ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3054

ตอนที่ 3054 เหล่าจวินนัยน์ตาเทพ

ในขณะนี้สองทัพประจันหน้ากัน ปรากฏกลิ่นอายฆ่าฟันไร้ซึ่งความปราณีเกลื่อนกลาดเต็มท้องฟ้า ปณิธานเย็นยะเยือกที่แผ่กระจายออกมาจากดาบและกระบี่ได้เอ่อท่วมฟ้าดินจนหมดสิ้น ทำให้ผู้คนถึงกับต้องสั่นเทา

ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง นาทีนี้มีคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนหัวเรือของเรือทองคำ เป็นผู้เฒ่าคนหนึ่ง โดยผู้ที่ยืนอยู่ข้างกายผู้เฒ่าผู้นี้ก็คือเด็กมหัศจรรย์สามตานั่นเอง

ผู้เฒ่าผู้นี้สวมใส่ชุดคลุมตัวใหญ่ผูกเชือก มีแขนเสื้อที่กว้าง ขณะที่ลมพัดผ่านมาแรงจะส่งเสียงดังพรึบพรึบ มีท่าทีของลมพัดโชยแรงเมฆกระจัดกระจาย วันใดได้รับชัยก็จะกลับบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่

นัยน์ตาดวงที่สามบริเวณหว่างคิ้วของผู้เฒ่าตั้งขึ้นและปิดสนิท แต่ว่า แม้นัยน์ตาดวงนี้จะปิดสนิทยังคงมีประกายแสงสายหนึ่งที่เล็ดรอดออกมา ขณะที่ประกายแสงสายนี้เล็ดรอดออกมานั้น เหมือนผ่าฟ้าดินให้แยกออก ย้อนไปยังต้นกำเนิดที่ขมุกขมัว

ลักษณะของประกายแสงสายนี้นับว่าเจิดจ้าเกินไป และละลานตามากเกินไปจนสามารถทำให้ตาของทุกคนบอดได้ แม้จะเป็นเพียงประกายแสงสายหนึ่งเช่นนี้ ความสว่างของมันดูเหมือนจะเจิดจ้าละลานตายิ่งกว่าดวงตะวันเสียอีก

“เหล่าจวินนัยน์ตาเทพ…” ผู้ที่อยู่ในระดับบรรพบุรุษถึงกับตกใจ และหวาดผวา เมื่อเห็นผู้เฒ่าผู้นี้ที่ยืนอยู่บนหัวเรือของเรือทองคำ ประกายแสงสายนั้นที่แผ่กระจายออกมาจากนัยน์ตาดวงที่สามที่ตั้งขึ้นของเขาสามารถทำให้ทุกคนตาบอดได้

“เหล่าจวินนัยน์ตาเทพก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว” ผู้ที่รู้จักชื่อของเขาต่างตกใจยิ่งนัก เมื่อได้เห็นผู้เฒ่าผู้นี้แล้ว

เหล่าจวินนัยน์ตาเทพคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งมากที่สุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถง เขาได้ฝึกปรือนัยน์ตาดวงที่สามของเขาจนถึงขั้นสามารถสังหารระดับราชันแท้จริงได้อย่างง่ายดายแล้ว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หน้าถอดสีเมื่อเอ่ยถึงตัวเขา เขาคือระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด

ผู้คนในหล้าไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเหล่าจวินนัยน์ตาเทพมาไม่ทราบกี่ยุคกี่สมัยมาแล้ว เขาปลีกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวทางโลกมานานมากแล้ว นึกไม่ถึงว่าในยุคนี้เหล่าจวินนัยน์ตาเทพไม่เพียงปรากฎตัวอีกครั้งเท่านั้น ทั้งยังมาด้วยตนเอง ย่อมสมามารถจินตนาการได้ว่า มาคราวนี้ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถงไม่ได้ล้อเล่น แต่ต้องการตายไปข้างหนึ่งกับตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนจริงๆ

“ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถงพวกเราใช่ปั้นด้วยดินเหมือนกัน ต่อให้ปั้นด้วยดินก็ยังมีความเป็นดินอยู่สามส่วน” เหล่าจวินนัยน์ตาเทพเอ่ยขึ้นช้าๆ น้ำเสียงเหมือนปราศจากอารมณ์โกรธ

ทว่า แม้คำพูดของเหล่าจวินนัยน์ตาเทพที่พูดออกมาปราศจากอารมณ์โกรธ ยังคงทำให้ผู้คนต้องเคารพยำเกรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายตาของเขาจ้องมองเข้ามานั้น ต่อให้เป็นราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ ยังรู้สึกเหมือนตนเองถูกมีดแหลมคมแทงเข้าหัวใจอย่างนั้น

ไม่ว่าใครก็เข้าใจได้ว่า เกรงว่าการปรากฎตัวขึ้นมาของเหล่าจวินนัยน์ตาเทพไม่เพียงต้องการทวงความยุติธรรมให้กับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถงเท่านั้น ยังต้องการหนุนหลังให้กับเด็กมหัศจรรย์สามตาอีกด้วย

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้แอบมองดูเทพสงครามจินเปี้ยนทีหนึ่ง แม้ว่าเทพสงครามจินเปี้ยนจะเป็นราชันแท้จริงสิบสองลัคนาคนหนึ่ง ชื่อเสียงด้านการรบโด่งดังยิ่ง แต่ว่า เมื่อเผชิญกับผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเหล่าจวินนัยน์ตาเทพแล้ว โอกาสชนะของเขามีไม่มาก

แน่นอน มีผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบมองดูหมิงหวังฝอทีหนึ่ง จะอย่างไรเสียหมิงหวังฝอกับเทพสงครามจินเปี้ยนอยู่ในแนวร่วมเดียวกัน เมื่อถึงเวลานั้นไม่แน่นักแม้แต่ห้าสหายภูผาเมฆก็จะช่วยเหลือเทพสงครามจินเปี้ยนอีกแรง

แต่ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจได้ว่า เมื่อใดที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสงครามระหว่างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิแล้ว ก็จะนำพาระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเข้าไปอยู่ในข้อพิพาทด้วย

“เหล่าจวิน เรื่องของคนหนุ่มก็ปล่อยให้คนหนุ่มไปแก้ไข ตาเฒ่าอย่างพวกเราใยต้องเข้าไปวุ่นวายด้วยเล่า” พลันที่เหล่าจวินนัยน์ตาเทพเพิ่งจะพูดขาดคำ เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

ในเวลานี้ ได้ยินเสียงเอี๊ยดด เอี๊ยดด เอี๊ยดดดังขึ้น เวลานี้ในประตูมิติปรากฏรถศึกทองคำค่อยๆ แล่นออกมาอย่างช้าๆ ขณะที่รถศึกทองคำค่อยๆ เคลื่อนออกมานั้น ประกายสีทองละลานตาอย่างยิ่ง เสมือนหนึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของเทพสุริยัน และรถศึกทองคำคันนี้เหมือนสร้างขึ้นมาจากทองคำที่ดีที่สุด

ผู้เฒ่าผู้หนึ่งยืนอยู่บนรถศึกทองคำ ผู้เฒ่าผู้นี้มีสีเหลืองทองทั้งตัว ร่างกายของเขาก็เหมือนหลอมสร้างจากทองคำอย่างนั้น ร่างกายทองคำของเขาแลดูงดงามอย่างยิ่ง ภาพรวมของร่างกายของเขาดูไปแล้วก็ไม่เหมือนร่างที่เป็นเลือดเป็นเนื้อ!

ผู้เฒ่าผู้นี้สวมมงกุฎพระอาทิตย์บนหัว ฮ่องเต้สุริยันได้โปรยปรายเปลวเพลิงสุริยันที่ไม่มีสิ้นสุดลงมา และห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของเขาเอาไว้ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามเมื่อเข้าไปใกล้เปลวเพลิงสุริยันที่น่าสยองขวัญ ก็จะถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น

แม้ว่าผู้เฒ่าผู้นี้อยู่บนท้องฟ้า และอยู่ห่างจากผู้คนไกลมาก แต่ว่า ในระยะที่ห่างไกลมากก็ทำให้ผู้คนรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนที่ร้อนเผ่ายิ่งสายหนึ่งเข้ามาปะทะใบหน้า ทำให้ผู้คนรู้สึกร้อนจนยากจะทนได้

“เทพผยองสุริยัน…” ทุกคนต่างมีภาพความทรงจำที่ลึกซึ้งมากเหลือเกิน เมื่อได้มองเห็นผู้เฒ่าผู้นี้แล้ว เขาเหมือนเทพสุริยัน ขอเพียงเป็นผู้ที่เคยเห็นหน้าเขาเพียงครั้งเดียวล้วนไม่ลืม แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยพบหน้าเขามาก่อน ขอเพียงรับรู้ถึงชื่อเสียงของเขาแล้ว พลันที่มองเห็นร่างที่แท้จริงของเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นใครแล้ว

“เทพผยองสุริยันก็มาแล้ว ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิสองแห่งได้หักหน้ากันอย่างสิ้นเชิงแล้ว” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่มีกำลังความสามารถระดับคงความอมตะตลอดกาลก็อดที่จะอกสั่นขวัญแขวน เมื่อมองเห็นผู้เฒ่าผู้นี้

เทพผยองสุริยัน ผู้มีฐานะสูงสุดของเผ่าจินเปี้ยนก็คือระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นสูงสุดคนหนึ่ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งที่ยังคงเหลืออยู่ของเผ่าจินเปี้ยน เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกร

หลังจากเงียบสงัดกาลเวลาแล้วกาลเวลาแล้ว เทพผยองสุริยันถึงกับปรากฏตัวขึ้นมา แล้วจะไม่ให้ผู้คนต้องหวั่นไหวได้อย่างไร

มาวันนี้ ณ ที่ตรงนี้ เหล่าจวินนัยน์ตาเทพของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถง เทพผยองสุริยันของเผ่าจินเปี้ยน พวกเขาต่างก็ได้มาแล้ว อานุภาพสยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน มีผู้ที่ทักษะอ่อนด้อยจำนวนเท่าไรที่ต้องคุกเข่าลงเต็มไปหมด ภายใต้การสยบด้วยอำนาจของพวกเขา

สิ่งนี้ได้ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเข้าใจได้ว่า สงครามระหว่างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเทียนถง กับตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะต้องมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิหนึ่งล่มสลายอย่างแน่นอน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล