บทที่ 81 ประมือกับผู้มีขั้นพลังด่านกลั่นโลหิต (3)
ในจังหวะที่ซูเฉินชูม้วนคัมภีร์ไปทางอีกฝ่าย หลีก็รับรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีแล้ว
โชคยังดีที่ในช่วงเวลานั้นหลียังคงมีโอกาสที่จะหลบมัน
ทว่าทางด้านซูเฉินเอง เด็กหนุ่มก็ยังคงจับจ้องไปที่อีกฝ่ายไม่วางตา ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสงริบหรี่ออกมา ทำให้จิตวิญญาณของหลีหยุดชะงักไปชั่วขณะ
หลีเป็นปรมาจารย์ภาพมายาและมีความเชี่ยวชาญในการโจมตีทางวิญญาณ ดังนั้นความสามารถในการต้านทานต่อการโจมตีทางจิตของเขาจึงค่อนข้างทรงพลัง นัยน์ตาวิญญาณไม่สามารถรบกวนเขาได้นานนัก
แต่เวลาเพียงเสี้ยววินี้ก็เกินพอแล้ว
ตู้ม!
ม้วนคัมภีร์กางออก กระสุนแสงพุ่งออกไปในอากาศเบื้องหน้า
หลีกระเด็นลอยออกไปราวกับว่าวสายขาด
กระสุนแสงทะลุผ่านร่างของเขา ทิ้งรูไว้ให้เลือดพุ่งออกมา ขณะที่หลี่ร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด ร่างกายของเขาก็กลายเป็นทรายอีกครั้ง
ทรายเปื้อนเลือดปลิวว่อนไปมากลางอากาศ พวกมันพยายามรวมตัวกันกลับเป็นร่างกายอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง
“ต้องการกลับร่างอีกครั้ง? คิดว่าจะทำได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?” ซูเฉินสะบัดมือ และยันต์พลังต้นกำเนิดอีกอันปรากฏขึ้นในมือของเขา ทันใดนั้นสายลมก็เริ่มพัดอย่างรุนแรง
ความแข็งแกร่งของยันต์พลังต้นกำเนิดไม่ได้ทรงพลังเท่ากับคัมภีร์ต้นกำเนิด อย่างไรก็ตาม เพียงแค่คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นจากลมแรงของยันต์พลังต้นกำเนิด มันก็มากเกินพอที่จะจัดการกับทรายที่ลอยอยู่รอบ ๆ ห้องแล้ว
เมื่อสายลมพัดมา ทรายทั้งหมดในอากาศก็กระจัดกระจายออกไป
และเมื่อเม็ดทรายทั้งหลายพยายามจะกลับมารวมกันอีกครั้ง ซูเฉินก็โยนยันต์ลมออกไปอีก
ในขณะเดียวกันซูเฉินก็คว้ายันต์ลูกไฟออกมาและโยนมันออกไป รอบนี้เป้าหมายของเขาคืออสรพิษดำ ที่ซูเฉินแทรกแซงและป้องกันไม่ให้หลีกลับคืนร่างอีกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อจัดการกับอสรพิษสีดำที่น่ารำคาญตัวนี้ วิญญาณหมาป่าของเขาถูกฆ่าไปแล้วถึงสี่ครั้ง มันไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ร่างกายของหลี่จึงยังคงกระจัดกระจายและพยายามรวมตัวกันอยู่ในอากาศ ขณะที่ทรายยังคงกระจายอยู่ หลีก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง “เป็นไปได้อย่างไร … จะเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าพบร่างที่แท้จริงของข้าได้อย่างไร!”
“หืม มันก็ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกใจ” ซูเฉินตอบ “เพื่อให้ร่างที่แท้จริงยังคงถูกปิดบังไว้ ท่านจึงได้ให้ภาพลวงตาของท่านใช้เส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ข้าสามารถบอกได้โดยการมองเพียงแค่แวบเดียว”
แม้ว่าภาพลวงตาของหลีจะดูสมจริงและสามารถสร้างความวุ่นวายได้มากมาย แต่การแสดงออกของหลีเองต่างหากที่เป็นปัญหา สีหน้าที่ดูเจ็บปวด ความเกลียดชังที่อยู่ในดวงตา และการเคลื่อนไหวอย่างดุร้ายของเขาล้วนแตกต่างจากภาพลวงตา แน่นอนว่าซูเฉินสามารถสังเกตได้ถึงความแตกต่างในทันที
เมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย ร่างทรายของหลีตกใจชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่เกิดจากทรายที่รวมกันเผยให้เห็นถึงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “เจ้า … ไม่ใช่ว่าเจ้ามองไม่เห็น?”
แน่นอนว่าหลีสามารถแสดงออกให้แนบเนียนกว่านี้ได้ อย่างไรเสียท้ายที่สุดแล้ว การเคลื่อนไหวและแสดงออกให้เหมือนกับภาพลวงตาก็เป็นคุณสมบัติที่ต้องเชี่ยวชาญ เพื่อใช้ร่วมกับทักษะนี้
แต่มารดาเจ้าเถอะ เจ้าตาบอดไม่ใช่หรือ?
นั่นคือเหตุผลที่ข้าข้ามขั้นตอนนั้นไป!
ทันใดนั้น หลีก็เข้าใจบางอย่างและตะโกนขึ้น “เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ได้ตาบอด เจ้ามองเห็น! เจ้าสามารถมองเห็นได้!”
“ถูกต้อง!” ซูเฉินหัวเราะ
เพื่อเป็นรางวัล ซูเฉินได้โยนยันต์ลูกไฟอีกอันหนึ่งไปยังไม้เท้าอสรพิษดำ
ในฐานะเครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 8 ไม้เท้าอสรพิษดำถือได้ว่าทรงพลังมาก แต่เมื่อต้องเผชิญกับดาบหมาป่าสวรรค์กลืนจันทร์ ซูเฉินผู้ไม่หวงเงินทองของเขา มันก็ไร้พลังโดยสิ้นเชิง
อสรพิษดำดีดดิ้นบิดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ในที่สุดมันก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีต่อเนื่องด้วยลูกไฟจากซูเฉินได้ สุดท้ายภายใต้ลูกไฟจำนวนมาก เจ้าอสรพิษดำก็ส่งเสียงร้องอย่างเศร้าโศกและกลับกลายเป็นไม้เท้า ก่อนที่มันจะแตกออกเป็นชิ้น ๆ แล้วร่วงลงไปบนพื้น
เครื่องมือต้นกำเนิดระดับ 8 เหลือแต่เพียงเศษซากแล้ว
“ไม่!” หลีร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด
“ไม่ต้องกังวลไป ต่อไปก็ถึงตาของท่านแล้ว!” ซูเฉินไม่ได้เตรียมยันต์พลังต้นกำเนิดลมไว้มากมายนัก และในตอนนี้ยันต์ลมที่เด็กหนุ่มมีอยู่ก็หมดไปแล้ว
ซูเฉินดึงเอาหินพลังต้นกำเนิดออกมาดูดซับพลังงาน และฟื้นฟูพลังต้นกำเนิดจำนวนมากที่ได้ใช้ไป จากนั้นเขาก็ปลดผนึกคัมภีร์ต้นกำเนิดอีกเล่มหนึ่ง
นี่คือม้วนคัมภีร์ลูกไฟ
เป็นลูกไฟเช่นเมื่อครู่ แต่ความพลังของมันรุนแรงยิ่งกว่ายันต์ลูกไฟ เสียง “ตู้ม” ดังขึ้นในจังหวะที่ลูกไฟกระแทกเข้าหาหลี ส่งให้ทรายสีเหลืองปลิวไปทั่วทุกทิศพร้อมเสียงร้องครวญคราง
ทรายสีเหลืองลอยเต็มอากาศกลับมารวมตัวกันในพริบตา คลื่นพลังต้นกำเนิดของการโจมตีบังคับให้หลีกลับคืนร่าง ก่อนจะล้มลงกับพื้น
ภายใต้เสื้อคลุมสีดำของหลี เสื้อคลุมสีเหลืองได้กลายเป็นทรายและไหลไปกองอยู่กับพื้น
“โอ้ เสื้อคลุมมนุษย์ทรายของท่านหายไปเสียแล้ว” ซูเฉินกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
ร่างอวตารทรายไม่ใช่ทักษะต้นกำเนิดของหลี่ แต่เป็นทักษะของเสื้อคลุมมนุษย์ทรายที่เป็นเครื่องมือกำเนิดระดับ 7 ของเขา ทุกครั้งที่หลีพบกับอันตราย ร่างกายของเขาจะกลายเป็นทรายเพื่อหลบเลี่ยงจากการโจมตี และยังสามารถฟื้นตัวจากบาดแผลได้ในระดับหนึ่งเมื่อกลับคืนร่างอีกครั้ง
คุณสมบัติพิเศษของเสื้อคลุมมนุษย์ทรายนี้ มีประโยชน์อย่างมากและสามารถจัดการกับการโจมตีได้หลายรูปแบบ จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวคือถ้ามันถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนรูปลักษณ์ ผู้ใช้จะไม่สามารถกลับคืนร่างได้ชั่วคราว
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าซูเฉินรู้ถึงจุดอ่อนนี้จากเยี่ยเม่ย เขาคงจะไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)