ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในความมืดมิดที่เย็นยะเยือก มันกัดกินและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเขาอย่างช้าๆ ความรู้สึกทุกอย่างเหมือนค่อยๆจะขาดหายไป
“ นี่ข้ากำลังจะตายแล้วสินะ ”
“ หากในอีกสิบสามปีโลกจะถูกทำลายจริงๆ มันก็คงไม่เกี่ยวข้องกับข้าแล้วใช่ไหม ”
“ ผู้กอบกู้อะไรกัน รับมอบหน้าที่มาไม่ทันพ้นวันก็จะตายเสียแล้ว ”
“ ช่างเถอะ…”
ความคิดของเขาเริ่มช้าลง สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดกำลังจะหลุดออกไป
…
พลังงานอันอบอุ่นสายหนึ่ง ได้เข้ามาปกป้องดวงวิญญาณของเขาเอาไว้ไม่ให้สลายไป มันค่อยๆฟื้นฟูจิตวิญญาณเขาอย่างช้าๆ
ความรู้สึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำมันสูญหายไปนาน เวลานี้มันกลับคืนมาสู่ตัวเขาอีกครั้ง และกำลังหลอมรวมเข้ากับดวงวิญญาณของเขาอย่างช้าๆ
“ ความรู้สึกนี้มันช่างสบายจริงๆ”
นี่เป็นความคิดสุดท้ายก่อนที่สติเขาจะดับไป
ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง
ตอนนี้เป็นเวลาสามวันแล้ว นับตั้งแต่จบการต่อสู้กับจอมมารทั้งสอง หลวงจีนมารฝาเซี่ยงได้นำเหยี่ยนฮ่าวกลับมาพักฟื้นในถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่หลบซ่อนของท่านเอง
“ ประสกตื่นแล้วสินะ” หลวงจีนมารมองไปยังเหยี่ยนฮ่าวที่ลืมตาขึ้น
“ มันเกิดอะไรขึ้น…นี่ข้ายังไม่ตายเหรอ ” เหยี่ยนฮ่าวถามขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง
“ ประสกดื่มยาบำรุงถ้วยนี้ก่อน อาตมาจะเล่าให้ฟัง ” ท่านได้ส่งถ้วยยาให้เหยี่ยนฮ่าวดื่มลงไป มันถูกสกัดมาจากสัตว์อสูรระดับสูง เพียงไม่นานร่างกายเหยี่ยนฮ่าวก็ฟื้นตัวเต็มที่ หลวงจีนมารจึงเล่าเรื่องหลังจากที่เหยี่ยนฮ่าวสิ้นสติไปให้ฟัง
ในตอนนั้นหลังจากที่จอมมารเจี่ยสือเห็นราชันผีดิบโดนจัดการไป ก็เริ่มคลุ้มคลั่งเพราะไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
ด้วยความแค้นในตัวเหยี่ยนฮ่าวที่เป็นต้นเหตุให้พวกมันพ่ายแพ้ จึงได้ยอมรับการโจมตีของหลวงจีนมารโดยไม่ป้องกัน เพื่อที่จะลากเอาตัวเหยี่ยนฮ่าวตายตามไปด้วย
หลังจากที่เหยี่ยนฮ่าวล้มลง หลวงจีนมารกับหลานสาวก็รีบนำตัวตัวเหยี่ยนฮ่าวหลบออกมาทันที โดยไม่สนใจคำทัดทานจากคนในตระกูลผู้พิทักษ์ ที่ต้องการจะช่วยเหลือ
“ ประสกคงจะแปลกใจใช่ไหม ว่าเหตุใดอาตมาจึงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากตระกูลผู้พิทักษ์ ”
“ นั่นเพราะไม่ใช่ตระกูลผู้พิทักษ์ทุกคนหรอกนะ ที่จะเป็นคนดีเสียสละเพื่อส่วนรวม หากรอจนพวกพรรคมารที่เหลือถูกกวาดล้างจนหมด พวกเราก็คงออกมาไม่ได้แล้ว ”
“ ทั้งตัวอาตมาและหลานสาวก็ไม่ถือว่าเป็นมนุษย์อีกต่อไป แม้แต่ตัวประสกเองที่สามารถควบคุมพลังมารนอกพิภพได้ ก็อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ที่แย่ที่สุดอาจจะกลายเป็นเช่นเดียวกับหลานสาวอาตมา ”
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลวงจีนมารพูด เหยี่ยนฮ่าวก็รู้สึกสั่นสะท้านในใจ เพราะเขาก็รู้ถึงสิ่งที่ตระกูลผู้พิทักษ์ทำกับเหยาจิงเอ๋อดี แล้วนี่ในอนาคตเขาจะโดนตามล่าหรือไม่
เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเหยี่ยนฮ่าว หลวงจีนมารจึงพูดต่อ
“ ประสกก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป ผู้ที่รู้ความลับของประสกนั้นมีแต่คนที่ไว้ใจได้ พวกเขาคงไม่เปิดเผยออกมาง่ายๆ ส่วนพวกที่เป็นปัญหาจริงๆยังคงอยู่ด้านนอกโบราณสถาน นี่เป็นเหตุผลที่อาตมารีบหลบออกมา ”
“ ต้องขอบคุณไต้ซือมากแล้ว ” เหยี่ยนฮ่าวรีบกล่าวขอบคุณ “ จริงสิ…แล้วหลานสาวท่านเป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดข้าไม่เห็นนาง ”
“ นี่ก็เป็นสิ่งที่อาตมากำลังจะบอกให้ประสกฟังอยู่พอดี ตอนนี้หลานสาวอาตมากำลังหลับอยู่ในตัวประสก ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกคืออยู่ในเงามากกว่า ”
“ ประสกสงสัยใช่ไหมว่าตัวเองรอดมาได้อย่างไร นั่นก็เพราะหลานสาวอาตมาทำได้พันธสัญญาชีวิตและความตาย เพื่อช่วยชีวิตประสก ”
“ นางใช้การประสานดวงวิญญาณเข้าด้วยกัน แล้วรับเอาความเสียหายส่วนใหญ่ที่ประสกได้รับไป ซึ่งวิธีเช่นนี้แม้แต่อาตมาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน นางบอกเพียงว่าได้มันมาจากความทรงจำในเศษชิ้นหยก ที่อาตมาใช้หลอมรวมสร้างนางให้เป็นปีศาจสีเลือด ”
“ นั่นมัน…หรือว่าตอนนี้ดวงวิญญาณของข้า ” เหยี่ยนฮ่าวพูดขึ้นมาอย่างลืมตัว เขานึกไปถึงความรู้สึกที่ได้บางสิ่งที่เป็นของเขากลับคืนมา ความรู้สึกนั้นแท้จริงแล้วมันคือเศษชิ้นส่วนดวงวิญญาณของเขาเอง
“ แล้วตอนนี้อาการนางเป็นเช่นไรบ้าง ” เหยี่ยนฮ่าวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
หลวงจีนมารมีรอยยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
“ นางสบายดี…เพียงแต่อาจจะต้องหลับใหลอยู่ในเงาของประสกเพื่อฟื้นคืนพลัง จะว่าไปเหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะถือเป็นประโยชน์กับนางมหาศาล ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอสูรสงครามสะท้านภพ