อ่านสรุป ตอนที่ 2965 ราคาที่ลึกลับ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 2965 ราคาที่ลึกลับ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 2965 ราคาที่ลึกลับ
หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้าสำหรับคำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ และกล่าวว่า “มีโอกาสเป็นเช่นนั้นจริง โชคดีที่เขาวิ่งหนีได้เร็ว มิฉะนั้นล่ะก็ ไม่แน่นักอาจหมดเนื้อหมดตัวก็เป็นได้”
“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ คำพูดของท่านเป็นการใส่ร้ายกระบือสุดหล่ออย่างข้าโดยสิ้นเชิง” กระบือดำขนาดใหญ่ร้องขอความเป็นธรรมว่า “กระบือสุดหล่ออย่างข้าน่ะมือสะอาด เปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์เปิดเผย เรียกได้ว่ามีความซื่อตรงมั่นในหลักการ มีจิตซื่อตรงที่ยิ่งใหญ่…”
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นสำหรับการคุยโวยกหางตัวเองของกระบือดำขนาดใหญ่
ในเวลานี้ ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้เดินเข้ามาหา ราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่เพียงมีรูปโฉมที่งดงามยากจะหาผู้ใดเทียม มีความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์สูงสุด ยามที่นางเดินเข้ามานั้น กลิ่นอายที่ศักดิ์สิทธิ์พลันสามารถโน้มน้าวผู้คน ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ยังไม่ได้ไปจากบริเวณงานต่างทยอยกันคำนับต่อราชันแท้จริงเซิ่นซวง
“คุณชายหลี่” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเดินเข้ามาพร้อมกับคำนับต่อหลี่ชิเย่ และกล่าวทักทายกระบือดำขนาดใหญ่ และกล่าวว่า “ผู้อาวุโส พบกันอีกแล้ว”
กระบือดำขนาดใหญ่แค่ทำท่ายักไหล่เท่านั้นเอง แม้ว่าเขาจะไม่ชอบหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้กลั่นแกล้งอะไรต่อราชันแท้จริงเซิ่นซวง
“ครั้งนั้นพบกันที่ชายแดน เป็นเซิ่นซวงเองที่สนใจแต่เรื่องปลีกย่อย จนมองข้ามเรื่องใหญ่ไป ไม่ทราบถึงความสูงส่งของคุณชาย สร้างแต่เรื่องขบขันขึ้นมา” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงยิ้มๆ รอยยิ้มของนางช่างมีพลังโน้มน้าวอย่างยิ่ง กระทั่งสามารถทำให้ผู้คนต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล
รอยยิ้มของราชันแท้จริงเซิ่นซวงดูเหมือนจะอยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ให้ความรู้สึกที่อยู่เหนือโลกของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เรียกได้ว่ามีความปราดเปรื่องน่าทึ่งยิ่งนัก
ที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงพูดถึงคือวันที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรก และราชันแท้จริงเซิ่นซวงเป็นผู้แนะนำหลี่ชิเย่ไปอยู่สถาบันศึกษาล้างบาป
หลี่ชิเย่ไม่ได้เก็บเรื่องนี้ในใจ เพียงยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “สถาบันศึกษาล้างบาปดีทีเดียว สามารถไปรั้งอยู่ที่ตรงนั้นก็ได้เพิ่มพูนประสบการณ์”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงคำนับอีกที ทอดถอนใจ ด้วยความศรัทธา และกล่าวว่า “หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ภูมิใจในตัวคุณชาย หวังว่าวันหน้าคุณชายจะสามารถกลับไปที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์บ้าง”
หลี่ชิเย่แฝงด้วยรอยยิ้มและพยักหน้า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจึงได้ล่องลอยจากไป
“หอจรัสศักดิ์สิทธิ์มีผู้สืบทอดที่ดี” กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาเมื่อเห็นราชันแท้จริงเซิ่นซวงล่องลอยจากไป และกล่าวว่า “ผู้สืบทอดของปราชญ์ไกลกันดารมีอยู่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย”
“ดูเหมือนจะใช่” หลี่ชิเย่หัวเราะและไม่คุยต่อให้ลึกซึ้งกว่านี้
“ผู้คนบนโลกจะมีใครรู้เล่า” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “สรุป เขาก็คือคนดีที่หนึ่ง เป็นสุดยอดปราชญ์ รัศมีแสงส่องสว่างท่าหล้าอย่างเสมอภาค โปรดเวไนยสัตว์ทั้งมวลให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ นอกเหนือจากนี้แล้ว ผู้คนยุคหลังจะไปรู้เรื่องอะไร”
หลี่ชิเย่ใบหน้าแฝงรอยยิ้มไม่พูดอะไร สิ่งที่ผู้คนยุคหลังรับรู้มักจะเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้นเอง พันล้านปีที่ผ่านมา ความจริงที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมจำนวนเท่าไร เบื้องหลังความจริงจำนวนเท่าไรที่กลืนหายไปท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลา
หลังจากงานประมูลสิ้นสุดลงแล้ว ห้างเจียวเหิงกับหลี่ชิเย่จัดการเรื่องพิธีการส่งมอบของวิเศษ
ภายในห้องรับรองแขกผู้มีเกียรติ หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลได้นำส่งของวิเศษแต่ละรายการที่หลี่ชิเย่ได้ประมูลซื้อเอาไว้มามอบให้ เสื้อเทพธิดาเสวียนเซียว คัมภีร์สือหลันจิง กระบี่ปฐมบรรพบุรุษ ทั้งหมดถูกจัดวางอยู่ตรงหน้าของหลี่ชิเย่
“ขอเชิญคุณชายตรวจรับสินค้า” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลยังคงสวยหยาดเยิ้มและน่าประทับใจ แววตาคู่นั้นที่ใสเหมือนธารา สยิวเข้าไปถึงกระดูก
เวลานี้ หญิงสาวเผ่าเจ๋าสือถูกส่งมาอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่ หญิงสาวผู้นี้ก้มหน้านิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
“คุณชาย นี่คือเตี๋ยะตู้ของแม่นางผู้นี้” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลยื่นกล่องวิเศษในมือไปอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่
เตี๋ยะตู้ที่ว่านั้น ความจริงก็คือสาส์น หรือหนังสือวิเศษที่ใช้พันธนาการหญิงสาวเอาไว้ ขอเพียงมีเตี๋ยะตู้นั้นอยู่ในมือก็สามารถควบคุมหญิงสาวผู้นี้ได้ตามอำเภอใจ โดยไม่ต้องอาศัยวิธีการใดๆ
หลี่ชิเย่มองดูทีหนึ่งแล้วยิ้มๆ ในเวลานี้ของวิเศษชิ้นสุดท้าย หรือก็คือโลงศพเซียนก็ถูกจัดวางอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่เรียบร้อยแล้ว
หลี่ชิเย่ใช้มือลูบคลำโลงศพเซียนเบาๆ พยักหน้าและหลี่ชิเย่ “เป็นของดีโดยแท้” กล่าวจบ จัดการชำระบัญชีด้วยศิลาแกร่งตามที่ได้มีการประมูลซื้อเอาไว้
หลังจากชำระบัญชีกันเสร็จสิ้นแล้ว ในเวลานี้เองปรากฎผู้เฒ่าเจ็ดคนเดินเข้าประตูมา โดยผู้เฒ่าทั้งเจ็ดล้วนคลุมด้วยเสื้อสีดำทั้งตัว ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของพวกเขาได้ชัดเจน พวกเขามาอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง ขณะที่ก้าวเดินเข้ามานั้นเสมือนดั่งเป็นวิญญาณอย่างนั้น
การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของผู้เฒ่าทั้งเจ็ด ทำเอาไป่จินหนิงตกอกตกใจ จากนั้น ไป่จินหนิงถึงกับอึดอัดหายใจไม่ออก
เนื่องจากกำลังของผู้เฒ่าทั้งเจ็ดน่ากลัวเหลือเกิน แม้ว่าผู้เฒ่าทั้งเจ็ดต่างเก็บงำกลิ่นอายของตนไปแล้ว ไม่ได้มีชื่อเสียงบารมีที่น่าหวาดผวา และไม่ได้มีท่าทีที่ดั่งคลื่นยักษ์ แต่ว่า เมื่อพวกเขาปรากฏตัวดังวิญญาณขึ้นในห้อง พลันทำให้ผู้คนถึงกับอึดอัดหายใจไม่ออก
ไป่จินหนิงรู้สึกเหมือนมีมือไร้รูปเข้ามาบีบคอของนางเอาไว้ในพริบตา ไม่เพียงหายใจไม่ออก กระทั่งกระดิกตัวก็ยังทำไม่ได้
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า กำลังความสามารถของผู้เฒ่าทั้งเจ็ดนี้น่ากลัวยากจะหาใดเทียม สามารถบดขยี้นางได้อย่างง่ายดาย เกรงว่าแม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ต้องถูกบดขยี้โดยพลันเมื่ออยู่ตรงหน้าพวกเขา
ท่ามกลางผู้เฒ่าทั้งเจ็ด มีผู้เฒ่าคนหนึ่งอยู่ตรงกลาง ส่วนผู้เฒ่าอื่นๆ อีกหกคนอยู่ในท่วงท่าปกป้องตัวเขาอยู่
เวลานี้ ผู้เฒ่าทั้งเจ็ดก็คำนับต่อหลี่ชิเย่ด้วยความเคารพนอบน้อม พวกเขาก็ให้ความเคารพนอบน้อมเช่นกัน
“ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการชี้นำทางสว่างให้สายหนึ่ง” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบๆ และกล่าวว่า “แค่ซื้อขาย เป็นการซื้อขายเท่านั้นเอง ในเมื่อเป็นการซื้อขาย ข้าย่อมทำให้คำมั่นของข้าเป็นจริง”
กล่าวพลาง หลี่ชิเย่ลุกขึ้นยืน และเดินไปอยู่ตรงหน้ากล่องวิเศษ
นี่แหละคือราคาที่หลี่ชิเย่เสนอให้กับห้างเจียวเหิง และราคานี่แหละที่เสนอไปและซื้อโลงศพเซียนเอาไว้
ขณะที่อยู่ในงานประมูล ผู้คนทั่วหล้าต่างต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่ได้เสนอราคาอะไรไปกันแน่ ถึงกับสามารถแซงล้ำหน้าหนึ่งคำมั่นของพระอาจารย์จินกวงไปได้ จะอย่างไรเสีย ในทัศนะของทุกคนมองว่า หนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว
แต่ว่า ท้ายที่สุดห้างเจียวเหิงยังคงเลือกราคาที่เสนอโดยหลี่ชิเย่ แน่นอน สิ่งนี้ทำให้ทุกคนไม่เข้าใจว่า ในโลกนี้ยังจะมีสิ่งใดสามารถแซงล้ำหร้าหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษไปได้เล่า?
สำหรับการเสนอราคาของหลี่ชิเย่นั้น ทางห้างเจียวเหิงก็เก็บเงียบไม่พูดถึง ซึ่งไม่เพียงเพราะหลี่ชิเย่ไม่ได้ประกาศราคาที่ตนเสนอออกมา ขณะเดียวกัน ทางห้างเจียวเหิงเองก็ไม่ต้องการให้มีผู้คนรู้เรื่องมากเกินไป
หลี่ชิเย่มองดูสิ่งที่อยู่ภายในกล่องวิเศษ มองดูประกายเซียนที่ลอยล่อง อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ และกล่าวว่า “เจียวเหิงนับว่าปราดเปรื่องน่าทึ่งตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การเป็นพ่อค้าคนหนึ่งดูจะเสียดายเกิน แต่ทว่า ก็มีเพียงคนเช่นเขานี่แหละจึงสามารถสร้างห้างที่ยืนหยัดมาเป็นพันล้านปีโดยไม่ล้มได้ เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก ลูกรักของสวรรค์เช่นนี้ ถูกลิขิตแล้วว่าคนอื่นไม่สามารถเทียบได้”
เจียวเหิงก็คือปฐมบรรพบุรุษของห้างเจียวเหิงนั่นเอง ผู้ที่ถูกผู้คนยุคหลังเรียกว่าเป็นพ่อค้าหน้าเลือด ห้างเจียวเหิงที่เขาก่อตั้งขึ้นกลับมีความน่าเชื่อถือยากจะหาผู้ใดเทียม คู่ควรให้ใครก็ตามในแดนสามเซียนให้ความไว้วางใจ นับเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดจริงๆ
สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้วิวัฒนาการสัจธรรมที่ยอดเยี่ยมลึกซึ้ง ลงมือสลักรอยประทับไว้ในกล่องวิเศษ
ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น บทคัมภีร์สัจธรรมถูกสลักไว้ภายในกล่องวิเศษ ทำให้ผู้คนเหมือนมองเห็นควันดำที่ลอยขึ้นมา
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ขณะที่หลี่ชิเย่ลงมือนั้น ไป่จินหนิงรุ้สึกเหมือนชั่วพริบตาเดียวนั้นเหมือนโลกทั้งโลกถูกหลี่ชิเย่ฝากรอยสลักเอาไว้อย่างนั้น พริบตาเดียวนั่นเอง นางเองรู้สึกว่าตนเองคล้ายถูกสลักเอาไว้ตรงนั้นอย่างนั้น ความรู้สึกเช่นนี้มหัศจรรย์ยิ่ง แต่ว่า นางบอกไม่ถูกถึงความลึกลับอะไรนั่น
สุดท้าย หลี่ชิเย่หดมือกลับมา มองดูผลงานของตนและยิ้มบางๆ
“ภายใต้โลกธาตุทุกอย่างพูดยาก เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง ใครบ้างสามารถหนีพ้นเคราะห์กรรมไปได้ล้วนพูดยาก ที่ข้าสามารถให้กับพวกเจ้าได้ก็คือคำชี้แนะเท่านั้นเอง ที่เหลือต้องอาศัยตัวของพวกเจ้าเองแล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
……………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...