ตอนที่ 2972 พบเห็นผู้หญิงลึกลับอีกแล้ว
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่พลันทำให้สีหน้าขององครักษ์ดูไม่จืดจนถึงขีดสุด คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ไม่เพียงเป็นการหาเรื่องในด่านเทียนสงกวานเท่านั้นแล้ว มันเป็นการทำให้แม่ทัพไท่อิ๋นสี่ของพวกเขาต้องเสียเกียรติแล้ว
สมควรทราบว่า ที่ตรงนี้คือด่านเทียนสงกวาน คือถิ่นกองทัพเทียนเชี่ยนของพวกเขา ในผืนแผ่นดินไกลกันดาร ไม่ว่าจะเป็นคนโหดร้ายน่ากลัวเพียงใดก็ตาม เมื่อมาถึงด่านเทียนสงกวานของพวกเขาแล้ว ก็ต้องทำตัวดีทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการก่อเรื่องในด่านเทียนสงกวาน ยั่วยุต่อกองทัพเทียนเชี่ยนพวกเขา สร้างความอัปยศให้กับไท่อิ๋นสี่แม่ทัพของพวกเขา
ต่อให้ไม่ได้อยู่ในด่านเทียนสงกวาน ณ สถานที่แห่งใดในแดนลัทธิเซียนก็ตาม ก็มีไม่กี่คนที่กล้าพูดจาสร้างความอัปยศให้กับไท่อิ๋นสี่
สมควรทราบว่า ไท่อิ๋นสี่คือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน มีกำลังความสามารถในระดับคงความอมตะตลอดกาล ขั้นสูง เพียงพอที่จะทำให้เขาหมางเมินใต้หล้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไท่อิ๋นสี่นั้นถนัดในเรื่องอาศัยวิธีการต่างๆ เอาเปรียบและได้มาซึ่งผลประโยชน์ คบหาผู้คนไปทั่วหล้า มีมนุษย์สัมพันธ์กับผู้คนมากมาย กล่าวได้ในระดับหนึ่งว่า ล่วงเกินไท่อิ๋นสี่ก็เท่ากับแหย่รังแตนเข้าให้
เวลานี้กระบือดำขนาดใหญ่พูดจาไร้ยางอาย ออกปากสร้างความอัปยศให้กับใต้เท้าแม่ทัพของพวกเขา แล้วจะไม่ให้พวกองครักษ์ต้องโกรธเล่า แววตาพลันเสมือนดั่งกระบี่คมกริบที่จ้องเขม็งไปที่พวกของกระบือดำขนาดใหญ่
บรรยากาศพลันตึงเครียดขึ้นมาทันที พร้อมที่จะปะทะกันทุกเมื่อ พวกองครักษ์ต่างอดที่จะมือกดจับอยู่ที่ด้ามจับของดาบที่ห้อยอยู่ข้างเอว
อย่างใดก็ตาม เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่กลับไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย เพียงเหลือบตามองดูเหล่าองครักษ์เหล่านี้นิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ทำไม คิดจะสู้กันรึ? มา มะ มากองทัพเทียนเชียนพวกเจ้าออกมาให้หมด ให้กระบือสุดหล่อ ไม่สิ ให้นายท่านกระบือพวกเจ้าได้ซ้อมมือ ดูว่าหลายปีมานี้ฝีมือของเจ้าหนูอิ๋นเพิ่มขึ้นแค่ไหน ถึงกล้าอวดดีต่อหน้านายท่านกระบือได้”
คำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่พลันทำให้ไป่จินหนิงต้องยิ้มเจื่อนๆ ได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ นางรู้ว่ามาคราวนี้เกรงว่าจะเลี่ยงการปะทะฆ่าฟันไม่พ้นแล้ว นางเองมีชาติกำเนิดมาจากกองทัพเทียนเชี่ยน ย่อมเข้าใจดีว่าการทำให้กองทัพเทียนเชี่ยนต้องอับอายขายหน้าที่ด่านเทียนสงกวานจะมีจุดจบเช่นใด
นับว่ามีเพียงไม่กี่คนที่หาญกล้าสร้างความอับอายให้กับกองทัพเทียนเชี่ยนพวกเขาเช่นนี้ที่ด่านเทียนสงกวาน
แต่ว่า ไป่จินหนิงเองก็จนด้วยเกล้าเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ นางหมดปัญญาจริงๆ นางที่เป็นเพียงหัวหน้ากองเล็กๆ คนหนึ่งมีอำนาจจำกัด ไม่สามารถควบคุมองครักษ์เหล่านี้ได้อยู่แล้ว
ฮึ…ในเวลานี้ หนึ่งในองครักษ์ได้ส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้น มองดูลักษณะของเขาแล้วน่าจะเป็นเพยงหัวหน้ากองเล็กๆ ดวงตาทั้งสองเผยให้เห็นปณิธานการฆ่า มืออยู่ที่ด้ามจับของดาบและกล่าวน้ำเสียงน่าเกรงขามว่า “พวกเรากองทัพเทียนเชี่ยนเฝ้ารักษาชายแดน ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นมาทำให้ต้องด่างพร้อย…”
ไป่จินหนิงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ นางยังจะทำอะไรได้เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว
หลี่ชิเย่แค่ยิ้มนิดหนึ่งเท่านั้น ขณะที่เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่มีอารมณ์ฉุนเฉียว จ้องตาเขม็ง และกล่าวว่า “คนที่รู้จักกาลเทศะจะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน แหะไม่ได้ให้อิ๋นสี่มาต้อนรับ ถือว่าให้เกียรติเขาแล้ว!”
ปัง…เสียงหนี่งดังขึ้น หัวหน้ากองผู้นี้พูดยังไม่ทันจบ เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ได้ยกเท้าถีบออกไป หัวหน้ากองผู้นี้ตัวลอยออกไป
เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง บรรดาองครักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ทยอยกันชักกระบี่และดาบขึ้นมา พลันล้อมกรอบพวกของหลี่ชิเย่เอาไว้ทั้งหมด สถานการณ์ตึงเครียด พร้อมที่จะระเบิดศึกขึ้นทันที
“อ่ะแฮ่ม…” จังหวะที่ตึงเครียดพร้อมระเบิดศึกทันทีนั้น เสียงไอกระแอมดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ ปรากฏคนสองคนได้มายืนอยู่ด้านข้างแล้ว หนึ่งนายหนึ่งบ่าว
สองคนนี้ก็คือนายและบ่าวคู่นั้นที่หลี่ชิเย่เคยพบบนถนน โดยผู้หญิงลึกลับผู้นั้นยังคงปิดบังโฉมหน้าที่แท้จริงเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปโฉมที่งดงามของนางได้ ขณะที่สาวใช้ที่ชื่อจิ้งเอ๋อร์ยังคงอยู่ในรูปแต่งเป็นบุรุษ
การที่นายบ่าวคู่นี้ปรากฎตัวขึ้นที่นี่กะทันหัน พลันทำให้บรรดาองครักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ตระหนกตกใจ เหล่าองครักษ์ที่อยู่ในสถานการณ์ตึกเครียดพลันทยอยกันมือตกอยู่ข้างลำตัวไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม ทยอยกันแสดงคารวะต่อนายบ่าวคู่นี้
ในเวลานี้ บรรดาองครักษ์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างก้มหน้าลงและกลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่กล้าแม้แต่หอบหายใจแรง
“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง จำเป็นต้องแตกหักกันเช่นนี้เลยรึ?” น้ำเสียงของผู้หญิงลึกลับฟังแล้วรู้สึกสบายเป็นพิเศษ ไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ ทำให้ผู้ที่ได้ยินเสียงของนางแล้วอดที่จะรู้สึกเลื่อมใสในใจขึ้นทันที
คำพูดของผู้หญิงลึกลับทำให้บรรดาองครักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่กล้าแม้แต่หอบหายใจแรง พวกเขาต่างยืนก้มหน้า
“พี่หลี่ พวกเราพบกันอีกแล้ว” สายตาของผู้หญิงลึกลับตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ แม้ว่าจะมองไม่เห็นรูปโฉมของนาง แต่ว่า กลับสามารถรับรู้ได้ถึงรอยยิ้มของนาง เหมือนว่านางจะเป็นมิตรกับหลี่ชิเย่เป็นพิเศษ
“มีวาสนาย่อมจะพบกันอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
“คำพูดของพี่หลี่มีเหตุผล” ผู้หญิงลึกลับพยักหน้า และกล่าวว่า “พวกเรายังจะต้องพบกันอีกอยู่แล้ว” กล่าวจบเดินเข้าไปในจวนโดยไม่บอกกล่าว
ก่อนเดินจากไป ผู้หญิงลึกลับอย่างพูดขึ้นเรียบๆ ว่า “ใต้เท้าอิ๋นชอบคบคนและมีน้ำใจไมตรี ผู้มาเยือนล้วนเป็นแขก ไหนเลยให้มีการปฏิเสธแขกกัน” กล่าวจบ นางก็ได้ก้าวเข้าไปในจวนแล้ว
สาวใช้ผู้นั้นที่มีชื่อว่าจิ้งเอ๋อร์ซึ่งแต่งกายเป็นบุรุษได้จ้องตาเขม็งต่อหลี่ชิเย่ ขณะเดินผ่านหลี่ชิเย่ไป เหมือนว่าหลี่ชิเย่เป็นคนไม่ดีอย่างนั้น ดุจดั่งหลี่ชิเย่ต้องการขโมยอะไรบางอย่างไปอย่างนั้น แววตาที่นางจ้องเขม็งหลี่ชิเย่นั้นมีความระมัดระวังตัวอยู่สามส่วน
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ สำหรับท่าทีของสาวใช้ผู้นี้ ยิ่งทำให้สาวใช้ผู้นี้ส่งแววตาที่ดุดันยิ่งกว่ากลับมา ท่าทางของนางโมโหมาก แต่ว่า นางไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ครั้นผู้หญิงลึกลับที่เป็นนายบ่าวสองคนหายเข้าไปในจวนแล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเราไปกันเถอะ” กล่าวพลางก็ก้าวเดินเข้าไปยังจวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...