ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2978

ตอนที่ 2978 คำทำนาย

หลังจากที่ไท่อิ๋นสี่คารวะต่อหลี่ชิเย่แล้ว ได้แสดงคารวะแบบจีนต่อแขกผู้มีเกียรติทั้งหมดที่อยู่ภายในงานอีกครั้ง และกล่าวว่า “มาวันนี้ อิ๋นสี่เชิญทุกท่านมาที่ตรงนี้ก็จะพูดสั้นๆ พูดแบบเปิดอก…”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วไท่อิ๋นสี่ได้หยุดนิดหนึ่ง มองไปยังทุกๆ คนที่อยู่ในงาน และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ช่วงก่อนหน้านั้น ภัยพิบัติยิ่งใหญ่มาถึง โดยด่านเทียนสงกวานเป็นหนังหน้าไฟที่จะประสพภัยเป็นแห่งแรก…” พลันที่ไท่อิ๋นสี่เปิดปากก็เอ่ยถึงเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ผู้ที่อยู่ในงานทั้งหมดต่างหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ต่อให้เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นในใจ

นับว่าน่าสยองขวัญยิ่งเหลือเกิน สำหรับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาก่อนหน้า ลูกอุกาบาดที่ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่และพุ่งชนเข้ามานั้นมีขนาดใหญ่โตมโหฬารเพียงใด มันสามารถพุ่งชนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแต่ละแห่งจนแหลกละเอียดได้ในพริบตา

กล่าวได้ว่า ด้วยลูกอุกาบาดที่ใหญ่โตเช่นนี้ เกรงว่าคงมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไม่กี่แห่งในแดนลัทธิเซียนที่สามารถรองรับกับการพุ่งชนของมันได้

ในครั้งนั้น ขณะลูกอุกาบาดพุ่งชนเข้ามานั้น ประชาชนหนึ่งล้านล้านล้าน ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งมากกว่านี้ต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเหลือเกิน เมื่อเผชิญกับการพุ่งชนเข้ามาของลูกอุกาบาดเช่นนี้

กล่าวสำหรับราชันแท้จริง หรือคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรแล้ว บางทีพวกเขาอาจสามารถหลบหนีไปได้ แต่ว่า พวกเขากลับไม่สามารถปกป้องคุ้มครองนิกายของพวกเขา ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเขาได้ แข็งแกร่งระดับพวกเขาก็ไม่สามารถรับได้กับการพุ่งชนเข้ามาของลูกอุกาบาดเช่นนี้ได้

เวลานี้ไท่อิ๋นสี่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ยอดฝีมือทั้งหมดที่ได้ประสบกับภาพที่น่าสยองขวัญเช่นนี้มาแล้ว จะไม่ทำให้พวกเขาต้องใจหายได้อย่างไรกันเล่า

“…ที่โชคดีก็คือ ที่ตรงนี้ได้แต่หวาดเสียวแต่ไม่มีอันตรายใดๆ ลูกอุกาบาดเพียงแค่เฉียดผ่านด่านเทียนสงกวานไปเท่านั้น และหายเข้าไปในท้องฟ้าด้านทิศเหนือเท่านั้น” ท่าทางของไท่อิ๋นสี่ดูหนักแน่นจริงจังอย่างยิ่งเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้

ทุกคนต่างไม่รู้สึกเหนือความคาดคิด กับอากัปกิริยาที่หนักแน่นจริงจังเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่ ถ้าหากทะเลปุ๊ตู้ไห่ หรือแดนลัทธิเซียนมีภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้น ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า เทียนเชี่ยนย่อมต้องเป็นฝ่ายที่ประสบภัยเป็นแห่งแรก ยิ่งด่านเทียนสงกวานด้วยแล้ว คือสถานที่ที่จะถูกโจมตีเป็นที่แรกอยู่แล้ว

ในฐานะที่เป็นแม่ทัพของกองทัพเทียนเชี่ยน เป็นผู้เฝ้ารักษาด่านเทียนสงกวาน หลังจากที่ประสบกับความหวาดเสียวมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงไม่กล้าประมาท เตรียมความพร้อมเอาไว้ตลอดเวลา เตรียมพร้อมกับการสู้รบที่สะเทือนเลื่อนลั่น

ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี ขอเพียงมีภัยพิบัติใหญ่มาถึง จะเป็นเทียนเชี่ยนก็ดี ด่านเทียนสงกวานก็ช่าง ล้วนยากที่จะหลบหนีเคราะห์กรรมไปได้ การนั่งบัญชาการที่นี่ของไท่อิ๋นสี่ มีภารกิจที่หนักมาก

“…แม้จะกล่าวว่า นี่เป็นเพียงหวาดเสียวแต่ไม่มีอะไร ทว่า ใครจะไปรุ้ได้เล่าว่าอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ไท่อิ๋นสี่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ก่อนหน้านั้นหลายปี พลันปรากฏความมืดครอบคลุมลงมา เป็นที่ทราบกันดีทั่วหล้า ปฐมบรรพบุรุษฉงปี้ก็เคยทำนายเอาไว้ว่า ฟ้าจะเปลี่ยน คนโหดปรากฏ! ดังนั้น อนาคตจึงไม่สดใสนัก”

คำพูดเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่ทำให้ผู้คนต้องหวั่นไหวในใจอีกครั้ง ในเวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ยิ่งทำให้หวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ

เรื่องที่ไท่อิ๋นสี่พูดถึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนภัยพิบัติใหญ่จะเกิดนานมากกว่านี้

ในเวลานั้น ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนพลันกลายเป็นมาร พลังความมืดที่น่ากลัวพลันปรากฏลงมา ประชาชนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่น่ากลัวเข้าแปดเปื้อน ล้วนกลับกลายเป็นมารในพริบตาเดียวนั่นเอง

ภาพในตอนนั้นมันช่างน่ากลัวอะไรเช่นใด ช่างสะเทือนเลื่อนลั่นเพียงใด สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ทำให้ผู้คนใต้หล้าล้วนตัวสั่นดั่งลูกนก

ในครั้งนั้น การกลับกลายเป็นมารนั้นมาเร็วไปเร็ว ทำให้ผู้คนรู้สึกเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว เหมือนฝันไปอย่างนั้น

มีผู้กล่าวว่า นี่เป็นเพียงจินตนาการอย่างหนึ่ง แต่ว่า ก็มีผู้ที่กล่าวว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เป็นการโหมโรงก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ แต่ว่า ล้วนแล้วแต่สร้างความตระหนกและอกสั่นขวัญแขวนให้กับประชาชนทั้งสิ้น

โชคยังดีก็คือ ภายหลังในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมาก ปรากฏใต้หล้ามีแต่ความสงบสุข จึงส่งผลให้ผู้คนมีจิตใจที่สงบลง แต่ ช่วงก่อนหน้าได้ปรากฏเรื่องของอุกาบาตรที่พุ่งชนเข้ามาอีก ซึ่งก็ได้ทำให้ภายในใจของผู้คนบังเกิดความกังวลขึ้นมาบ้าง

ที่โชคดีก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการกลายเป็นมารทั่วหล้า หรือว่าการพุ่งชนเข้ามาของลูกอุกาบาด ล้วนแล้วแต่แค่หวาดเสียวแต่ไม่มีอันตราย ซึ่งทำให้ทุกคนแอบโล่งอกกันอย่างเงียบๆ

เวลานี้ ไท่อิ๋นสี่ได้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ภายในใจของผู้คนทุกๆ คนที่อยู่ในงานเกิดความกังวลขึ้นมา

“ในครั้งนั้น เป็นการทำนายของปฐมบรรพบุรุษฉงปี้จริงๆ รึ? ” ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในงานกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาช้าๆ

ปฐมบรรพบุรุษฉงปี้ก็นับเป็นปฐมบรรพบุรุษที่ลึกลับมากคนหนึ่ง ขณะเดียวกันนางก็เป็นปฐมบรรพบุรุษที่เป็นที่รู้จักกันดี และยังคงรั้งอยู่ในหล้า

ผู้คนทั่วหล้าต่างรู้ว่าปฐมบรรพบุรุษฉงปี้สามารถทำนายอนาคตได้ แอบส่องโลกหล้าได้ ถ้าหากคำทำนายนี้ออกมาจากปฐมบรรพบุรุษฉงปี้จริงๆ ล่ะก็ย่อมจะไม่ผิดแน่

“อมิตาพุทธ สาธุ สาธุ” ในเวลานี้เอง ปรากฏหลวงจีนรูปหนึ่งลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า ” คำทำนายนี้เป็นคำคาดการณ์ของปฐมบรรพบุรุษของพวกเราเอง ได้ผลจริงๆ ”

หลวงจีนรูปนี้สวมชุดจีวรเก่าๆ จีวรที่สวมใส่บนตัวของเขานั้นผ่านการซักมาครั้งแล้วครั้งเล่า ซักจนกลายเป็นออกไปทางสีขาวไปแล้ว แต่ว่าสะอาดหมดจดอย่างยิ่ง