ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2942

ตอนที่ 2942 ราชันแท้จริงหวงจุน

กระบี่เหินเทียนเจียวคนเสมือนดั่งชื่อ นางก็คือลูกรักของสวรรค์ ไม่เพียงแต่นางมีชาติกำเนิดมาจากตระกูลใหญ่ มีชาติกำเนิดมาจากตระกูลผู้มีอำนาจอิทธิพล ขณะที่นางเองก็มีพรสวรรค์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียม

พลันที่นางถือกำเนิดมาเหมือนว่าได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่ธรรมดา เหมือนเป็นลูกรักสวรรค์อย่างนั้น ได้รับการดูแลจากสวรรค์เป็นพิเศษ ได้รับการโปรดปรานเป็นพิเศษจากสวรรค์

กระบี่เหินเทียนเจียวถือเป็นระดับคงความเป็นอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุดของแดนลัทธิเซียนในบุคปัจจุบัน แน่นอน เมื่อเทียบกับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว นางยังคงแก่กว่านิดหนึ่ง แต่นั่นก็แค่แก่กว่าครึ่งปีเท่านั้นเอง แม้จะบอกว่านางไม่ใช่ระดับคงความเป็นอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุด นั่นมันก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

ดังนั้น ขณะที่กระบี่เหินเทียนเจียวมาถึงนั้น ไม่รู้ว่ามีผู้ที่มีความปราดเปรื่องน่าทึ่งจำนวนเท่าไร ชายหนุ่มที่หน้าตาดีมีความสามารถจำนวนเท่าไรที่หลงใหลในตัวนาง

“งดงามปราศจากผู้เทียบเทียม กระบี่เหินเทียนเจียวนับว่างดงามเหลือเกิน” ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากในด่านเทียนสงกวานต่างมองเห็นรูปโฉมที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าของกระบี่เหินเทียนเจียวด้วยสายตาของตนเอง ซึ่งส่งผลให้ชายหนุ่มผู้มีความโดดเด่นต่างใจสั่นและจิตที่เตลิดไปกับนาง

“เทพธิดาซีมาเยือน…” การมาถึงของกระบี่เหินเทียนเจียว มีเถ้าแก่ร้านของห้างเจียวเหิงผู้หนึ่งออกมาให้การต้อนรับด้วยตนเอง มีพิธีการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่มาก ได้รับการปฏิบัติด้วยมาตรฐานที่สูงยิ่ง

“ผู้เฒ่าเย่ของพวกเราได้จัดเตรียมอาหารว่างที่ชื่อตงซีเซียนหลิ่งซึ่งเป็นอาหารที่โปรดปรานที่สุดของเทพธิดาซีเอาไว้แล้ว เพิ่งจะส่งตรงมาถึงพอดี ขอเชิญเทพธิดาซีได้ลิ้มลองสักหน่อย” การรับรองของห้างเจียวเหิงนับว่ามีความรอบคอบอย่างแท้จริง และอบอุ่นยิ่งนัก

แน่นอน ผู้ยิ่งใหญ่ในแดนลัทธิเซียนที่สามารถได้รับการปฏิบัติให้การต้อนรับด้วยมาตรฐานสูงเช่นนี้มีอยู่ไม่มาก จะอย่างไรเสียหากว่ากันตามฐานะ และว่ากันตามกำลังความสามารถแล้ว ผู้ที่สามารถเหนือกว่ากระบี่เหินเทียนเจียวมีอยู่ไม่มาก

“ผู้เฒ่าเย่มีใจแล้ว” กระบี่เหินเทียนเจียวเผยรอยยิ้มที่ทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล เมื่อเผชิญกับการต้อนรับของห้างเจียวเหิง ทำให้ชายหนุมจำนวนมากถึงกับตาลายและจิตที่เตลิดไป ต่างถูกทำให้ต้องมัวเมา

ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก กระบี่เหินเทียนเจียวได้รับการให้การต้อนรับเข้าไปภายในตำหนักที่งดงามวิจิตรตระการตาของห้างเจียวเหิง

ยังคงมีชายหนุ่มบางส่วนที่ไม่สามารถเรียกสติกลับมา ขณะมองดูเงาหลังของกระบี่เหินเทียนเจียวที่หายเข้าไปในตำหนักที่งดงามวิจิตรตระการตาโดยตลอด ต่างอดมีจิตใจที่หวั่นไหวไม่ได้

เทียบกับการมาถึงแบบทะเยอทะยานสูงของกระบี่เหินเทียนเจียวแล้ว มีผู้ยิ่งใหญ่บางคนที่ค่อนข้างค่อมต่ำ การมาถึงของพวกเขาไม่ได้เหมือนดั่งกระบี่เหินเทียนเจียวแบบนั้น เป็นที่รับรู้กับทั่วของทุกๆ คน

แต่ว่า มังกรแท้จริงอย่างไรเสียก็คือมังกรแท้จริง แม้มังกรแท้จริงจะค่อมต่ำอย่างไร แม้มังกรแท้จริงจะเห็นหัวแต่ไม่เห็นหาง แต่ทว่า การเคลื่อนที่ของมังกรแท้จริงอย่างไรก็ต้องนำมาซึ่งหยาดฝนและน้ำค้าง คิดจะค่อมต่ำก็คงทำได้ยาก

ณ ประตูด้านตะวันตกของด่านเทียนสงกวาน มีบุรุษผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามา ข้างกายบุรุษผู้นี้ปราศจากผู้ติดตามทั้งสิ้น และไม่ได้โดยสารมากับรถศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ยิ่งกว่านั้น ไม่ได้สำแดงอำนาจใดๆ ที่ชัดเจนออกมา

บุรุษผู้นี้ก้าวเข้าไปในด่านเทียนสงกวานทีละก้าวๆ แต่ละก้าวที่บุรุษผู้นี้ก้าวเท้าออกไปดูเหมือนไม่เร็ว แต่ว่า เพียงแวบเดียวภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก็เหมือนเปลี่ยนไปคนละอย่าง ความจริงแล้วความเร็วของเขานั้นเป็นที่สะเทือนเลื่อนลั่นยิ่งนัก

บุรุษผู้นี้ก้าวเดินด้วยความอิสระเสรี ขณะที่เขาก้าวเดินอยู่บนถนนที่มีความแออัดยัดเยียดของด่านเทียนสงกวานนั้น แม้ว่าบนถนนจะเต็มไปด้วยรถราและผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ แม้ว่าผู้คนบนถนนจะเบียดเสียดยัดเยียดจนเหงื่อไหลไคลย้อย ไหล่กระทบกัน แต่ทว่า การก้าวเดินของบุรุษผู้นี้กลับเสมือนหนึ่งกำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้านของตน เขาก้าวเดินด้วยเท้าแทนการนั่งรถ เหมือนกำลังชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามสองข้างทางซ้ายขวาอย่างนั้น

บุรุษผู้นี้ก้าวเดินทีละก้าวๆ ไปบนถนนที่คึกคักยิ่งในด่านเทียนสงกวาน เขาไม่ได้สำแดงสุดยอดอภินิหารสูงสุด ไม่ได้อาศัยพลังที่กล้าแข็งเบียดให้ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนให้ออกห่าง แต่ว่า ขณะที่เขาก้าวเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนนั้น ฝูงชนที่เดินอยู่ต่างทยอยกันหลบทางให้กับเขาโดยไม่รู้ตัว ต่างสับหลีกให้ก้าวหนึ่งด้วยจิตใต้สำนึก ไม่เบียดเสียดกับบุรุษผู้นี้ กระทั่งไม่กล้าเข้าไปใกล้ตัวเขา

