ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3072

สรุปบท ตอนที่ 3072 เทียบห้าภพภูมิ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 3072 เทียบห้าภพภูมิ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3072 เทียบห้าภพภูมิ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 3072 เทียบห้าภพภูมิ

หมิงหวังฝอยังคงเป็นพระอรหันต์สูงสุดองค์หนึ่ง ยังคงมีรัศมีพุทธส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค แต่ว่า เวลานี้เขากลับให้ความรู้สึกถึงความอันตรายยิ่งอย่างหนึ่งแก่ผู้คน

“นี่คืออะไร? นี่คือการกลายเป็นมารรึ?” มียอดฝีมือที่มองดูสภาพของหมิงหวังฝอแล้วอดที่จะซุบซิบขึ้นมา

ก่อนหน้านั้น หมิงหวังฝอก็ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรอย่างหนึ่ง รัศมีพุทธของเขาก็สามารถกดดันผู้คนจนหอบหายใจไม่ทันเช่นกัน แต่ว่า หมิงหวังฝอในขณะนี้ดูจะอันตรายยิ่งกว่า เหมือนเป็นพระวชิระที่พิโรธองค์หนึ่ง

“ไม่ใช่กลายเป็นมาร เขาอาศัยหยิบยืมและควบคุมพลังของปฐมบรรพบุรุษ” ระดับคงความอมตะตลอดกาลผู้หนึ่งกล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจัง และกล่าวเอาจริงเอาจังว่า “กลิ่นอายนี้เหมือนเป็นของปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่ง แข็งแกร่งมากเหลือเกิน แม้วว่าหมิงหวังฝอสามารถหยิบยืมพลังเพียงหนึ่งในสิบของหมิงหวงฝอก็สยองขวัญยิ่งนัก เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกร”

ระดับคงความอมตะตลอดกาลผู้นี้รับรู้รางๆ ถึงกลิ่นอายที่อยู่ภายในร่างกายของหมิงหวังฝอว่าเป็นของปฐมบรรพบุรุษคนใด แต่ว่าเขาไม่กล้ายืนยัน จะอย่างไรเสียเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของปฐมบรรพบุรุษไร้เทียมทานผู้นี้ ไม่ว่าใครก็ไม่กล้ายืนยันโดยง่ายดาย

“นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ ทีหนึ่งขณะมองดูลาวาไฟชั่วร้ายที่มีพลังมหาศาลซึ่งกำลังคำรามอยู่ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สามารถสะกดพลังความมืดสายนี้เอาไว้ได้ หยิบยืมและควบคุมมัน โชคทางด้านพระธรรมเรียกได้ว่าลึกล้ำ ไม่เสียทีที่เป็นผู้นำของศาสนาพุทธ”

“สาธุ สาธุ…” หมิงหวังฝอไม่ได้ลำพองใจ ประนมมือ หลับตาและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “อาตมามีบาป ศึกครั้งนี้แล้วจะไปรับโทษต่อพุทธองค์ที่แดนสุขาวดี”

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปณิธานกระบี่ของเทพสงครามจินเปี้ยนได้ปะทุขึ้นมาทั่วร่าง ทันใดนั่นเองร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนกลับกลายเป็นสูงใหญ่ยิ่งนัก

ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ปรากฏปณิธานกระบี่พวยพุ่งออกมาจากทั่วร่างของเขา ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น นาทีนี้ร่างกายที่เป็นโลหะของเทพสงครามจินเปี้ยนถึงกับมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มแล้วเล่มเล่าที่งอกขึ้นมาที่หลังของเขา

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มเสมือนดั่งมีเลือดมีเนื้ออย่างนั้น เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา หลังจากที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มได้งอกออกมาแล้ว ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นสีกระบี่ปราชญ์ในมือของเทพสงครามจินเปี้ยนเริ่มเปลี่ยนไป

“สัจธรรมข้าคือกระบี่…” เทพสงครามจินเปี้ยนคำรามเสียงดัง ร่างกายของเขาพลันกลับกลายเป็นสีแดงฉาน และร่างกายที่เป็นโลหะของเขาพลันกลับกลายเป็นร่างที่มีเลือดเนื้อ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เทพสงครามจินเปี้ยนจะปรากฏในสภาพของโลหะ ทั่วทั้งร่างของเขาคล้ายหลอมสร้างขึ้นมาด้วยโลหะศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น แต่ว่า นาทีนี้เมื่อร่างกายของเขากลายเป็นสีแดงฉานนั้น ร่างกายของเขาถึงกับเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นมีเลือดมีเนื้อ

ที่แปลกประหลาดมากที่สุดก็คือ กระบี่ปราชญ์ในมือของเขาเสมือนดั่งได้รับผลกระทบจากเทพสงครามจินเปี้ยนเช่นกัน กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดถึงกับกลายเป็นกระบี่กระดูกเล่มหนึ่ง

จี๊ด จี๊ด จี๊ด…ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาสนองตอบ เห็นกระบี่ปราชญ์ที่อยู่ในมือของเทพสงครามจินเปี้เยนพลันสลักนาบลงบนตัวของตน

ขณะที่เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมานั้น ปรากฏควันดำลอยโขมงขึ้นมา ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงแก่ผู้คน

ภาพนี้คล้ายกระบี่ปราชญ์คือเหล็กประทับที่ถูกเผาจนแดง แล้วประทับนาบลงบนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนอย่างนั้น

สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึง และสั่นเทาตลอดเวลา เมื่อได้ยินเสียงที่นาบลงไปดังจี๊ด จี๊ด จี๊ด

สุดท้าย ได้ยินเสียงคร๊ากกกดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ภายใต้สายตาผู้คนจำนวนมาก มองเห็นกระบี่ปราชญ์ในมือของเทพสงครามจินเปี้ยนได้สลักประทับฝังลงไปและหลอมรวมเข้าไปอยู่ภายในร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนโดยสิ้นเชิง

ภาพเช่นนี้ก็เหมือนกระบี่เหล็กเล่มหนึ่งที่ถูกเผาจนแดง แล้วประทับฝังเข้าไปในร่างกายของคนเป็นๆ ดื้อๆ อย่างนั้น ภาพเช่นนี้ช่างหวาดหวั่นพรั่นพรึงอะไรอย่างนั้น

แต่ว่า ที่น่าสยดสยองขวัญยิ่งกว่าได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อกระบี่ปราชญ์เล่มนี้ถูกสลักฝังเข้าไปในร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนแล้ว ได้ยินเสียงกระบี่คำรามดังตึงขึ้นมาเสียงหนึ่ง จากนั้น กระบี่ปราชญ์ทั้งเล่มเหมือนรากงอกอยู่ภายในร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนอย่างนั้น

นาทีนี้ปรากฎเสียงดูดออกไปดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้น เหมือนกระบี่ปราชญ์เล่มนี้กำลังดูดเอาเลือดเนื้อ พลังแก่น พลังสัจธรรมของเทพสงครามจินเปี้ยนออกไปอย่างบ้าคลั่ง

นาทีนี้ทุกคนต่างมองดูจนเหม่อลอย เนื่องจากกระบี่ปราชญ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ปราศจากผู้ต่อกรเมื่อครู่ เวลานี้เสมือนดั่งกลายเป็นกระบี่มารอย่างนั้น กำลังดูดเอาทุกสิ่งทุกอย่างของเทพสงครามจินเปี้ยนไป ต้องการดูดเทพสงครามจินเปี้ยนจนกว่าจะแห้ง

อย่างไรก็ตาม เทพสงครามจินเปี้ยนไม่ได้ถูกดูดจนแห้ง แต่จากการที่กระบี่ปราชญ์ได้ดูดเอาเลือดเนื้อ พลังแก่น ของเทพสงครามจินเปี้ยนอย่างบ้าคลั่งนั้น ร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนได้เกิดการเปลี่ยนแปลที่น่ากลัวขึ้น ร่างกายของเขาได้กลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอย่างช้าๆ

ในเวลานี้ ร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนก็คล้ายเป็นกระบี่เนื้อเล่มหนึ่งที่ห่อหุ้มกระบี่ปราชญ์เอาไว้อย่างนั้น ไม่ถูก มันไม่ได้ห่อหุ้มกระบี่ปราชญ์เอาไว้ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบี่ปราชญ์

“นี่ นี่ นี่ นี่เล่นบ้าอะไรกันแน่?” ผู้คนที่มองเห็นร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันกับกระบี่ปราชญ์ และร่างของเทพสงครามจินเปี้ยนกลายเป็นกระบี่กระดูกเล่มหนึ่ง ทำให้ผู้คนอยากจะอาเจียนออกมา และร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง

“นี่ นี่เป็นกระบี่ปฐมบรรพบุรุษมิใช่รึ? ทำไมถึงได้กลายเป็นกระบี่มารที่น่าสยองขวัญเช่นนี้?” มีผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับผวา และก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

“นี่เป็นการเรียงลำดับผิดของท่าน” ระดับบรรพบุรุษทอดถอนใจเบาๆ และกล่าวว่า “สิ่งนี้หาใช่กระบี่ปราชญ์ดูดเอาตัวเทพสงครามจินเปี้ยนไป แต่เป็นเทพสงครามจินเปี้ยนที่ไปเกาะอยู่กับกระบี่ปราชญ์ ด้วยการแปลงเลือดแก่น กระดูกและเนื้อของตนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบี่ปราชญ์ ทำเช่นนี้จึงสามารถสำแดงอานุภาพของกระบี่ปราช์ญ์ถึงขีดสูงสุด!”

“นี่คือเคล็ดวิชาแปลงโลหะที่เก่าแก่โบราณอย่างยิ่งของเผ่าจินเปี้ยนที่สูญหายไปนานมากแล้ว นึกไม่ถึงว่าเทพสงครามจินเปี้ยนถึงกับสามารถฝึกได้สำเร็จ” ระดับบรรพบุรุษอีกผู้หนึ่งถึงกับเคารพยำเกรงเมื่อเห็นภาพเช่นนี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวลานี้นับว่าชั่วร้ายมากเหลือเกิน เริ่มจากหมิงหวังฝอกลืนกินลาวาไฟชั่วร้าย จากนั้นเทพสงครามจินเปี้ยนทำการหลอมกลั่นตนเองให้กลายเป็นกระบี่กระดูก เวลานี้ก็มีหลี่ชิเย่โผล่ออกมาห้าคน นับว่าชั่วร้ายจนสุดๆ ไปแล้ว

“นี่แหละคือเทียบห้าภพภูมิ” ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ

“เป็นการแปลงเป็นหลี่ชิเย่อย่างนั้นรึ?” มียอดฝีมืออดพึมพำขึ้นมาไม่ได้

“นี่หาใช่การแปลง และไม่ใช่การเลียนแบบ” ระดับบรรพบุรุษคงความอมตะตลอดกาลกล่าวขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “พวกเขาเป็นการเปรียบเทียบ ในขณะนี้พวกเขาได้สลักเอาสัจธรรมของหลี่ชิเย่ออกมา ดังนั้น พวกเขาจึงมีพลังของหลี่ชิเย่อยู่ในครอบครอง มีเคล็ดวิชาของหลี่ชิเย่ มีความปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่”

“ลักษณะเช่นนี้ก็คล้ายศัตรูจัดการก๊อบปี้ตนเองให้กลายเป็นเจ้า และมีทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าอยู่ในครอบครอง” ระดับบรรพบุรุษคงความอมตะตลอดกาลผู้นี้มองหน้าเขาทีหนึ่ง

ทุกคนต่างรู้สึกร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดของระดับบรรพบุรุษผู้นี้แล้ว

“ถ้าหากหลี่ชิเย่ห้าคนมีกำลังความสามารถเหมือนหลี่ชิเย่ตัวจริงทุกอย่าง เช่น เช่น เช่นนั้นแล้วหลี่ชิเย่ตัวจริงมิเท่ากับสู้ไม่ได้” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมา

“น่าสนุก” หลี่ชิเย่มองดูหลี่ชิเย่ห้าคนที่อยู่ตรงหน้า อดที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมา และกล่าวขึ้นมาช้า ว่า “สามารถคัดลอกสัจธรรมผู้อื่นได้เหมือนจริงขนาดนี้นับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง เคล็ดวิชาลักษณะเช่นนี้นับได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาแขนงหนึ่ง”

เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วหยุดนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “แต่ไม่รู่สิว่าสามารถลอกเลียนได้สมบูรณ์โดยสิ้นเชิงหรือไม่” ขาดคำก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง

“ลงมือเถอะ” หลี่ชิเย่คนนั้นที่ปรากฏประกายสีทองแวบวับก็ยิ้มนิดหนึ่ง

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเสียง หรือน้ำเสียง และหรือท่าทางที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่ เหมือนกับหลี่ชิเย่อย่างกับแกะ ทำให้ผู้คนไม่สามารถแยกแยะได้อย่างสิ้นเชิงว่าเขาคือหลี่ชิเย่ตัวปลอม

ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่คนนี้เปิดปาก ทุกคนพลันมองไปที่หลี่ชิเย่ตัวจริง เนื่องจากเหมือนมากจนทำให้ผู้คนไม่สามารถแยกแยะได้แล้ว

“ดี…” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “เหมือนจริงๆ ถ้าเช่นนั้นก็ลองดูสักหน่อยก็แล้วกัน สามารถคัดลอกสัจธรรมของข้าไปถึงขั้นไหน”

……………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล