สรุปตอน ตอนที่ 2974 ฆ่า – จากเรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
ตอน ตอนที่ 2974 ฆ่า ของนิยายActionเรื่องดัง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 2974 ฆ่า
คำพูดของกว่านหวินเผิงเรียกได้ว่ายกตนข่มท่าน แต่ทว่า ใครใช้ให้เขามีชาติกำเนิดที่สูงส่งเล่า แม้ว่าเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่หลายๆ คนแล้ว ทักษะของเขาจะดูอ่อนด้อยไปนิดหนึ่ง แต่ว่า เขาคือศิษย์น้องของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู สิ่งนี้จึงส่งผลให้เขาสามารถอยู่ในฐานะเสมอภาคกับผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก!
“พูดมาก ตบปาก!” หลี่ชิเย่เพียงเลิกหนังตาทีหนึ่ง ไม่ได้มองดูมากไปกว่านั้น
เพียะ เพียะ เพียะ…เสียงตบหน้าดังกังวานขึ้น เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น กว่านหวินเผิงถูกตบหน้าไปกว่าสิบที พลันเล่นงานเขาจนดวงตาทั้งสองมองเห็นเป็นดวงเป็นดาว เลือดสดๆ ไหลจากมุมปากลงมา เมื่อเขาอ้าปากและถ่มเอาเลือดในปากออกมา แม้แต่ฟันในปากก็หลุดตามออกมาด้วย
จากการที่โดนตบปากไปกว่าสิบที ตบจนฟันของกว่านหวินเผิงได้หลุดร่วงตามออกมาด้วย
ในเวลานี้ ทั่วทั้งบริเวณเงียบถึงขีดสุด ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ การก่อเรื่องในงานเลี้ยงของไท่อิ๋นสี่เป็นเรื่องที่กล้ามาก ใครบ้างในแดนลัทธิเซียนที่ไม่ให้เกียรติแก่ไท่อิ๋นสี่ ยิ่งไปกว่านั้น การลงมือของหลี่ชิเย่ในงานเลี้ยงมิเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติไท่อิ๋นสี่แล้ว
“เจ้าเดรัจฉานน้อย…” กว่านหวินเผิงแผดร้องเสียงดัง และกล่าวว่า “เจ้ารนหาที่ตาย…” ขาดคำ พลันดึงเอาภาพวาดออกมาม้วนหนึ่ง
“อย่า…” เทพเย็นชาเจ็ดวงแหวนที่อยู่ข้างกายถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นกว่านหวินเผิงลงมือก่อน
แต่ว่า สายเกินไปเสียแล้ว กว่านหวินเผิงโกรธถึงขีดสุด เมื่อดึงเอาภาพวาดออกมา เห็นภาพวาดดังกล่าวเขียนตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มีอยู่ไม่กี่ขีดเท่านั้น แต่เปี่ยมด้วยพลังยิ่งใหญ่มหาศาล ดั่งพู่กันเหล็กตะขอทองคำ
เสียงตูม…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง เมื่อม้วนภาพถูกคลี่ออกมา ตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ เสมือนดั่งภูเขาลูกใหญ่นับแสนลูกที่เข้าสยบต่อหลี่ชิเย่ นาทีนี้อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่พลุ่งพล่านไม่หยุดนิ่ง ด้วยตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ เช่นนี้เสมือนหนึ่งเป็นฝ่ามือข้างหนึ่งของปฐมบรรพบุรุษที่สยบเข้ามา ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในที่นั้นถึงกับอึดอัดจนหายใจไม่ออก
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ดวงดาวทั้งหมดล้วนสั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง เหมือนว่าหอทั้งหลังก็รับไม่ได้กับพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้อย่างนั้น คล้ายถูกกดทับจนจมลงไม่น้อย
ด้วยพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรพลันเข้าสยบต่อหลี่ชิเย่ในทันทีเช่นนี้ ช่างเป็นอะไรที่สร้างความหวั่นไหวจิตใจผู้คนเหลือเกิน ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องรู้สึกเสียวสันหลังวาบบ กระทั่งมีผู้ที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ
นี่คือลายมือแท้จริงของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู! ระดับผู้ยิ่งใหญ่เห็นแล้วถึงกับตกใจยิ่งนัก เมื่อมองเห็นม้วนภาพวาดลักษณะเช่นนี้แล้ว
ถูกต้อง ตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ เพียงตัวเดียวจากม้วนภาพวาดที่เข้าสยบของกว่านหวินเผิงนั้น เขียนขึ้นมาด้วยลายมือตนเองของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู แม้จะเป็นเพียงตัวอักษรที่ประกอบด้วยขีดไม่กี่ขีด แต่เปี่ยมด้วยพลังของปฐมบรรพบุรุษ
สุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ…สายตาของหลี่ชิเย่เลิกทีหนึ่งเมื่อเห็นตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ จากม้วนภาพสยบเข้ามา มือขนาดใหญ่ได้คว้าจับสวนเข้าไป ขณะที่มือขนาดใหญ่คว้าจับไปเสมือนดั่งฉีกท้องฟ้าจนขาด ทำลายล้างหมื่นอาณาจักร ทุกสิ่งดูไม่คู่ควรจะกล่าวถึงภายใต้มือขนาดใหญ่ข้างนี้
ได้ยินเสียงดังปังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ภายใต้การโจมตีด้วยมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ มองเห็นตัวอักษรคำว่า ‘สยบ’ ที่เข้าสยบและปราบปรามดั่งภูเขานับแสนลูกพลันแตกละเอียดไป ท่ามกลางเสียงดัง ‘แค่วก’ เสียงหนึ่ง ม้วนภาพถูกฉีกขาดไป
เอิกกก…ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาโต้ตอบ กว่านหวินเผิงก็ได้ถูกมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่บีบคอเอาไว้และยกตัวลอยขึ้นเหนือพื้นดิน
กว่านหวินเผิงในเวลานี้ไม่สามารถกระดิกตัวได้ เมื่อถูกมือของหลี่ชิเย่ที่บีบคอเอาไว้อย่างแน่นหนา ตาถลนทั้งสองข้าง ขาทั้งสองชักกระตุกอยูพักหนึ่ง
“อย่าได้ทำร้ายคน! ” เทพเย็นชาเจ็ดวงแหวนถึงกับตื่นตระหนกยิ่ง เมื่อเห็นกว่านหวินเผิงตกไปอยู่ในมือของหลี่ชิเย่ พลันระเบิดวงแหวนเจ็ดวงขึ้นมา วงแหวนทั้งเจ็ดวงสำแดงอานุภาพเต็มที่ในทันที เสมือนดั่งดันหมื่นอาณาจักรให้เปิดออกอย่างนั้น
“มารชั่ว อย่าได้ทำร้ายคน…” กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังต่างทยอยกันตวาดเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพนี้ เสียงอมิตาพุทธสะเทือนเลื่อนลั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั้งกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังสองรูปล้วนปรากฏประกายพุทธะที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยประกายพุทธะที่เป็นระลอกได้ไหลเข้าท่วมหลี่ชิเย่
ภายใต้ประกายพุทธะที่ไหลทะลัก ทั้งกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังต่างเผยร่างที่แท้จริงขึ้นมา กุมารซ้ายหมิงหวังคือชะนี ขณะที่กุมารขวาหมิงหวังคือลิงกอริล่าดำ พวกเขาต่างมีวงรัศมีอยู่ด้านหลังศีรษะ เหมือนเป็นปีศาจที่บรรลุมรรคผล
ฮือออ…ในขณะเดียวกัน กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังทั้งสองคำรามเสียงดังต่างถือตะบองสยบมารในมือฟาดใส่หลี่ชิเย่เสมือนดั่งภูเขาเป็นล้านลูก
ได้ยินเสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว เสมือนหนึ่งท้องฟ้าและดวงดาวล้วนแล้วแต่ แตกละเอียด เมื่อกระบองสยบมารฟาดลงมา ปรากฏประกายพุทธะดั่งคลื่นยักษ์ เสียงเทศนาธรรมดังขึ้นไม่ขาดสาย ประหนึ่งพระเป็นหมื่นเป็นพันต่างมือถือกระบองสยบมารเข้าบดขยี้สังหารต่อหลี่ชิเย่อย่างนั้น
“ฆ่า…” ในพริบตาเดียวนั่นเอง ความที่เทพเย็นชาเจ็ดวงแหวนร้อนรนต้องการช่วยคน จึงส่งเสียงคำรามและถือตราประทับศักดิ์สิทธิ์ในอ้อมกอดแล้วหลอมรวมเข้ากับวงแหวนทั้งเจ็ด ท่ามกลางเสียงดังสนั่นที่ดังตูมขึ้นมา ตราประทับพลันกลับกลายเป็นภูเขาขนาดยักษ์ที่ยอดเยี่ยมหาไม่ได้ในโลกอีกแล้ว โจมตีเข้าใส่หลี่ชิเย่โดยลากวงแหวนตามไปด้วย
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้ เสียงตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย กุมารซ้ายหมิงหวัง กุมารขวาหมิงหวัง เทพเย็นชาเจ็ดวงแหวนพวกเขาทั้งสามคนต่างลงมือพร้อมกัน ทำให้หอทั้งหลังสั่นไหวโคลงเคลง เหมือนว่าหอทั้งหลังจะพังถล่มลงมาอย่างนั้น ทำเอายอดฝีมือที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกตกใจยิ่งนัก
ย่อมไม่ต้องสงสัย กำลังความสมารถของทั้งสามคนล้วนแล้วแต่แข็งแร่งยิ่งนัก หาใช่เป็นชื่อเสียงจอมปลอม
แต่ทว่า หลี่ชิเย่ที่เผชิญกับกระบวนท่าที่โจมตีสังหารเข้ามาของบุคคลทั้งสามกลับไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากมาย กล่าวเรียบเฉยว่า “รนหาที่ตายเอง จะสงเคราะห์พวกเจ้า” ขาดคำ ถือโอกาสสำแดงท่ามุทราขึ้นมาตามอารมณ์ พลันพลิกฝ่ามือและสยบลงมาทันที
เจ้า เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร…นาทีนี้กว่านหวินเผิงสามารถหอบหายใจได้แล้วในที่สุด เขาถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา
“แล้วเจ้าคิดว่าล่ะ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะสังหารข้ามิใช่รึ? เวลานี้เป็นใครสังหารใครกันแน่ล่ะ? ”
“เจ้า เจ้า เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนะ” นาทีนี้ กว่านหวินเผิงก็ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว ชีวิตของตนตกอยู่ในกำมือของคนอื่น ต่อให้เขายโสและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่มากกว่านี้ ในขณะนี้ก็ต้องตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
“ข้า ข้า ข้าเป็นผู้สืบทอดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่งเฉ่า พ่อข้าคือเทพเมฆาม้วน ศิษย์พี่ของข้าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู…” กว่านหวินเผิงตกใจจนใบหน้าขาวซีด จึงยกเอาผู้สนับสนุนของตนออกมา
“พวกอ่อนหัดอย่างเจ้า ต่อให้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเป็นศิษย์พี่ของเจ้าแล้วอย่างไร? ” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “เกรงว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็คงไม่ชอบคนอ่อนหัดอย่างเจ้า
“เจ้า เจ้า เจ้ากล้าฆ่าข้า ศิษย์พี่ของข้าต้องล้างแค้นให้ข้าแน่…” เมื่อกว่านหวินเผิงเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่กลัวการข่มขู่ ถึงกับส่งเสียงร้องขึ้นมา “ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเราจะต้องตามล่าสังหารเจ้า ไม่ให้เจ้ามีที่ซุกหัวใต้หล้าได้…” แม้ว่าคำพูดเช่นนี้ของกว่านหวินเผิงจะออกแนวสุนัขจิ้งจองแอบอ้างบารมีเสือก็ตาม แต่ว่า ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อได้ยินชื่อของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้ว ก็รุ้สึกเย็นวาบบในใจ จะอย่างไรเสียปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็คือระดับปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่ง
“ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเคยได้รับบุญคุณใหญ่หลวงจาเทพเมฆาม้วน” มีผู้เอ่ยขึ้นเบาๆ
เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีทั่วไป ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเคยได้รับการชี้แนะจากเทพเมฆาม้วน เรียกได้ว่าเป็นบุญคุณใหญ่หลวง ถ้าหากเวลานี้มีใครสังหารบุตรชายของเทพเมฆาม้วน เกรงว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูจะต้องทวงคืนความยุติธรรมให้แน่ ซึ่งถือเป็นการตอบแทนบุญคุณอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ในเวลานี้ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ เพื่อกว่านหวินเผิงแล้วเป็นศัตรูกับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย ไม่ว่าใครก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการทำเรื่องเช่นนี้ เพราะเท่ากับเป็นการแหย่รังแตน
“ข้ากลับต้องการดูว่าเป็นเช่นนี้จริงหรือไม่” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและหดนิ้วทั้งห้าให้กระชับขึ้น
“เจ้า…” กว่านหวินเผิงถูกทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พลันมีใบหน้าที่ซีดเผือด รับรู้ได้ถึงนิ้วทั้งห้าของหลี่ชิเย่ที่กระชับเข้ามา ทำเอาปัสสาวะอุจจะระแทบราด ร้องเสียงแหลม “ศิษย์พี่ ช่วยข้า…” ในพริบตาเดียวนั่นเอง เขาคิดจะขอความช่วยเหลือไปยังปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่เสียงของกว่านหวินเผิงเพิ่งพูดขาดคำ ร่างของเขาก็พลันถูกหลี่ชิเย่บีบจนกลายเป็นหมอกเลือดไป ไม่ทันแม้กระทั่งร้องเสียงน่าเวทนาออกมา
…………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...