ลักษณะเช่นนี้คล้ายเสือตัวหนึ่งอย่างนั้น แม้ว่าขณะที่เสือตัวนั้นเดินอยู่ในป่าจะไม่ได้เผยให้เห็นเขี้ยว และไม่ส่งเสียงคำรามออกมา ต่อให้สัตว์ตัวน้อยๆ บางตัวก็ไม่ได้รู้จักมัน แต่ทั้งหมดไม่ได้มีปัญหาอะไร ขอเพียงมีเสือตัวนี้ออกท่องไปในป่า บรรดาสิงสาราสัตว์และสัตว์ปีกในป่าก็จะทยอยกันหลบทางกันไป

ในขณะนี้บุรุษผู้นี้ก็เป็นเช่นนั้น ขณะที่ก้าวเดินอยู่บนถนน แม้ว่าจะไม่มีใครจดจำประวัติความเป็นมาของเขาได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้แผ่อานุภาพที่ไร้เทียมทานขึ้นมา แต่ว่า บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่เดินอยู่บนถนนก็จะสับหลีกให้ก้าวหนึ่ง ต่างไม่เบียดเข้าหาบุรุษผู้นี้

เมื่อเป็นดังนี้จึงบังเกิดเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมภาพหนึ่ง บุรุษผู้นี้ก้าวเดินบนถนนเสมือนดั่งมัจฉาที่แหวกว่ายอยู่ในทะเลที่ไร้สิ่งกีดขวางอย่างนั้น ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนต่างมีจิตใต้สำนึกที่จะหลีกเลี่ยงจากบุรุษผู้นี้

บุรุษผู้นี้สวมชุดสีเหลืองซึ่งถักทอด้วยไหมทอง แม้ว่าเขาไม่ได้มีอานุภาพที่ยอดเยี่ยม แต่ว่า เมื่อมองไปรอบๆ แล้วเสมือนดั่งมีท่าทีที่หมางเมินทั่วหล้า คล้ายกล้าหาญเด็ดเดี่ยวอย่างนั้น สายตาของเขามั่นคง แม้ไม่แสดงอาการโกรธ แต่เปี่ยมด้วยอำนาจ ทำให้ผู้คนไม่กล้าสบตากับเขาตรงๆ ผู้คนจำนวนมากต่างหลบหลีกและบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ เมื่อได้สัมผัสกับแววตาของเขา

“ราชันแท้จริงหวงจุน…” ในที่สุด ได้มีผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสสามารถจดจำเขาขึ้นมาได้ หลังจากที่บุรุษผู้นี้ได้ก้าวเดินอยู่บนถนนมาได้ครู่ใหญ่ ถึงกับตระหนกยิ่งนัก แสดงคารวะกับบุรุษผู้นี้

บุรุษผู้นี้เพียงยิ้มๆ เท่านั้น สำหรับการแสดงคารวะของผู้บำเพ็ญตนผู้นั้น ยังคงก้าวเดินไปเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านของตน

“ว่าไงนะ ราชันแท้จริงหวงจุน!” พลันทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะไม่เคยพบเห็นราชันแท้จริงหวงจุนมาก่อน แต่ว่า กลับเคยได้ยินชื่อของราชันแท้จริงหวงจุนมาแล้ว

ในเวลานี้ สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนตกอยู่บนตัวของบุรุษผู้นี้ ทุกคนมองออกไป แม้ว่าในเวลานี้ร่างกายของบุรุษผู้นี้ปราศจากอานุภาพราชันแท้จริง แต่ว่ากลับมีกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาในทันที

“เขา เขาเป็นราชันแท้จริงหวงจุนจริงๆ รึ?” ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้จักขณะมองดูบุรุษผู้นี้ ความจริงแล้วผู้ที่เคยเห็นราชันแท้จริงหวงจุนจริงๆ มีอยู่ไม่มาก

“ถูกต้อง เขาก็คือราชันแท้จริงหวงจุน” ยอดฝีมือที่เคยพบเห็นราชันแท้จริงหวงจุนมาก่อนพยักหน้า และกล่าวด้วยท่าทีมั่นใจมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล