ท่ามกลางการโหมโจมตีอย่างดุดันของหลวงจีนมาร ตอนนี้พลังชีวิตของเขาถูกเผาผลาญไปจนเหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว อายุขัยของเขาก็หมดลงเรื่อยๆ
ในเวลาที่จิตใจเริ่มรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ในหยกสื่อสารก็มีเสียงของเหยี่ยนฮ่าวดังขึ้น
“ ไต้ซือข้ามีวิธีจัดการจอมมารเจี่ยสือ…แต่ท่านต้องส่งกล่องหยกอันนั้นมาให้ข้า!”
หลวงจีนมารรีบถอดแหวนมิติ ปาเข้าใส่มือของเหยี่ยนฮ่าวด้วยความรวดเร็ว
“ หากมีสิ่งใดในแหวน ที่ประสกใช้การได้ก็จัดการเลย” เสียงของหลวงจีนมารดังกลับมาทางป้ายหยกสื่อสาร ท่านได้มอบทุกอย่างไว้ในมือเหยี่ยนฮ่าวแล้ว
เพราะในสถานการณ์ตอนนี้หากพ่ายแพ้ตกตาย ของทั้งหมดของท่านก็ถูก ศัตรูช่วงชิงไปอยู่ดี
หลังจากที่ได้รับแหวนมิติมา เหยี่ยนฮ่าวก็รีบนำกล่องหยกออกมา โดยไม่สนใจของอย่างอื่นในแหวน
หลังจากที่นำนิ้วมืออันนั้นมาถือไว้ เขาก็ส่งสัญญาณให้ เหยาจิงเอ๋อนำตัวเขาเข้าไปตรงจุดที่ใกล้กับโลงศพโบราณที่สุด จากนั้นก็เริ่มควบคุมพลังมารทันที
วูป !
เส้นพลังงานที่เชื่อมต่อกับจอมมารทั้งสองเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง มันได้ถูกดึงดูดมาทางนิ้วมือที่เหยี่ยนฮ่าวถืออยู่
!!!
สีหน้าของเจี่ยสือเปลี่ยนเป็นตกใจทันที เขามองไปที่เหยี่ยนฮ่าวด้วยแววตาแห่งความโลภอย่างปิดไม่มิด เขาต้องการจะช่วงชิงของสิ่งนั้น
“ ไต้ซืออย่าให้พวกมันเข้าใกล้ข้า” เหยี่ยนฮ่าวตระโกนออกมาเสียงดัง ตอนนี้เขาต้องใช้สมาธิควบคุมพลังงานนั้นอย่างมาก
ฮ่า ฮา ฮ่า
“ เหตุใดเจ้าจึงหน้าเปลี่ยนสีเจี่ยสือ…อาตมาจะไม่ปล่อยให้เจ้าเข้าใกล้ประสกเหยี่ยนแน่นอน ” หลวงจีนมารถอยมาปกป้องเหยี่ยนฮ่าว ด้วยการสะกดข่มเจี่ยสือเอาไว้
ซึ่งตอนนี้ หากมีผู้ตั้งใจสังเกตดีๆ ต่อให้ไม่รู้ว่าเหยี่ยนฮ่าวทำอะไรลงไป แต่ผลของมันที่แสดงออกมานั้นชัดเจนมาก พลังฟื้นฟูของจอมมารทั้งสองนั้นหายไป หลวงจีนชราและพรตวัยกลางคนจึงทำตามหลวงจีนมาร คือตั้งใจพวกพันราชันผีดิบไว้ไม่ให้เข้าใกล้เหยี่ยนฮ่าวได้
ส่วนทางเหยี่ยนฮ่าวตอนนี้ กำลังควบคุมพลังงานมหาศาลไหลผ่านร่างกายตนเอง เขาคงไม่กล้าทำเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้ปีศาจสีเลือดเหยาจิงเอ๋อได้เขาสิงอยู่ในร่างกายของเขา แล้วช่วยดูดซับพลังส่วนใหญ่ไป
เนื่องจากนางมีส่วนหนึ่งของเศษเสี้ยวดวงวิญญาณเขา จึงสามรถใช้วิธีนี้โดยที่จิตวิญญาณเขาไม่มีการต่อต้าน
ครืน ครืน
พลังงานเหล่านั้นได้ถูกเหยี่ยนฮ่าวชักนำไปขัดเกลาร่างกาย ทำให้ขอบเขตฝึกตนเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักรบระดับ เจ็ด…
นักรบระดับ แปด..
นักรบระดับ เก้า..
จนกระทั่งเขาได้ขึ้นไปสู่นักรบระดับเก้าขั้นสูงสุด พลังงานส่วนที่เหลือทั้งหมดจึงถูกดูดซึมโดยเหยาจิงเอ๋อ จนตอนนี้พลังของนางได้อยู่ในขอบเขตเดียวกันราชันปีศาจเลือดแล้ว ซึ่งเทียบเท่ากับระดับขอบเขตปราณทิพย์เลยทีเดียว
โฮกกก!
เสียงคำรามด้วยความกราดเกรี้ยวดังขึ้นจากภายในโลงศพ เส้นพลังงานที่ถูกเหยี่ยนฮ่าวควบคุมไว้ก็ได้ถูกตัดขาดทันที
สถานการณ์ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง จอมมารทั้งสองได้หันกลับมาร่วมมือกันเพื่อหาทางหลบหนี
แต่ทันใดนั้น…
“ สหายได้โปรดช่วยศิษย์พี่ข้าด้วย ” “ พี่ชาย ช่วยพี่หญิงด้วย”
เสียงของชายหนุ่มและเด็กหญิง ดังแทรกขึ้นมาในความคิดเหยี่ยนฮ่าวจนเขาตกใจ แต่เพียงครู่เดียวก็จดจำได้ ว่าเป็นเสียงของคนที่เคยยื่นมือช่วยชีวิตตนจากหยางเจี้ยน
เขาจึงรีบหันมองไปทิศทางหนึ่งที่เจ้าของเสียงบอกทันที
กรี้ดดด
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาวดังขึ้นจากทิศทางนั้น ไป่ซือเหยาตอนนี้นางได้ถูกผู้อาวุโสพรรคมารลอบทำร้าย จนกระเด็นออกไปนอกกลุ่มของตระกูลผู้พิทักษ์
นางมีหยดเลือดสีแดงไหลซึมออกมาจากชุดสีขาวเป็นวงกว้าง
คนอื่นๆในตระกูลก็ถูกพวกพรรคมารฉุดรั้งเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน สายตาวิตกกังวลของเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลมองไปที่นางด้วยความเป็นห่วง
แน่นอนว่าเสียงขอความช่วยเหลือที่เหยี่ยนฮ่าวได้ยิน เหยาจิงเอ๋อเองก็ได้ยินเช่นกัน เพราะตอนนี้ทั้งสองนั้นเชี่ยมโยงจิตวิญญาณกันอยู่ แต่นางก็เพียงมองดูเหตุการณ์เหล่านั้นด้วยสายตาเย็นชา
เพราะนางยังจำได้ ถึงสิ่งที่ตระกูลผู้พิทักษ์นั้นทำกับตัวนาง ไม่เพียงไม่ช่วยเหลือนาง ยังมองร่างกายของนางเป็นเพียงแค่แหล่งพลังงานให้ค่ายกลอีกด้วย ทำให้นางต้องทนทรมานมากว่าสิบห้าปี หากไม่ใช่ว่าท่านลุงของนางได้เสี่ยงตายเข้าไปช่วยเหลือ ดวงวิญญาณของนางคงดับสูญไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอสูรสงครามสะท้านภพ