ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2891

สรุปบท ตอนที่ 2891 ดูดเลือดจนแห้ง: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2891 ดูดเลือดจนแห้ง – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2891 ดูดเลือดจนแห้ง ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2891 ดูดเลือดจนแห้ง

ดอกปาล์มเบ่งบาน เหมือนได้ยินเสียงของสายลมที่พัดมาแผ่วเบา ขณะที่สายลมพัดมาแผ่วเบานั้น ดอกปาล์มได้สั่นไหวเบาๆ ดอกปุยที่เหมือนเส้นใยลอยล่องอยู่ท่ามกลางอากาศ

“ดอกปาล์มเบ่งบานแล้ว…” ทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวาขณะมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ทยอยกันกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง

กระทั่งมีนักศึกษาถึงกับรู้สึกสั่นเทา เมื่อมองเห็นปุยของดอกที่ลอยล่องไปตามลม

ทุกคนต่างรู้ว่า เมื่อปุยดอกลอยขึ้นมานั้น นั่นหมายถึงสัญลักษณ์แห่งความตาย ขณะที่ดอกปุยของปาล์มลอยล่องนั้นก็คือการทำลายล้างแคว้นๆ หนึ่ง หรือสำนักเจ้าลัทธิๆ หนึ่งอยู่เสมอๆ ยามที่ปุยดอกเกาะและหยั่งรากก็คือวันที่กระดูกกองสุมดั่งภูเขา

ภายใต้การพัดแผ่วเบาของสายลม ปุยดอกก็เสมือนหนึ่งเป็นหิมะที่ลอยล่อง และปุยดอกทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นปุยดอกสีทอง เมื่อปุยดอกลักษณะเช่นนี้ล่องลอยปลิวไปตามลมนั้น ดูเหมือนเต็มไปด้วยวรรณกรรมบทกวีและภาพจิตกรรม แลดูสวยงามยิ่งนัก

แต่ว่า ด้วยภาพที่งดงามยิ่งเช่นนี้ ในสายตาของผู้คนมองว่า มันเป็นการประกาศถึงความตายอย่างนั้น

ปุยดอกเหมือนได้รับแรงดึงดูดอะไรสักอย่าง ทำให้ปุยดอกลอยเข้าหาหลี่ชิเย่ทั้งหมด ปุยดอกที่ล่องลอยเบาๆ และไปตกลงบนตัวของหลี่ชิเย่ ดูไปแล้วมันช่างนุ่มนวลอะไรอย่างนั้น คล้ายเป็นหิมะที่ตกลงบนตัวของมนุษย์แผ่วเบาอย่างนั้น

แต่ว่า ขณะที่ปุยดอกตกลงไปบนตัวจั้น ปุยดอกเล็กๆ เหล่านี้ถึงกับยืนหนวดจับขนาดเล็กออกมา โดยหนวดจับขนาดเล็กเหล่านี้ได้แทงเข้าไปยังผิวหนังของหลี่ชิเย่

ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกใจเต้นกระตุกทีหนึ่ง กระทั่งมีนักศึกษาที่ร้องออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “รีบหลบเร็วไว…” แม้ว่าพลันที่ถูกต้นปาล์มล็อกตัวเอาไว้แล้วยากที่จะหลบหนี้ได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกปุยดอกเกาะและดูดไปได้

แต่ว่า ในขณะนี้หลี่ชิเย่ที่เผชิญกับปุยดอกที่ลอยเข้ามามนั้นเหมือนมองไม่เห็น เหมือนไม่ได้เห็นปุยดอกเหล่านี้โดยสิ้นเชิงอย่างนั้น และหรือมีความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป จึงไม่ได้ใส่ใจต่อปุยดอกที่ปลิวล่องลอยเข้ามาแม้แต่น้อย

ขณะที่ปุยดอกตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ ทันใดนั้นปุยดอกแต่ละอันล้วนแล้วแต่ปรากฎมีหนวดจับขนาดเล็กมากยื่นออกมา โดยที่หนวดจับเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าเข็มเป็นร้อยเท่าพันเท่า กระทั่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

