ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3012

ตอนที่ 3012 ข้าคือหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุด

ถุย ถุย ถุย…พลันที่กระบือดำขนาดใหญ่ถูกหินก้อนนี้เรียกว่าเป็น ‘ผู้เยาว์’ รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที ร้องกล่าวด้วยความอวดดีว่า “ข้าคือกระบือเทพตลอดกาล กำเนิดจากตระกูลเซียน มีสายเลือดที่ปราศจากผู้เทียบเทียม มีชีวิตอยู่มานานนับไม่ถ้วน เจ้าที่เป็นเพียงเศษหินแตกๆ กล้าดีอย่างไรมาเรียกกระบือสุดหล่ออย่างข้าว่าผู้เยาว์ ลองชิมลูกเตะของข้าดู…” ขาดคำ เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ยกเท้าตนเองขึ้น ปัง ปัง ปังเตะเข้าไปที่หินสีดำก้อนนั้น

หินสีดำก้อนนั้นก็ไม่อ่อนข้อให้ ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น มันเปล่งแสงสีดำวูบวาบทั่วตัว เสมือนหนึ่งเป็นวงแหวนศักดิ์สิทธิ์กั้นขวางเท้าของกระบือดำขนาดใหญ่ ที่เตะเข้ามา

ดังนั้น เมื่อเท้าของกระบือดำขนาดใหญ่เตะเข้าไปที่วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ ปรากฎเสียงปัง ปัง ปังที่ดังขึ้นเสมือนหนึ่งได้สั่นคลอนต่อภูเขาสยบลูกนี้ทั้งลูกอย่างนั้น จากจุดนี้ก็สามารถมองออกได้ว่าทั้งสองฝ่ายมีกำลังที่กล้าแข็งเพียงใดแล้ว

“กระบือเทพตลอดกาลแล้วยังไง!” หินสีดำก้อนนั้นส่ายหน้าด้วยความละอา และกล่าวว่า “ข้ากำเนิดขึ้นที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ จมอยู่ใต้น้ำ กลืนกินสรรพสิ่ง ทนแบกรับไม่จบไม่สิ้น เพียงฟ้าดินแรกเริ่มข้าก็ถือกำเนิดขึ้นมา ผ่านกาลเวลามาไม่มีสิ้นสุด ใครเล่าเทียบเคียงข้าได้”

ย่อมไม่ต้องสงสัย เจ้าหินสีดำก้อนนี้ก็เรียกว่าหยิ่งผยองอย่างยิ่ง เปี่ยมด้วยความมั่นใจ ท่าทางเชิดใส่กระบือดำขนาดใหญ่

แม้ว่าหินสีดำก้อนนี้จะถูกสยบเอาไว้ตรงนั้นจนกระดิกตัวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เวลานี้ขนาดที่มันพูดมันจาออกมา เรียกได้ว่าดูมีชีวิตชีวาเหมือนจริง เหมือนเป็นผู้ที่หยิ่งยโสถือดีกำลังยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน

เชอะ…กระบือดำขนาดใหญ่ต่อท่าทีที่เชิดใส่ของหินสีดำได้กล่าวว่า “เจ้าถือกำเนิดขึ้นที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ จมอยู่ใต้น้ำ กลืนกินสรรพสิ่งแล้วไง ยังคงเป็นได้แค่คนดื้อรั้นที่ถูกสยบใต้ภูเขาท่านั้นเอง หินห่วยๆ ก้อนหนึ่ง”

“รอให้ข้าออกไปก่อน รับรองได้ว่าจะกวนสถานการณ์เปลี่ยนไปตลอดกาล ข้าต้องได้ชุบทองกลายเป็นเซียนแท้จริงสูงสุด ท้ายที่สุดแล้วพวกเจ้าเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้นเอง เป็นได้เพียงฝุ่นผงที่ปลิวกระจายล่องลอยไปตามลมเท่านั้นเอง” หินสีดำก้อนนั้นเปี่ยมด้วยความโอหังอวดดี ท่าทางข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ได้รับการเคารพสูงสุดอย่างนั้น

“เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ฝันกลางวันไปก็แล้วกัน” กระบือดำขนาดใหญ่มองดูหินสีดำด้วยสายตาเหยียดหยาม และกล่าวว่า “ชาตินี้เจ้าไม่น่าจะออกมาได้แล้ว เจ้าจะต้องใช้ชีวิตท่ามกลางตีนเขาไปทั้งชาติ มีความฝันอะไรก็ค่อยๆ ฝันไปก็แล้วกัน”

“เจ้าวัวน้อยไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าออกไปได้ล่ะก็จะฆ่าเจ้าแน่นอน” ดูเหมือนหินสีดำก้อนนี้จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับคำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่

กระบือดำขนาดใหญ่ยกเท้าขึ้นเตะปัง ปัง ปังเข้าไป แต่ว่าล้วนถูกต้านเอาไว้ด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ของหินสีดำ เขามองหินสีดำท่าทีเหยียดหยามว่า “อาศัยหินห่วยๆ อย่างเจ้าถึงกังหาญกล้ากล่าววาจาไม่มียางอาย ไม่ต้องรอให้เจ้าออกมา กระบือสุดหล่ออย่างข้าจะเหยียบเจ้าให้ตายเดี๋ยวนี้แหละ!”

“ต่อให้เจ้าไปฝึกอีกร้อยชาติ ก็ทำอะไรข้าไม่ได้แม้แต่น้อย มดปลวกอย่างเจ้าไหนเลยคู่ควรจะกล่าวถึง…” หินสีดำเชิดใส่สำหรับความอวดดีของกระบือดำขนาดใหญ่

ในเวลานี้ กระบือดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง กับหินก้อนหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ประลองกันขึ้นมา หลังจากเชือดเฉือนกันด้วยวาจากันไปมา ผู้ที่ไม่รู้ความยังเข้าใจว่าพวกเขาบ้าไปแล้ว

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มองเห็นภาพนี้แล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ในขณะเดียวกัน ภายในใจของนางก็แอบหายใจด้วยความโล่งอกทีหนึ่ง หินสีดำก้อนนี้ไม่ได้ชั่วร้ายและดำมืดเหมือนที่จินตนาการเอาไว้มากทีเดียว

“พวกเจ้าคนหนึ่งชื่อกระบือดำขนาดใหญ่ อีกคนชื่อหินสีดำ ข้าว่าพวกเจ้าสองคนสาบานเป็นพี่น้องก็แล้วกัน” ขณะที่กระบือดำขนาดใหญ่ และหินสีดำต่างเชือดเฉือนกันด้วยคำพูดอยู่นั้น หลี่ชิเย่ได้กล่าวเอ้อระเหยขึ้นมา

“เชอะใครเป็นพี่น้องกับเขา…” กระบือดำขนาดใหญ่ และหินสีดำต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน สำหรับคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ทั้งสองฝ่ายต่างเชิดใส่ซึ่งกันและกัน

“เจ้ามาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่?” ในขณะนี้ หลี่ชิเย่มองดูหินสีดำและเอ่ยขึ้นช้าๆ

แม้ว่าหินสีดำจะหยิ่งยโสและถือดี น้ำเสียงอวดดีอย่างยิ่ง และมีท่าทีที่เชิดใส่กระบือดำขนาดใหญ่ แต่ว่ากับการเอ่ยถามของหลี่ชิเย่เขาถึงกับนิ่งเงียบ เนื่องจากเขารับรู้ถึงความน่าสยองขวัญของหลี่ชิเย่

“ถูกต้อง” หลังจากที่หินสีดำนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าถือกำเนิดที่ใต้ทะเลลึกของทะเลปุ๊ตู้ไห่! ได้รับโชคที่ยากจะหาผู้ใดเทียม ข้าคือหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุด”

“รู้แล้ว รู้แล้วว่าเจ้าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแล้วล่ะ” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่กล่าวหยอกล้อขึ้นสำหรับการพูดเองเออเองของหินสีดำ

“ชาติกำเนิดของข้าเหนือกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า” หินสีดำเมินใส่กับการพูดหยอกล้อของกระบือดำขนาดใหญ่ ท่าทางเย็นชายิ่งนัก

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?” หลี่ชิเย่เอ่ยถามาขึ้น

หินสีดำนิ่งเงียบพักหนึ่ง สุดท้ายเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “มีคนผู้หนึ่งช้อนข้าขึ้นมาจากใต้ทะเลลึก ดังนั้น ข้าจึงได้ปรากฏตัวบนโลก!”

“ใคร? ปฐมบรรพบุรุษอัคคีรึ?” กระบือดำขนาดใหญ่เอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

“ไม่ใช่…” หินสีดำกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมาก!”

ขณะที่หินสีดำพูดคำพูดนี้ออกมานั้น ดูจะพิถีพิถันกับน้ำเสียงเป็นพิเศษ น้ำเสียงที่เขาปฏิเสธว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีเป็นผู้ช้อนตัวเขาขึ้นมานั้นดูเย็นชามาก เหมือนว่าต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับปฐมบรรพบุรุษอัคคี เขาก็จะหยิ่งผยองเช่นนี้แหละ

แต่ว่า เมื่อเอ่ยถึงคนที่ช้อนเอาตัวเขาขึ้นมานั้น เขาให้คำว่า ‘แข็งแกร่งมาก’ ติดต่อกันถึงสามครั้ง เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่พูดคำพูดนี้ออกมา น้ำเสียงแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความหวาดกลัว

สามารถฟังออกได้ว่า ดูเหมือนว่าหินสีดำจะหวั่นเกรงอย่างยิ่งสำหรับการดำรงอยู่ของบุคคลเช่นนี้ กระทั่งเรียกได้ว่าหวาดกลัวมาก

“แหะแข็งแกร่งแค่ไหนว่ามาให้ฟังซิ” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะทีหนึ่ง แม้ว่าเขาจะเมินใส่หินสีดำ เวลานี้คำพูดของเขาก็ดูจะมีท่าทีหนักแน่นจริงจังขึ้นมาไม่น้อย

ราชันแท้จริงเซิ่นซวง ก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นางเคยปะมือกับหินสีดำมาก่อน รู้ว่าหินสีดำนั้นมีความแข็งแกร่งเช่นใด และน่าสยองขวัญเพียงใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล