติภาพ…”
“อธิการบดีตู้…” เวลานี้เทพธนูม้าบินได้กล่าวตัดบทคำพูดของตู้เหวินรุ่ย เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อธิการบดีตู้ แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นเอาโทษสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเจ้า แต่ว่า เรื่องในวันนี้ผู้ที่จะต้องแก้ไขข้อพิพาทให้เรื่องราวจบลงไม่ใช่กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงของพวกเรา แต่เป็นนักศึกษาจากสถาบันศึกษาพวกเจ้า ถ้าหากอธิการยดีคิดว่านักศึกษาของพวกเจ้าอยากจะไม่ต้องรับเคราะห์ ก็รีบเร่งให้คำอธิบายต่อกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงของพวกเรา หากยอมออกตัวยอมรับความผิดก่อนที่จะมีการให้ลงโทษก็ยังไม่สาย”
ตู้เหวินรุ่ยได้แต่ยิ้มๆ และขึ้คร้านจะพูดอะไรอีก ในเมื่อมีคนตั้งใจจะรนหาที่ตาย ใยเขาจะต้องไปกังวลเล่า แม้ว่าเทพธนูม้าบินคิดว่าหลี่ชิเย่จะต้องให้คำอธิบายต่อกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงพวกเขาให้จงได้ แต่กลับไม่รู้ว่ากล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว เขาที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด เขาจำเป็นต้องมีคำอธิบายให้กับามดปลวกฝูงหนึ่งอย่างนั้นรึ?
มันไม่จำเป็นอยู่แล้ว ถ้าหากเขาไม่ปลื้ม เขาสามารถทำลายล้างกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงหมดทั้งกองทัพ!
“คนอย่างเจ้านับว่าใช้ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เสียดาย โง่ไปนิดหนึ่ง ไปเสีย ข้าจะละเว้นโทษที่เจ้าล่วงเกิน ละเว้นเจ้าไม่ต้องตาย!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” เมื่อเทพธนูม้าบินได้ฟังคำบอกเล่านี้แล้วถึงกับหัวเราะบ้าคลั่งขึ้นมา แม้แต่ศิษย์เผ่ามนุษย์อาชาที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา เหมือนว่านี่คือนิทานขำขันที่น่าขำที่สุดที่พวกเขาเคยได้ฟังมา
“ละเว้นโทษที่ล่วงเกินให้ข้า?” ในเวลานี้ เทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทางเหมือนมองเห็นคนปัญญาอ่อนอย่างนั้น และนี่เหมือนว่าเป็นเรื่องขำขันที่น่าขันที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมามาชั่วชีวิตนี้
“น่าขัน…” ไม่ง่ายนักกว่าเทพธนูม้าบินจะเก็บรอยยิ้มเอาไว้ได้ ร้องกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เจ้ารู้ว่าเทพธนูม้าบินคือใครหรือเปล่า?”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองของเขาดูดุดันและน่าเกรงขาม หัวเราะเยาะ และกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้านึกว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นสุดยอดราชันผู้ยิ่งใหญ่รึ? ฮึประทานโทษล่วงเกินให้ข้า มีเพียงฝ่าบาทราชันหญิงเท่านั้นที่ทำได้! สำหรับเจ้า แม้แต่ฝุ่นผงยังไม่เท่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่าบาทราชันหญิง!”
สิ่งนี้ใช่ว่าเทพธนูม้าบินกล่าวเกินเลยไป ความจริงแล้วที่เทพธนูม้าบินพูดมาก็ไม่ถึอว่าประมาทมากเกินไป ในฐานะที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นอมตะพันชาติ นับว่าเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งอย่างแท้จริง และเป็นยอดฝีมือที่ยอดเยี่ยมโดยแท้คนหนึ่ง ยิ่งในสายตาของคนอื่นแล้ว เสมือนดั่งเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะไร้เทียมทาน
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของราชันหญิงจื่อหลงก็เป็นฮ่องเต้ที่แข็งแกร่งยากจะหาใดเทียม ทักษะยุทธลึกล้ำยากจะหยั่งถึง สามารถเทียบเคียงได้กับพวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวง
ตู้เหวินรุ่ยอดที่จะส่ายหน้าเบาๆ ไม่ได้ เมื่อได้ยินคำพูดของเทพธนูม้าบิน รู้ว่านี่เป็นการรนหาที่ตายเองของเทพธนูม้าบิน!
“ราชันหญิงอะไร ข้าไม่เคยเห็น” ท่าทางหลี่ชิเย่เอ้อระเหย ยิ้มนิดหนึ่ง อย่างไรก็ได้ และกล่าวว่า “แต่ว่า ราชันหญิง จักรพรรดิหญิงอะไรล้วนไม่นับเป็นอะไร อย่างมากที่สุดก็พอจะมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียงให้กับข้าแก้ขัดเท่านั้นเอง”
“เจ้า…” คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ดวงตาทั้งสองของเทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่ดูน่าเกรงขามและดุดันทันที และพวยพุ่งกลิ่นอายการฆ่าที่รุนแรงอย่างยิ่งขึ้นมา เสมือนดั่งกักขังด้วยน้ำแข็ง ทำให้ตัวสั่นดั่งลูกนก
“เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย กล้าสร้างความอัปยศให้กับราชันหญิง ฆ่าไม่มีละเว้น!” เวลานี้ศิษย์เผ่ามนุษย์อาชาที่ติดตามมาด้วยต่างทยอยกันส่งเสียงดังขึ้นมา
“ฆ่าเจ้าคนโง่เขลานี้เสีย สร้างความอัปยศให้ราชันหญิงโทษสมควรตายหมื่นครั้ง ประหารเก้าชั่วโคตรก็ไม่เกินไป” ศิษย์มนุษย์อาชาต่างโกรธแค้นอย่างยิ่ง ส่งเสียงดังขึ้นมาไม่ขาด
สมควรทราบว่า ราชันหญิงจื่อหลงนั้นมีฐานะที่สูงส่งไม่ว่าจะเป็นตำหนักมังกรแท้จริง หรือกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วน
เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับกล้ากล่าววาจาไร้ยางอายเหยียดหยามราชันหญิงของพวกเขา แล้วจะไม่ให้ศิษย์เผ่ามนุษย์อาชาโกรธแค้นอย่างยิ่งเล่า แค้นจนจะสังหารเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป อาศัยเลือดของเขามาชำระล้างคำพูดที่สกปรกของเขาให้สิ้น
“อ้อที่แท้เป็นเช่นนี้ ก็ดี” หลี่ชิเย่ผายมือและกล่าวว่า “แค่อีกาไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง ให้พวกมันมาเถอะ ถูกตัวข้า ข้าก็รู้สึกโชคร้ายแล้ว”
ใบหน้าของเทพธนูม้าบินหยางเฉิงลี่ดำไม่จืดถึงขีดสุด อีกาเทพอัคคีนับหมื่นนับพันเหล่านี้เขาเลี้ยงมาอย่างดี มีกำลังที่กล้าแข็งมาก และยังสามารถตั้งขบวนโจมตี ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือจำนวนเท่าไรที่ต้องตายภายใต้จะงอยปากของพวกมัน
“หัวหน้า จิกตาของเขาให้บอดก่อน แล้วฉีกอกของมัน ควักเอาหัวใจออกมา” มีศิษย์เผ่ามนุษย์อาชาถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา
“บุก…” เวลานี้ดวงตาทั้งสองของเทพธนูม้าบินกลิ่นอายฆ่ารุนแรง ผิวปากเป็นสัญญาณ
ฟิววว ฟิววว ฟิววว…จังหวะที่เสียงผิวปากของเทพธนูม้าบินเพิ่งขาดคำ อีกาเทพอัคคีทั้งหมดที่อยู่บนท้องฟ้าพลันพุ่งจิกหัวลงมาทันที ได้ยินเสียงตูมดังขึ้น เปลวไฟบนตัวของอีกาเทพอัคคีทั้งหมดลากเป็นหางยาว พริบตาเดียวนั่นเองเสมือนดั่งจรวดนับพันนับหมื่นที่พุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่
บนท้องฟ้าพลันปรากฏประกายไฟที่รุนแรง โดยประกายไฟทั้งหมดล้วนแล้วแต่ยิงใส่หลี่ชิเย่ ขณะที่อีกาเทพอัคคีจำนวนมากมายขนาดนี้จิกหัวพุ่งลงมานั้น กระทั่งสามารถได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมเบาๆ เหมือนเป็นอุกาบาตรแต่ละลูกที่หล่นและพุ่งโจมตีลงมาจากนอกโลกอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม บรรดาอีกาเทพอัคคีเหล่านี้มีความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด เพียงพริบตาเดียวก็ยิงมาถึงเหนือศีรษะของหลี่ชิเย่แล้ว และหลี่ชิเย่เสมือนดั่งยังไม่รู้ตัวอย่างนั้น ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่กระดิกตัว
“ระวัง รีบหลบเร็ว…” จ้าวชิวสือถึงกับหวาดผวา และร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อเห็นอีกาเทพอัคคีที่พุ่งโจมตีลงมา
แต่ หลี่ชิเย่แค่เงยหน้ามองดูทีหนึ่ง จากนั้นหัวเราะทีหนึ่ง อ้าปาก เสียงตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเองเขาได้พ่นเปลวไฟออกจากปาก
เปลวไฟที่พ่นออกจากปากของหลี่ชิเย่ แลดูไปแล้วคล้ายเป็นเปลวไฟธรรมดาเท่านั้น
ทว่าเมื่อเปลวไฟที่พ่นออกจากปากของหลี่ชิเย่กวาดผ่านไปนั้น พลันได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาดังอ๊ากกกขึ้นมา อีกาเทพอัคคีทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดไฟไหม้ขึ้นทั้งตัว
ปัญหาก็คือ ตัวของอีกาเทพอัคคีเองก็มีเทพอัคคีที่ลุกเป็นไฟอยู่แล้ว เวลานี้เปลวไฟได้ลุกไหม้บนตัวของพวกมัน ดูไปแล้วเหมือนไม่น่ามีปัญหาอะไรอย่างนั้น
…………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...