หน้าประตูเมืองธาราไหล
เวลาห้าวันได้ผ่านไป หลังจากที่เหยี่ยนฮ่าวออกจากถ้ำของหลวงจีนมาร ตอนนี้เขาเหมือนกลายเป็นคนใหม่
ระดับพลังตอนนี้ของเขาคือจุดสูงสุดของรวมลมปราณแล้ว แต่ด้วยเคล็ดวิชาเก็บซ่อนพลัง ทำให้คนอื่นเห็นระดับพลังเขาอยู่ที่ขั้นนักสู้ระดับเก้าเท่านั้น
ลูกปัดวิญญาณแค้นถูกใช้จนหมด กายาเทพอสูรขั้นหลอมผิวหนังของเขาอยู่ที่ระดับสามทั้งตัว ต่อให้มีคนใช้อาวุธเวทระดับต่ำกว่าขั้นสี่ ฟันใส่เขาเต็มแรง ก็เพียงแค่ทิ้งลอยถลอกไว้เล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับเคล็ดวิชาจิตอาชูร่านั้น จากที่เขาทดลองดูคงต้องใช้ดวงวิญญาณระดับสูงกว่าพวกวิญญาณแค้น จึงจะฝึกขั้นต่อไปได้
“ เมืองนี้อยู่ในชายแดนแคว้นฉู่ ข้าควรไปสอบถามข่าวเกี่ยวกับสงครามเสียก่อน” เวลานี้ตัวเขาควรจะกลับไปรวมตัวกับกองทัพเสียก่อน
มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นทหารหนีทัพได้ อีกทั้งเขาต้องการเจอคนที่มันแทงดาบใส่หัวใจเขาด้วย
หลังจากผ่านเข้าเมืองมาได้เหยี่ยนฮ่าวได้ตรงไปที่อาคารข่าวสารทันที
“ ข่าวเกี่ยวกับสงครามงั้นเหรอ ” พนักงานพูดออกมาด้วยท่าทีแปลกๆ
“ ใช่แล้วพี่ชาย…ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้กองทัพของเราอยู่ที่เมืองไหน” เหยียนฮ่าวถามด้วยความสนใจ เหตุใดต้องมองเขาแปลกๆด้วย
“ นี่เจ้าไม่รู้เหรอ สงครามจบไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว แคว้นจ้าวส่งสารขอสงบศึกมา พร้อมกับถอยทัพกลับไปแล้ว ” พนังงานอธิบายให้เหยี่ยนฮ่าวฟัง
เขามองไปที่ชุดทหารของเหยี่ยนฮ่าวแบบงงๆ ที่จริงเรื่องนี้พวกทหารต้องรู้ข่าวก่อนคนอื่นไม่ใช่หรือ
หลังจากที่เสียเงินไปเล็กน้อย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมบางอย่าง ทำให้ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้กองทหารได้สลายตัวไปแล้ว
กองกำลังของตระกูลเขาก็กลับตระกูลไปแล้วเช่นกัน…
เหยี่ยนฮ่าวจึงคิดที่จะติดต่อกลับไปยังตระกูล แต่เขายังหวั่นเกรงจะทำให้พวกที่มันลอบสังหารเขารู้ตัวหนีไปเสียก่อน เขาไม่เชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังด้านนี้จะไม่วางคนไว้ที่จุดสื่อสารของตระกูล
ดีที่ท่านแม่ของเขาเป็นคนรอบคอบ ได้ให้วิธีการติดต่อสำรองไว้กับเขา ซึ่งเขาก็ได้ทิ้งรหัสลับไว้ที่จุดรับส่งข่าวสารของเมืองนี้แล้ว รอซักสองสามวันคงมีคนติดต่อกลับมา
ผ่านไปหนึ่งวัน
เหยี่ยนฮ่าวกำลังนั่งฝึกวิชา อยู่ในห้องที่เขาได้เข้าพักตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้พลังปราณของเขาพร้อมที่จะทะลวงไปถึงขั้นปราณปฐพีได้ทุกเมื่อ
แต่เขากดมันเอาไว้ เพื่อให้พื้นฐานแข็งแกร่งกว่านี้ เพราะช่วงหลังมานี้พลังเขาเติบโตเร็วเกินไป มันจะเกิดผลเสียในภายหลังได้
ตั้งแต่ที่กินยาเม็ดนั้นเข้าไป ตอนนี้เส้นลมปราณทั่วร่างเป็นเส้นลมปราณจักรพรรดิ ซึ่งมันแข็งแกร่งพอให้เขาฝึกฝนปราณเทพอสูรโลกันต์
มันเป็นวิชาที่เขาได้มาจากความทรงจำหลังประตูหยก
วิชาปราณชนิดนี้ เมื่อเข้าสู่ขั้นปราณปฐพี จะต้องใช้ผลึกธาตุอัคคีจำนวนมากในการเปลี่ยนแปลงปราณของตัวเราให้มีผลของธาตุอัคคี
ก๊อกๆ
จิตวิญญาณของเหยี่ยนฮ่าว แผ่ออกไปนอกห้องสำรวจดูผู้ที่อยู่ด้านนอกทันที
“ เข้ามาได้ ” เมื่อเห็นว่าเป็นคนของโรงเตี้ยม เขาจึงอนุญาตให้เข้ามา
“ เรียนนายท่าน มีผู้นำจดหมายมาฝากไว้ให้ท่าน ” เสี่ยวเอ้อได้ถือจดหมายเข้ามามอบให้
“ วางไว้บนโต๊ะ” เขาส่งเงินให้สองตำลึงเป็นค่าธรรมเนียม แล้วสั่งให้เสี่ยวเอ้อคนนั้นออกไป ถ้าไม่มีเรื่องด่วนไม่ต้องมารบกวน
“ หืม…นี่มันลายมือท่านแม่ ” เมื่อได้อ่านข้อความในจดหมาย แววตาของเหยี่ยนฮ่าวก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
เนื้อหาในจดหมายนั้น บอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตอนที่เหยี่ยนฮ่าวไปเข้าร่วมกองทัพ
ในตอนนี้ตระกูลเหยี่ยนไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว เมื่อสามวันก่อน ท่านพ่อของเขาพึ่งโดนลอบสังหารที่หน้าจวนแม่ทัพ
แต่เพราะการพลีชีพขององครักษ์ส่วนตัวทั้งสิบคน พ่อของเขาจึงหนีรอดออกมาได้พร้อมบาดแผลเต็มตัว จนตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่
หลังจากที่สงครามจบลง ก็ได้มีคนปล่อยข่าวว่า เห็นเหยี่ยนฮ่าวถูกนักฆ่าที่แฝงตัวอยู่ในกองกำลังของตระกูลเหยี่ยนฆ่าตาย
มันได้สร้างความโกรธเกรี้ยวให้พ่อกับแม่เขาเป็นอันมาก จนแทบจะสอบสวนกองกำลังทุกคนในตระกูล
ทั้งเรื่องลอบสังหารพ่อของเหยี่ยนฮ่าว กับการที่มีนักฆ่าแฝงตัวอยู่ในตระกูล ท่านแม่จึงไม่ต้องการให้ตัวเขากลับมาในตอนนี้
เพราะท่านแม่คิดว่าในตระกูลตอนนี้มีคนทรยศ ทั้งยังเป็นถึงบุคคลคนระดับผู้อาวุโส ที่มีอำนาจในตระกูลอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอสูรสงครามสะท้านภพ