พลันที่หนวดจับขนาดเล็กมากเหล่านี้ยื่นออกมาก็ได้แทงทะลุเข้าไปในกล้ามเนื้อของหลี่ชิเย่ ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เมื่อหนวดจับทั้งหมดได้แทงทะละเข้าไปในกล้ามเนื้อก็จะเจริญเติบโตภายในร่างกายอย่างบ้าคลั่ง เหมือนว่าพวกมันได้ถือเอาร่างกายของหลี่ชิเย่เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง

“แย่แล้ว หนวดจับได้ปักเข้าไปภายในร่างกายแล้ว” มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งตาดี แค่มองแวบเดียวก็รู้สึกตื่นตระหนกในใจ

เมื่อปุยดอกทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกาะและดูดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้วนั้น เมื่อทอดสายตามองไป จะเห็นว่าร่างกายของหลี่ชิเย่มีลักษณะขนปุกปุยไปทั่วร่าง เหมือนสวมเสื้อขนสัตว์ตัวใหญ่มาก ภาพโดยรวมดูแปลกๆ

มาคราวนี้ ราชันแท้จริงจินผู่เองก็รู้สึกเหนือความคาดคิดยิ่งนัก เมื่อปุยดอกทั้งหมดได้เกาะและหนวดจับได้แทงลงไปในร่างกายของหลี่ชิเย่ทั้งหมด เขาไม่เคยนึกเลยว่ามันจะง่ายดายถึงเพียงนี้

ขณะที่ปุยดอกปลิวล่องลอยอยู่ เขาเข้าใจว่าหลี่ชิเย่จะต้องสำแดงเคล็ดวิชาของตนไปบดขยี้ปุยดอกของเขา และหรืออาศัยสุดยอดกลอุบายไปทำการต่อต้านการดูดเกาะของดอกปุย แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่ปล่อยให้ปุยดอกเกาะบนตัวของตนได้ตามสะดวก ไม่เพียงไม่มีการขัดขืน แม้แต่การการต่อต้านสักนิดก็ไม่มี

แม้ว่าในพริบตาเดียวนั่นเอง ปุยดอกทั้งหมาดล้วนแล้วแต่เกาะและดูดติดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้ว แต่ว่า มันดูจะง่ายดายเกินไป ในเวลานี้ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาทันที

เป็นเพราะมันง่ายเกินไป มันประสบความสำเร็จง่ายเกินไป ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกได้ทันทีว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น หลี่ชิเย่มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยให้ปุยดอกดูดเกาะติดได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน

“นี่มันออกจะง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง” ไม่เพียงแต่ราชันแท้จริงจินผู่เท่านั้นที่รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างก็รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปุยดอกก็เกาะติดอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ได้อย่างง่ายดาย และหนวดจับได้หยั่งรากไปทั่วทั้งตัวของเขา กระทั่งมีการเจริญเติบโตภายในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง

ตลอดขั้นตอนที่เกิดขึ้น หลี่ชิเย่ไม่ได้มีการหลบหลีกใดๆ ไม่มีการขัดขืน เป็นการปล่อยให้ปุยดอกดูดติด เป็นการปล่อยให้หนวดจับได้แทงรากเจริญเติบโตบนตัวของเขาโดยสิ้นเชิง

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ” กระทั่งมีนักศึกษาบางคนถึงกับงุนงง เนื่องจากหลี่ชิเย่ไม่ได้มีการขัดขืนเลยกับปุยดอกใดๆ ที่มาดูดเกาะติดบนตัวของตนเอง

ต่อให้เป็นผู้ที่มีทักษะอ่อนด้อยมากกว่านี้ เมื่อเผชิญกับอันตรายลักษณะเช่นนี้แล้วก็ต้องหลบเลี่ยงไป ที่ง่ายที่สุดก็คือหันหลังวิ่งหนีไป

แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้มีท่าทีลักษณะเช่นนั้นโดยสิ้นเชิง ยืนอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ ปล่อยให้ปุยดอกมาดูดเกาะติดบนตัวของตน เหมือนจะบอกว่า “เลือดข้ามีเยอะ เจ้ามาดูดเอาไปก็แล้วกัน” ท่าทีแบบนี้ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจ

