บทที่ 121 ข้ามเขต (5)
หลังจากแยกจากอวิ๋นเป้ามา ซูเฉินก็ไม่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมอีกเลย กลับกันสัตว์อสูรที่โผล่มาระหว่างการเดินทางทำให้เขารำคาญอยู่พักใหญ่
สัตว์อสูรในสนามสอบพวกนี้คือคะแนนพิเศษ มันคือปัจจัยที่ไม่คาดคิดที่ผู้คุมการสอบได้รวมพวกมันเอาไว้เป็นพิเศษ ไม่ถูกชักจูงด้วยคำพูดหรือการล่อลวง พวกมันไม่ได้จัดตั้งกลุ่มและไม่ได้สนใจประเมินสถานการณ์ ในบางครั้งที่คน 2 คนกำลังจะต่อสู้ หลังจากนั้นสัตว์อสูรจะกระโดดออกมากัด 1 ในนั้น ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปทันที
ด้วยเหตุนี้ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจึงมีความเป็นไปได้เช่นกัน
บางคนก็รู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรม?
ใช่ มันไม่ยุติธรรม!
แต่นี่แหละคือสังคม นี่คือความจริง!
ย่อมมีหลายสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเสมอ เฉกเช่นเดียวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมายที่อาจเกิดขึ้นได้
หากไม่สามารถเอาชนะมันได้ เจ้าก็ทำได้เพียงยอมพ่ายแพ้ต่อมันเท่านั้น
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่สถาบันมังกรซ่อนเร้นต้องการสื่อให้ทุกคนได้รับรู้
อย่างไรก็ตามครั้งนี้ซูเฉินไม่ได้โชคร้ายนัก เขาสามารถแก้ไขการต่อสู้ได้อย่างราบรื่นพอสมควร
ซูเฉินทำได้เพียงจ้องมองไปที่จุดแสงพลังต้นกำเนิดที่ปรากฏขึ้น ทว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะดูดซับมัน เด็กหนึ่มรู้ดีว่ามีจอแสงถ่ายทอดสดของการสอบอยู่ แม้ว่าหน้าจอแสงจะมีเพียงจอเดียวและมีผู้สมัครมากถึง 10,000 คน จนทำให้ไม่อาจจับภาพที่ตัวเขาตลอดเวลาก็ตาม หากแต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่
ซูเฉินจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นว่าเขาบังเอิญสัมผัสเข้ากับมันและดูดซับบางจุดเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ หากแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวให้ชัดเจนเกินไป
หลังจากจุดแสงพลังต้นกำเนิดหายไป ซูเฉินก็เดินหน้าต่อไป
ในขณะที่เดินหน้าต่อไปเขาพบอุปสรรคน้อยลงเรื่อย ๆ
เนื่องจากความผันผวนของป้ายหยกบนร่างกายของซูเฉินทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคะแนนของเขาเพิ่มมากขึ้น
สิ่งนี้ทำให้ผู้สมัครที่อ่อนแอไม่กล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า แต่มันก็ดึงดูดความสนใจของผู้สมัครที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
“ในที่สุดข้าก็ได้เจอคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมแล้วสินะ?” น้ำเสียงที่ฟังดูน่ากลัวมาจากด้านหน้า
เป็นชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีดำอย่างมิดชิดปกคลุมทั่วร่างกายของเขา ทำให้ยากที่จะมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเยือกเย็นอย่างยิ่ง
น้ำเสียงของเขาฟังดูเต็มไปด้วยความอยุติธรรมและความที่เย็นชาอย่างสุดจะพรรณนา ทำให้ผู้ที่ได้ยินขนลุกขนพองกันถ้วนหน้า
ซูเฉินรู้สึกถึงความผันผวนอย่างรุนแรงของป้ายหยกจากฝ่ายตรงข้าม เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะตื่นเต้นมากนะ?”
“แน่นอน พวกขยะเหล่านั้นช่างไร้ประโยชน์ การต่อสู้กับพวกมันเป็นเรื่องน่าเบื่อเกินไป” ชายชุดดำหัวเราะเสียงดัง “ดังนั้นข้าจึงได้ตั้งหน้าตั้งตารอคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม เจ้าดูแข็งแกร่งและควรค่าแก่การลงแรงประมือด้วย”
ซูเฉินพูดไม่ออก
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจำเป็นจะต้องแสร้ง ทำทีว่าข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญผู้โดดเดี่ยวหรอกนะ หากเจ้ารู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างเบื่อและหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมไม่เจอ เจ้าสามารถไปตามหาผู้เชี่ยวชาญด่านกลั่นโลหิตได้ หากยังไม่เพียงพอ ถ้างั้นเจ้าก็ลองไปหาผู้เชี่ยวชาญด่านทะลวงลมปราณดู โลกใบนี้มันกว้างใหญ่และมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ตั้งมากมาย เชื่อข้า ต้องมีใครสักคนสามารถสอนเจ้าได้ว่าการเป็นคนนั้นมีความหมายอย่างไร”
ชายชุดดำรู้สึกราวกับถูกบีบคอจนพูดไม่ออก
ท่าทางผู้เชี่ยวชาญผู้โดดเดี่ยวของชายชุดดำและทัศนคติที่ราวกับว่า ‘ไม่มีใครเทียบข้าได้’ ได้รับการเปรียบเปรยโดยซูเฉินว่าเป็นดั่งกบในบ่อน้ำ
ใช่ เขาเป็นเพียงมือใหม่ที่พึ่งเข้าสู่ด่านก่อเกิดลมปราณ แม้จะเป็นด่านก่อเกิดลมปราณ แต่ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง เขาก็ยังคงเป็นแค่ไก่อ่อนอยู่ดี
มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเสแสร้ง?
อย่างไรก็ตามสำหรับชายชุดดำคำพูดของซูเฉินนั้นถือเป็นการดูถูกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ใบหน้าที่ปกปิดด้วยเสื้อคลุมของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความโกรธ
ชายชุดดำพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้! เจ้ากล้าพูดจาหยาบคายกับข้างั้น ! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ในขณะที่เขาพูดเขายื่นมือออกไปกลางอากาศ หอกยาวสีขาวราวกับหิมะถูกสร้างขึ้นจากอากาศบาง ๆ และปรากฏขึ้นในมือของเขา ชายชุดดำกรีดร้อง “จงสัมผัสกับความน่ากลัวของหอกแห่งความเงียบงันของข้าซะ!”
ก่อนที่ชายชุดดำจะขว้างหอกของเขา ซูเฉินก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศอย่างกะทันหัน แสงสีขาวราวกับหิมะตัดผ่านทางด้านหลังของซูเฉิน ปักทะลุพื้นเพลิงน้ำแข็งระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ซูเฉินพลิกกลับตัวกลางอากาศ เขาไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
ชายชุดดำประหลาดใจมาก “เจ้า เจ้าหลบหอกแห่งความเงียบงันของข้าได้อย่างไร?”
ปรากฏว่าต้นเหตุของการระเบิดอย่างกะทันหันที่เกิดขึ้นด้านหลังของซูเฉิน ก็คือหอกแห่งความเงียบงัน
นี่เป็นกลวิธีที่ชายชุดดำใช้ เขาใช้คำพูดมากมายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคู่ต่อสู้ ในขณะที่การโจมตีสังหารที่แท้จริงจะทะลวงผ่านเข้ามาด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)