ตอนที่ 2891 ดูดเลือดจนแห้ง
ดอกปาล์มเบ่งบาน เหมือนได้ยินเสียงของสายลมที่พัดมาแผ่วเบา ขณะที่สายลมพัดมาแผ่วเบานั้น ดอกปาล์มได้สั่นไหวเบาๆ ดอกปุยที่เหมือนเส้นใยลอยล่องอยู่ท่ามกลางอากาศ
“ดอกปาล์มเบ่งบานแล้ว…” ทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวาขณะมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ทยอยกันกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง
กระทั่งมีนักศึกษาถึงกับรู้สึกสั่นเทา เมื่อมองเห็นปุยของดอกที่ลอยล่องไปตามลม
ทุกคนต่างรู้ว่า เมื่อปุยดอกลอยขึ้นมานั้น นั่นหมายถึงสัญลักษณ์แห่งความตาย ขณะที่ดอกปุยของปาล์มลอยล่องนั้นก็คือการทำลายล้างแคว้นๆ หนึ่ง หรือสำนักเจ้าลัทธิๆ หนึ่งอยู่เสมอๆ ยามที่ปุยดอกเกาะและหยั่งรากก็คือวันที่กระดูกกองสุมดั่งภูเขา
ภายใต้การพัดแผ่วเบาของสายลม ปุยดอกก็เสมือนหนึ่งเป็นหิมะที่ลอยล่อง และปุยดอกทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นปุยดอกสีทอง เมื่อปุยดอกลักษณะเช่นนี้ล่องลอยปลิวไปตามลมนั้น ดูเหมือนเต็มไปด้วยวรรณกรรมบทกวีและภาพจิตกรรม แลดูสวยงามยิ่งนัก
แต่ว่า ด้วยภาพที่งดงามยิ่งเช่นนี้ ในสายตาของผู้คนมองว่า มันเป็นการประกาศถึงความตายอย่างนั้น
ปุยดอกเหมือนได้รับแรงดึงดูดอะไรสักอย่าง ทำให้ปุยดอกลอยเข้าหาหลี่ชิเย่ทั้งหมด ปุยดอกที่ล่องลอยเบาๆ และไปตกลงบนตัวของหลี่ชิเย่ ดูไปแล้วมันช่างนุ่มนวลอะไรอย่างนั้น คล้ายเป็นหิมะที่ตกลงบนตัวของมนุษย์แผ่วเบาอย่างนั้น
แต่ว่า ขณะที่ปุยดอกตกลงไปบนตัวจั้น ปุยดอกเล็กๆ เหล่านี้ถึงกับยืนหนวดจับขนาดเล็กออกมา โดยหนวดจับขนาดเล็กเหล่านี้ได้แทงเข้าไปยังผิวหนังของหลี่ชิเย่
ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกใจเต้นกระตุกทีหนึ่ง กระทั่งมีนักศึกษาที่ร้องออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “รีบหลบเร็วไว…” แม้ว่าพลันที่ถูกต้นปาล์มล็อกตัวเอาไว้แล้วยากที่จะหลบหนี้ได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกปุยดอกเกาะและดูดไปได้
แต่ว่า ในขณะนี้หลี่ชิเย่ที่เผชิญกับปุยดอกที่ลอยเข้ามามนั้นเหมือนมองไม่เห็น เหมือนไม่ได้เห็นปุยดอกเหล่านี้โดยสิ้นเชิงอย่างนั้น และหรือมีความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป จึงไม่ได้ใส่ใจต่อปุยดอกที่ปลิวล่องลอยเข้ามาแม้แต่น้อย
ขณะที่ปุยดอกตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ ทันใดนั้นปุยดอกแต่ละอันล้วนแล้วแต่ปรากฎมีหนวดจับขนาดเล็กมากยื่นออกมา โดยที่หนวดจับเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าเข็มเป็นร้อยเท่าพันเท่า กระทั่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
พลันที่หนวดจับขนาดเล็กมากเหล่านี้ยื่นออกมาก็ได้แทงทะลุเข้าไปในกล้ามเนื้อของหลี่ชิเย่ ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เมื่อหนวดจับทั้งหมดได้แทงทะละเข้าไปในกล้ามเนื้อก็จะเจริญเติบโตภายในร่างกายอย่างบ้าคลั่ง เหมือนว่าพวกมันได้ถือเอาร่างกายของหลี่ชิเย่เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง
“แย่แล้ว หนวดจับได้ปักเข้าไปภายในร่างกายแล้ว” มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งตาดี แค่มองแวบเดียวก็รู้สึกตื่นตระหนกในใจ
เมื่อปุยดอกทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกาะและดูดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้วนั้น เมื่อทอดสายตามองไป จะเห็นว่าร่างกายของหลี่ชิเย่มีลักษณะขนปุกปุยไปทั่วร่าง เหมือนสวมเสื้อขนสัตว์ตัวใหญ่มาก ภาพโดยรวมดูแปลกๆ
มาคราวนี้ ราชันแท้จริงจินผู่เองก็รู้สึกเหนือความคาดคิดยิ่งนัก เมื่อปุยดอกทั้งหมดได้เกาะและหนวดจับได้แทงลงไปในร่างกายของหลี่ชิเย่ทั้งหมด เขาไม่เคยนึกเลยว่ามันจะง่ายดายถึงเพียงนี้
ขณะที่ปุยดอกปลิวล่องลอยอยู่ เขาเข้าใจว่าหลี่ชิเย่จะต้องสำแดงเคล็ดวิชาของตนไปบดขยี้ปุยดอกของเขา และหรืออาศัยสุดยอดกลอุบายไปทำการต่อต้านการดูดเกาะของดอกปุย แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่ปล่อยให้ปุยดอกเกาะบนตัวของตนได้ตามสะดวก ไม่เพียงไม่มีการขัดขืน แม้แต่การการต่อต้านสักนิดก็ไม่มี
แม้ว่าในพริบตาเดียวนั่นเอง ปุยดอกทั้งหมาดล้วนแล้วแต่เกาะและดูดติดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้ว แต่ว่า มันดูจะง่ายดายเกินไป ในเวลานี้ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาทันที
เป็นเพราะมันง่ายเกินไป มันประสบความสำเร็จง่ายเกินไป ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกได้ทันทีว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น หลี่ชิเย่มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยให้ปุยดอกดูดเกาะติดได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน
“นี่มันออกจะง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง” ไม่เพียงแต่ราชันแท้จริงจินผู่เท่านั้นที่รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างก็รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปุยดอกก็เกาะติดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ได้อย่างง่ายดาย และหนวดจับได้หยั่งรากไปทั่วทั้งตัวของเขา กระทั่งมีการเจริญเติบโตภายในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ตลอดขั้นตอนที่เกิดขึ้น หลี่ชิเย่ไม่ได้มีการหลบหลีกใดๆ ไม่มีการขัดขืน เป็นการปล่อยให้ปุยดอกดูดติด เป็นการปล่อยให้หนวดจับได้แทงรากเจริญเติบโตบนตัวของเขาโดยสิ้นเชิง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ” กระทั่งมีนักศึกษาบางคนถึงกับงุนงง เนื่องจากหลี่ชิเย่ไม่ได้มีการขัดขืนเลยกับปุยดอกใดๆ ที่มาดูดเกาะติดบนตัวของตนเอง
ต่อให้เป็นผู้ที่มีทักษะอ่อนด้อยมากกว่านี้ เมื่อเผชิญกับอันตรายลักษณะเช่นนี้แล้วก็ต้องหลบเลี่ยงไป ที่ง่ายที่สุดก็คือหันหลังวิ่งหนีไป
แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้มีท่าทีลักษณะเช่นนั้นโดยสิ้นเชิง ยืนอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ ปล่อยให้ปุยดอกมาดูดเกาะติดบนตัวของตน เหมือนจะบอกว่า “เลือดข้ามีเยอะ เจ้ามาดูดเอาไปก็แล้วกัน” ท่าทีแบบนี้ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจ
“เขาจะทำอะไรกันแน่?” ในเวลานี้ ทุกคนต่างงุนงง ไม่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่
นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่กำลังจะทำอะไร คิดไม่ตกว่าหลี่ชิเย่ยังคงมีวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...