“เขาจะทำอะไรกันแน่?” ในเวลานี้ ทุกคนต่างงุนงง ไม่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่

นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่กำลังจะทำอะไร คิดไม่ตกว่าหลี่ชิเย่ยังคงมีวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใด

ทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อปุยดอกของต้นปาล์มตกลงกับพื้นและหยั่งรากขึ้นมา พวกมันก็สามารถทำการรีดทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นที่ตรงนั้นจนแห้ง กระทั่งสามารถหยั่งรากเติบโตเป็นต้นปาล์มขึ้นมาต้นหนึ่ง

เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง ขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่กำลังดูดกลืนพลังแก่นของหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น ในขณะนี้ ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นรอยเหี่ยวย่นขึ้นบนร่างกาย ร่างกายเริ่มมีสภาพแก่ชรา จากการที่ชีวิตกำลังไหลเคลื่อนไป เหมือนลูกบอลที่รั่ว เริ่มเหี่ยวลีบลง

ขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่ซึ่งดูดเอาเลือดและพลังแก่นมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ทำให้ร่างแท้จริงของเขากลับกลายเป็นสูงใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ต้นปาล์มก็มีขนาดสูงใหญ่เท่าๆ กับภูเขาลูกหนึ่งแล้ว

“นี่ต้องตายแน่นอนแล้วใช่ไหม?” ทุกคนต่างรู้สึกว่า มาคราวนี้เกรงว่าหลี่ชิเย่คงยากจะหนีเคราะห์กรรมไปได้พ้น เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่เริ่มเปลี่ยนเป็นแก่หง่อม ใบหน้าปรากฏรอยเหี่ยวย่น ร่างกายสูญเสียลมปราณเป็นจำนวนมาก ต้องถูกราชันแท้จริงจินผู่ดูดจนกลายเป็นศพแห้งแน่

พวกของราชันแท้จริงเคอะสือต่างหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองเห็นร่างแท้จริงของราชันแท้จริงจินผู่มีขนาดสูงใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หลี่ชิเย่สูญเสียพลังลมปราณมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะมีกลอุบายที่ฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใดก็ตาม เมื่อไรที่ถูกราชันแท้จริงจินผู่ดูดเลือดในกายจนแห้งล่ะก็ เขาก็ต้องตายสถานเดียว ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลี่ชิเย่จะสูญเสียพลังลมปราณไปอย่างบ้าคลั่งก็ยังมีท่าทีตามอารมณ์ ยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ดูดจนสะใจแล้วสิ? ดี ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง”

ขาดคำ ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ตามติดด้วยเสียงตูม ตูม ตูม ฟ้าดินสั่นไหวโคลงแคลง เหมือนฟ้าดินจะถล่มลงมาอย่างนั้น

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างได้ยินเสียงคำราม เหมือนทะเลบนท้องฟ้ากำลังจะล้นเขื่อน และน้ำหลากส่งเสียงคำรามขึ้นมา

แน่นอน ไม่ได้มีน้ำหลากที่เอ่อล้นท่วมจนจมมิด เสียงที่คำรามนั้นคือพลังลมปราณของหลี่ชิเย่ ในพริบตาเดียวนั่นเอง พลังลมปราณของหลี่ชิเย่คล้ายเป็นน้ำทะเลที่สุดลูกหูลูกตาพลันกรอกใส่เข้าไปภายในร่างกายของราชันแท้จริงจินผู่

ก่อนหน้านี้ ขณะปุยดอกดูดกลืนลมปราณของหลี่ชิเย่เป็นเพียงเหมือนน้ำในลำธารที่ไหลเอื่อยๆ เท่านั้น แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่ปลดปล่อยพลังลมปราณออกมา ปริมาณการดูดกลืนเมื่อครู่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วเรียกว่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

พลังลมปราณของหลี่ชิเย่ที่ปลดปล่อยออกมาโดยพลัน เสมือนดั่งเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลเทราดลงมา ท่วมโลกทั้งดลกจนจมมิดในพริบตา

……………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล