ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3115

ตอนที่ 3115 แดนสุขสมอภิรมย์

เสียงขลุ่ยดังขึ้น ผู้คนนับพันนับหมื่นพลันล้มลง ท่ามกลางเสียงขลุ่ยนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ล้วนปราศจากกำลังที่จะต่อต้าน ล้วนไม่สามารถต่อต้านกับเสียงขลุ่ยเช่นนี้อยู่แล้ว

ขอเพียงเข้าใกล้เสียงขลุ่ยก็จะล้มลงโดยพลัน ไม่ว่าสามารถจะได้ยินหรือไม่ ต่อให้มีการอุดหูเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นคนหูหนวกก็หนีเสียงขลุ่ยนี้ไม่พ้น

ตอนที่เสียงขลุ่ยนี้ดังขึ้นมานั้น มันไม่ได้ดังขึ้นที่ข้างหู มันไม่ได้ถูกส่งเข้าไปภายในหู มันดังขึ้นภายในใจ ดังขึ้นที่ทะเลแห่งความรู้

ขณะที่เสียงขลุ่ยเช่นนี้ดังขึ้นมานั้น มันจะดังก้องอยู่ภายในใจของเจ้า ดังนั้น เสียงขลุ่ยลักษณะเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องไปได้ยินมันแล้ว มันไม่ได้เป็นเสียงที่เผยแพร่มาจากการส่งผ่านของเสียง มันดังก้องอยู่ในจิตใจ ดังนั้น คนหูหนวกก็สามารถได้ยินเสียงขลุ่ยเสียงนี้ได้เช่นกัน

เสียงขลุ่ยมีเสียงสูงต่ำสลับกัน ขณะที่ได้ยินเสียงขลุ่ยนั้น ภายในใจพลันรู้สึกนุ่มนวลขึ้นมาทันที ในพริบตาเดียวนั่นเองเหมือนมีบางสิ่งไปสัมผัสกับความนุ่มนวลที่อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดภายในใจของเจ้า เหมือนว่ามีบางสิ่งที่เข้าไปพลิกฟื้นให้หวนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีตที่งดงามที่สุดในชีวิตให้เปิดออกมาอย่างนั้น

แม้ว่าหัวใจดวงนั้นของเจ้าจะแข็งแกร่งดังหินเหล็กไปแล้ว แม้ว่าหัวใจดวงนั้นได้ถูกเปลือกนอกที่แข็งแกร่งแต่ละชั้นห่อหุ้มเป็นชั้นๆ เอาไว้แล้ว แม้ว่าจะทำการผนึกความทรงจำทั้งหมดเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดภายในใจเอาไว้นานแล้ว ให้มันฝังอยู่ตรงนั้นตลอดไปโดยไม่มีวันได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก

แต่ทว่า ท่ามกลางเสียงขลุ่ยนาทีนี้ มันยังคงสัมผัสถึงบริเวณที่อุ่นนุ่มที่สุดภายในจิตใจจนได้ มันยังคงพลิกขึ้นมาให้หวนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีตที่งดงามที่สุด

ต่อให้เป็นมารร้ายที่ชั่วร้ายไม่อาจให้อภัยได้ ต่อให้เป็นคนฆ่าสัตว์ที่เลือดทระนงไร้ความปราณี แต่ว่า ก็ต้องเคยมีแวบหนึ่ง และหรือการรำลึกถึงเรื่องราวที่งดงามที่สุดเรื่องหนึ่ง ท่ามกลางส่วนที่ลึกที่สุดภายในใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็ก ก็เคยมีแดนสุขสมอภิรมย์อยู่แวบหนึ่งเหมือนกัน

มันช่างงดงามอะไรอย่างนั้น ช่างล้ำค่าอะไรอย่างนั้น ช่างคู่ควรให้หวนคนึงถึงอะไรอย่างนั้นในชั่วพริบตาเดียวนั่นแหละ

บางทีในชั่วพริบตาเดียวนี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในชีวิตของเจ้า และหรือเป็นนาทีที่เจิดจรัสที่สุดในชีวิต และหรือเป็นชั่วพริบตาเดียวที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตของเจ้า

นี่แหละคือพริบตาเดียวที่คู่ควรให้หวนคะนึง คู่ควรให้ไปครอบครองมันตลอดไป ที่ตรงนั้นมันช่างแดนสุขสมอภิรมย์ ช่างอบอุ่นอะไรอย่างนั้น ทำให้อยากจะกอดเอาไว้แน่น ทำให้ยินดีจมปลักอยู่ในนั้นตลอดไป ไม่ขอฟื้นตื่นขึ้นมาอีก

นี่ก็คือเสียงขลุ่ย มันทำให้เจ้าได้กลับไปยังช่วงเวลาแวบเดียวที่งดงามที่สุดในชีวิต นี่แหละคือช่วงที่เป็นจุดสูงสุดในชีวิต เป็นนาทีที่ล้ำค่ามากที่สุด

ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยที่ออกห่างจากเสียงขลุ่ยนี้แล้วต่างฟังรู้ถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของเสียงขลุ่ยนี้ได้แล้ว เสียงขลุ่ยลักษณะเช่นนี้เป็นการทำให้เจ้าจมปลักในพริบตาเดียว ทำให้ยินดีที่จะหยุดอยู่ในช่วงแวบเดียวที่ดีที่สุดของชีวิตในพริบตาเดียว

สิ่งนี้ก็คือสาเหตุที่ว่าเพราะอะไรผู้คนจำนวนนับพันนับหมื่นที่ล้มลงและไม่ตื่นขึ้นมาอีกในทันที เหมือนหลับลึกอย่างนั้น เนื่องจากพวกเขาต่างจมปลักอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของชีวิตตนในพริบตาเดียว ไม่สามารถฟื้นตื่นขึ้นมาอีกแล้ว

“นี่ นี่เป็นวิชาอะไร!” ยังคงมีผู้คนจำนวนมากไม่สามารถรองรับได้เมื่อได้ยินเสียงขลุ่ยนี้อย่างเลือนราง แม้จะอยู่ห่างไกลมากแล้ว ร่างกายโอนเอนไปมาเหมือนกำลังจะล้มลง ส่งผลให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

ไม่ว่าใครที่ได้ยินเสียงขลุ่ยนี้ล้วนสามารถฟังออกได้ว่า เสียงขลุ่ยดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะของความชั่วร้าย มันคือช่วงเวลาที่งดงาม ดังนั้น ไม่ว่าใครก็เข้าใจได้ว่า สิ่งนี้หาใช่วิถีของมารชั่วร้าย ยิ่งไม่ใช่ลัทธินอกรีตอะไร มันคือวิธีการที่สง่างามเปิดเผย

“สี่ไป๋ฮุยเป็นผู้คิดค้น ไม่ทราบเป็นวิชาใด” ทุกคนนึกถึงคำพูดของจักรพรรดิซีหวงแล้วถึงกับพึมพำขึ้น

สี่ไป๋ฮุยเป็นปฐมบรรพบุรุษของสี่ซี ถูกเจียวเหิงนำไปขายให้กับมารร้าย แต่ว่า กลับสามารถคิดค้นสร้างวิชาที่หนึ่งไม่มีสองนี้ขึ้นมาได้ ภายใต้การช่วยเหลือของเจียวเหิง แต่ว่า สี่ไป๋ฮุยกลับไม่ไปฝึกมัน และไม่เคยมีคนของสี่ซีที่ฝึกได้สำเร็จ แต่ว่า จักรพรรดิซีหวงกลับสามารถฝึกได้สำเร็จ

เพียงแค่เสียงขลุ่ยเท่านั้นก็สามารถทำให้ล้มลงและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก วิชาเช่นนี้ช่างสยองขวัญเพียงใด นี่แหละคือการฆ่าคนที่ไร้ร่องรอยอย่างแท้จริง เอาชนะผู้อื่นโดยไร้ซึ่งกระบวนท่า

แต่ว่า สี่ไป๋ฮุยคิดค้นสร้างวิชานี้ขึ้นมาแล้วไม่เคยปรากฏบนโลก ดังนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ทราบว่าวิชานี้มีชื่อว่าอะไร

‘แดนสุขสมอภิรมย์’ บรรพบุรุษระดับอมตะที่แก่หง่อมผู้หนึ่งเคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งกับสี่ซีมาก่อน รู้ว่าวิชานี้มีชื่อว่าอะไร ทอดถอนใจเบาๆ และกล่าวว่า “วิชานี้มีชื่อว่าแดนสุขสมอภิรมย์”

‘แดนสุขสมอภิรมย์’ ผู้คนจำนวนมากต่างกระซิบชื่อนี้เบาๆ และไตร่ตรอง ดูเหมือนจะไม่มีชื่ออื่นใดที่เหมาะสมมากกว่านี้อีกแล้ว

เสียงขลุ่ยของจักรพรรดิซีหวงไม่ได้มุ่งไปยังคนอื่น นั่นเป็นเพียงเสียงขลุ่ยที่ลอยมาเท่านั้น ก็ทำให้ผู้คนนับพันนับหมื่นต้องล้มลงแล้ว

ภายใต้เสียงขลุ่ยนี้ ย่อมสามารถจินตนาการถึงผลได้แล้วสำหรับผู้ที่เป็นเป้าหมายของจักรพรรดิซีหวง

ในเวลานี้เสียงขลุ่ยที่ดังและเบาสลับกันไป มองเห็นหลี่ชิเย่ที่เซนิดหนึ่ง เหมือนว่าจะยืนได้ไม่มั่นคง มีอาการเซไปเซมา

ณ ที่ที่ห่างไกล ระดับผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกตกใจยิ่งนัก เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่เซนิดหนึ่ง ร้องด้วยความตระหนกว่า “ดูนั่น หลี่ชิเย่ถูกเสียงขลุ่ยทำให้หลงใหลแล้ว”

เมื่อทุกคนมองออกไป ในเวลานี้ร่างกายของหลี่ชิเย่ยืนเซขึ้นมาเหมือนเมาสุราอย่างนั้น ค่อยๆ ใหลหลงไปกับเสียงขลุ่ยที่อ่อนละมุนยิ่ง

ผู้คนจำนวนไม่น้อยกล่าวด้วยความตระหนกว่า “เกรงว่าคนโหดอันดับหนึ่งก็ต้านเอาไว้ไม่ไหวกระมัง” เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่เดินเซ การก้าวเท้าสะแปะสะปะ

สมควรทราบว่า คนโหดอันดับหนึ่งนั้นมีกำลังความสามารถอยู่ในชั้นปฐมบรรพบุรุษเลยนะ แต่ว่า ยังคงต้องหลงใหลอยู่ท่ามกลางเสียงขลุ่ยเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล