ตอนที่ 2865 สิ่งที่กระบือดำแสวงหา – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2865 สิ่งที่กระบือดำแสวงหา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2865 สิ่งที่กระบือดำแสวงหา
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมา เหลือบมองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง และกล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “แค่นี้เองรึ? เจ้าแค่ต้องการรู้ว่าปราชญ์ไกลกันดารเป็นคนดีหรือคนไม่ดีอย่างนั้นรึ?”
“แหะมิกล้า มิกล้า” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะ แหะที่หนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่ามีสิ่งมากมายล้วนแล้วแต่หลอกตาทั้งสองของปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้ เมื่อมองดูที่ตรงนี้แล้ว ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็สมควรเข้าใจ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่มีการเกิดแก่เจ็บตาย แต่ว่า ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คิดว่าสิ่งนี้ปรกติรึ?”
“เจ้ากระบือถ่านไม่ต้องมาหลอกถามข้า เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะจับเจ้ามาทำเป็นเนื้อย่าง” หลี่ชิเย่เหลือบมองดูเขาทีหนึ่ง และเอ่ยเรียบเฉยขึ้นมา
“ข้า ข้า ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่ง และไม่เรียกตัวเองว่าเป็นกระบือสุดหล่อแล้ว เขาหัวเราะแหะ แหะและกล่าวว่า “ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าแค่ต้องการขอความช่วยเหลือจากท่าน”
เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ได้ชี้ไปที่บนท้องฟ้าและกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่า ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็มองระแคะระคายออก และรู้ว่านี่จะต้องมีปีศาจ ดังนั้น ข้าอยากจะขอให้ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ลงมือเพื่อกำจัดภัยพิบัติให้”
หลี่ชิเย่มองดูบนท้องฟ้าทีหนึ่ง และกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่ตรงนี้เป็นเพียงขวดใบหนึ่งเท่านั้น เป็นแบบฉบับของดาบนี้คืนสนอง”
“เรื่องนี้ข้าทราบ” กระบือดำขนาดใหญ่รีบกล่าวว่า “ข้าทราบที่ซ่อนตัวของมัน ขอเพียงท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ลงมือกำจัดมันเสีย ขจัดภัยพิบัติให้กับประชาชน”
“ทำไม่รึ เจ้าก็อยากจะกลายเป็นปราชญ์แล้วรึ?” หลี่ชิเย่มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง กล่าวเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “เจ้ามีจิตเมตตากรุณาเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถึงกับให้ความสนใจ เป็นห่วงเป็นใยต่อเหล่าเวไนยสัตว์ขึ้นมาแล้ว?”
“ที่ไหนกัน ข้าก็แค่อยากหาความปลอดภัยสักหน่อยเท่านั้น หาความปลอดภัยนิดหน่อย ไม่ถึงขั้นทำเพื่ออาณาประชาราษฎร์ใต้หล้า” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะ แหะ มาคราวนี้เขานับว่ามีความซื่อสัตย์แล้ว เขาหัวเราะและกล่าวว่า “ชั่วดีอย่างไรที่ตรงนี้ก็คือเขตปกครองของข้า ถึงกับมีเจ้าบ้ามายึดครองอยู่ด้วย ทำให้ข้าไม่มั่นใจนะเนี่ย ไม่มั่นใจ”
“ธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิหอจรัสศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่เหนือความคาดคิดของเจ้ามากทีเดียว ความสลับซับซ้อนในนั้น หาใช่เป็นเพียงความสว่างง่ายๆ เท่านั้น และไม่ได้บริสุทธิ์เสมือนดั่งรัศมีแสงที่ส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาคเท่านั้น และไม่ได้เพียงเพราะความอภินิหารของปราชญ์ไกลกันดารง่ายๆ เท่านั้น ข้างในนั้นมีการประลองกันมากมายเหลือเกิน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้น
“เรื่องนี้กระบือสุดหล่ออย่างข้าพอจะรู้อยู่บ้าง” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวด้วยท่าทีที่ทระนงว่า “เป็นต้นว่าเจ้าปีศาจต้นไม้เฒ่านั่น ข้ารู้ว่าเขาอยากจะสังหารปราชญ์ไกลกันดารตลอดมา เขาต้องการเป็นผู้ถ่ายทอดสัจธรรมอย่างเสมอภาคเอง”
อ้อหลี่ชิเย่มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง เผยรอยยิ้มขึ้นมา และกล่าวว่า “พูดแบบนี้ เจ้ารู้ชาติกำเนิดของเขาน่ะสิ รู้ประวัติความเป็นมาของเขาน่ะสิ”
“ไม่ทราบ” กระบือดำขนาดใหญ่หุบปากทันทีไม่พูดมากอีกต่อไป ปิดปากสนิท
หลี่ชิเย่ปล่อยตามอารมณ์ไม่ถามต่อ กล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “เรื่องเช่นนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องมาหาข้า เจ้าเองก็จัดการเองได้ มันก็แค่สิ่งชั่วร้ายตัวหนึ่งเท่านั้นเอง ต่อให้แข็งแกร่งมากกว่านี้สามารถแข็งแกร่งมากไปกว่าปราชญ์ไกลกันดารได้รึ? จัดการฆ่ามันเสียก็สิ้นเรื่อง”
“แหะข้าก็คิดเช่นนั้น ข้าก็คิดเช่นนั้น” กระบือดำขนาดใหญ่ก้มหัวลงต่ำ ท่าทางเหมือนจนด้วยเกล้า และกล่าวว่า “กระบือสุดหล่ออย่างข้าดีไปหมดทุกอย่างเสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือตรงนี้ ตรงนี้ของข้ามีขีดจำกัด มีขีดจำกัดน่ะ”
“เจ้าบอกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นของบ้านเจ้ามิใช่รึ?” หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาทีหนึ่ง กล่าวเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “ทำไม ของๆ บ้านเจ้าเองยังจะมีข้อจำกัดอย่างนั้นรึ? เจ้าคิดจะทำอะไรก็ทำ”
“เรื่องนี้ เรื่องนี้” กระบือดำขนาดใหญ่เหมือนมีความกลัดกลุ้มอยู่บ้าง และกล่าวว่า “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าสารเลวปราชญ์ไกลกันดาร เจ้าบ้าเอ๊ย ไม่ใช่เพราะเขาหลอกเอาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของบ้านข้าไป ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ข้าถึงกับเป็นขนาดนี้เชียวรึ…” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว กระบือดำขนาดใหญ่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างนั้น
หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวเอ้อระเหยว่า “คนอย่างข้าน่ะ ก็มีใจกระตือรือร้นที่จะช่วยคนอื่น และยินดีที่จะช่วยคน แต่ว่า เจ้าสมควรรู้ว่าของฟรีไม่มีในโลก ถ้าหากข้าช่วยเจ้าอย่างนี้เลย มิเท่ากับว่าข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ? ดังนั้น เจ้าควรจะเอาความจริงใจออกมาบ้าง ให้เป็นผลประโยชน์อะไรทำนองนั้น”
“เรื่องนี้คุยกันได้ เรื่องนี้คุยกันได้” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที จึงกล่าวขึ้นทันทีว่า “แหะท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าเป็นวัวเป็นควายให้ท่านเป็นไง?”
“ช่างเถอะ” หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาทีหนึ่ง และกล่าวเอ้อระเหยว่า “เดิมเจ้าก็เป็นควายอยู่แล้ว ยังจะเป็นวัวเป็นควายอะไรของเจ้า!”
“ที่พูดมาก็ถูก” กระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นท่าทางดูจริงจังเป็นงานเป็นการขึ้น และกล่าวว่า “ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านเองก็เข้าใจดี สิ่งนี้จะอย่างไรเสียก็คือภัยพิบัติ แหะแม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าการที่ปราชญ์ไกลกันดารคงมันเอาไว้ต้องการอะไร แต่ว่า ข้ารับประกันได้ว่า แหะวันไหนจัดการได้ไม่ดีล่ะก็ เจ้าสิ่งชั่วร้ายนี่ก็จะสร้างภัยพิบัติไปทั่วหล้า ทำร้ายหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงเวลานั้น ประชาชนจำนวนเท่าไรที่ต้องมอดม้วย และมีชีวิตที่บริสุทธิ์ต้องถูกสังหารอย่างน่าเวทนา”
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับข้า” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยว่า “ข้าไม่ได้ถือกำเนิดมาจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ หอจรัสศักดิ์สิทธิ์จะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับข้า ยิ่งไปกว่านั้น ปราชญ์ไกลกันดารก็ใช่จะเป็นคนดีอะไร จุดประสงค์ที่เขาก่อตั้งหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นจะบริสุทธิ์ ดังนั้น สิ่งชั่วร้ายจะเป็นภัยต่อใต้หล้าหรือไม่ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“เรื่องนี้ เรื่องนี้…” กระบือดำขนาดใหญ่พลันอึ้งพูดอะไรไม่ออก ในเวลานี้เขาถึงกับต่อคำไม่ติด
“ข้าว่า เจ้าเหมือนมีของวิเศษอยู่ชิ้นหนึ่ง” หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ให้ข้าเถอะนะ” กล่าวพลางเล็งไปบนตัวของเขา
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำเอาเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ตกใจอย่างยิ่ง ถึงกับก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และยกเท้าของตนขึ้นมาปิดบังของวิเศษของตน
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมา กล่าวเอ้อระเหยว่า “ข้ากลับต้องการไปเจอเขาสักหน่อย นับว่ามีฝีมือ”
“แหะให้ข้าเป็นผู้นำทางให้กับท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่” กระบือดำกะพริบตาทีหนึ่ง หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “อารมณ์ของปีศาจต้นไม้เฒ่าแย่มาก แย่มากๆ แหะเคยมีระดับปฐมบรรพบุรุษมาเยี่ยมคาระวะ แหะล้วนแล้วแต่ต้องถูกปฏิเสธจนต้องกลับไปด้วยท่าทีที่พะอืดพะอมยิ่ง”
“ข้าเชื่อว่าการไปของท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จะต้องสามารถทำให้ปีศาจต้นไม้เฒ่าได้เห็นดีเป็นแน่แท้ ดูสิว่าเขาจะทำอวดดีไปได้นานสักเท่าไร” เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ท่าทางเหมือนยุส่งอย่างนั้น
“ทำไม่รึ เขาอัดเจ้ามารอบหนึ่งรึ?” หลี่ชิเย่เหลือบมองดูกระบือดำขนาดใหญ่ที่มีท่าทางยุยง กล่าวเอ้อระเหยว่า “ดังนั้น เจ้าจึงจำฝังแค้นในใจ และอยากจะอัดเขาทีหนึ่งเหมือนกัน”
“เอาอะไรมาพูด” กระบือดำขนาดใหญ่ทำยืดตัวและลุกขึ้นมา ลักษณะท่าทางดูน่าเกรงขามยิ่งนัก และกล่าวว่า “กระบือสุดหล่ออย่างข้าเป็นใครมาจากไหน? ฮึข้าคือเซียนแท้จริงที่ลงมายังโลกมนุษย์ ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า เป็นหนึ่งแต่ผู้เดียวในอดีตและปัจจุบัน ฮึ ฮึเจ้าปิศาจต้นไม้เฒ่า มันก็แค่ไม้ผุๆ ท่อนหนึ่งเท่านั้นเอง ฮึ ฮึ ฮึเขาหรือจะอัดข้าได้…”
“แต่ว่า เจ้าจะต้องวิ่งหนีหายไปจนไร้ร่องรอย” หลี่ชิเย่ไม่ไว้หน้า เปิดแผลเป็นของกระบือดำขนาดใหญ่
“ข้านี้เรียกว่าสุภาพบุรุษไม่ถือสาหาความกับคนต่ำทราม” ท่าทางของเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ดูท่าทางพะอืดพะอมยิ่ง และหัวเราะแห้งๆ
“แต่ว่า สายเลือดของเจ้าน่ะ” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้และกล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่า? ด้วยสายเลือดเช่นนี้ของเจ้า ถ้าหากนำมาทำเป็นซุปเนื้อ และหรือทำเป็นเนื้อย่างไม้อะไรนั้นล่ะก็ น่าจะบำรุงอย่างยิ่ง”
“ไม่มี ไม่มีเรื่องนั้น” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ถูกทำให้ตกใจจริงๆ ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
เขาย่อมรู้ดีว่าสายเลือดของเขาเป็นของบำรุงชั้นเลิศ และย่อมรู้ดีว่าสายเลือดของตนนั้นเป็นสุดยอดบำรุง โดยปรกติแล้ว ใครก็คิดมิดีมิร้ายกับเขา เขาจะต้องสังหารคนผู้นั้นแน่ แต่ว่า กับหลี่ชิเย่ ภายในใจของเขาก็ไม่ยืนยันแล้ว
“วางใจเถอะ ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง
“เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ดี ก็ดี” กระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกหายใจด้วยความโล่งอก แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม เมื่อเขามองเห็นรอยยิ้มของหลี่ชิเย่แล้ว มักรู้สึกว่ามันแปลกๆ และรักษาระยะห่างกับหลี่ชิเย่
…………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...