ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1037

ราชันเร้นลับ 1,037 : คำถามของเกอร์มัน
หลังจากฟังคำพูดของมิสจัสติส เดอร์ริคตอบกลับอย่างกระตือรือร้น:

“คลังสมบัติของเมืองเงินพิสุทธิ์น่าจะมีสมองที่สมบูรณ์ของมังกรจิตโตเต็มวัย หลังจากกลับไป ผมจะยืนยันและแจ้งให้ทราบ”

เดิมที มันต้องการจะพูดว่า ถึงจะมีสมองสมบูรณ์ของมังกรจิตโตเต็มวัย แต่ก็ล้วนแล้วเปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่ง เปี่ยมไปด้วยมลพิษทางวิญญาณ แต่หลังจากได้ยินสรรพคุณของไม้กางเขนทองแดง มันรู้สึกว่านั่นคงไม่ใช่ปัญหา

ง่ายขนาดนี้เลย? ดวงตาของออเดรย์ส่องประกาย อารมณ์ที่เคยหดหู่เมื่อคืนสดใสขึ้นมาก

อย่างที่คิด เมื่อเทียบกับข้างนอก เมืองเงินพิสุทธิ์ที่สืบทอดมาจากยุคสมัยที่สอง สามารถหาวัสดุจำพวกมังกรได้ง่ายกว่า… อา… เหตุผลหลักคงเป็นเพราะว่า พวกเขาไม่มีสูตรโอสถในลำดับสูงของเส้นทางนี้ ต่อให้มีวัสดุ แต่ก็คงมิอาจหาทางนำไปใช้งาน แถมยังขาด ‘ช่างฝีมือ’ ไม่มีหนทางเปลี่ยนวัตถุดิบวิเศษให้กลายเป็นสมบัติวิเศษที่สอดคล้องกัน จึงต้องเก็บไว้แบบนั้น… ออเดรย์คิดหลายสิ่ง ถามด้วยรอยยิ้มจางๆ :

“ถ้ามี… คุณต้องการแลกเปลี่ยนกับสิ่งใด?”

“เรื่องนั้น… ผมยังไม่ได้คิด” เดอร์ริครู้สึกละอายใจเล็กๆ เกือบจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอย

เป้าหมายสำคัญในตอนนี้คือ หาอะไรก็ได้มาแลกกับมรดกของพระผู้สร้างจากมิสเตอร์ฟูล แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็หาสิ่งที่มีค่าทัดเทียมไม่ได้

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน มันคงจะเอาแต่กังวล ทว่าในปัจจุบัน เด็กหนุ่มพอจะมีทางออกให้ตัวเอง

เดอร์ริคตัดสินใจจะนำเรื่องนี้ไปถามเจ้าเมือง เพราะอีกฝ่ายคงต้องสนใจมรดกของพระผู้สร้างเช่นกัน

เมื่อผุดความคิดนี้ เดอร์ริคจึงไม่ทราบว่าตนจะเรียกร้องสิ่งใดจากมิสจัสติส จึงวางแผนจะจัดแจงหลายๆ สิ่งให้เรียบร้อยค่อยมอบคำตอบกับอีกฝ่าย

“ตกลง… คุณไปยืนยันให้แน่ใจก่อน และช่วยมองหาเลือดของมังกรจิตโตเต็มวัยไปด้วยเลย” ‘จัสติส’ ออเดรย์ไม่เซ้าซี้ เพียงพยักหน้าเบาๆ

เหล่านี้คือวัตถุดิบเสริมที่ยากที่สุดในสูตรโอสถนักท่องฝัน

ออเดรย์มองไปรอบๆ สื่อเป็นนัยว่าตนเสร็จแล้ว

อย่ามองมาทางนี้… แม้ว่าฉันจะมีเงินเก็บมาก แต่ยังไม่มีอะไรที่ต้องการซื้อ… นั่นเพราะอาจารย์ยังไม่ได้ให้สูตรโอสถนักท่องเที่ยวกับฉัน… สำหรับเส้นทางผู้ฝึกหัด ในห้าลำดับแรก เราชอบนักท่องเที่ยวมากที่สุด เมื่อก่อนเคยฝันถึงทิวทัศน์อันงดงามและอาหารในสถานที่ต่างๆ … แต่หากไม่มีพลังพิเศษ การเดินทางส่วนใหญ่มักยาวนานหรือไม่ก็แออัด ไม่มีใครทราบว่าโรงแรมเล็กๆ ระหว่างทางสะอาดหรือไม่ และกระเป๋าเดินทางที่เทอะทะจะทำลายอรรถรสไปมาก… ถ้าได้เป็นนักท่องเที่ยวเมื่อไร สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป… ท่ามกลางกระแสความคิด ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สค่อยๆ จินตนาการถึงชีวิตในอนาคต

‘จัดจ์เมนต์’ ซิลครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูด:

“ทุกคน… รบกวนช่วยมองหาสูตรโอสถของลำดับ 6 ผู้พิพากษาและลำดับ 5 อัศวินวินัยของเส้นทางผู้ตัดสินให้ด้วย”

อันที่จริง ซิลมีโอกาสได้รับสูตรโอสถผู้พิพากษาจากเจ้าหน้าที่ของ MI9 แต่เธอเชื่อว่า การตายของไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดจะทำให้พายุในกรุงเบ็คลันด์ก่อตัวขึ้นอย่างมิอาจเลี่ยง เมื่อถึงตอนนั้น หลายสิ่งหลายอย่างอาจเปลี่ยนแปลงไป เธอจึงกันเหนียวด้วยการพึ่งพาชุมนุมทาโรต์ ฝากฝังให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา

นอกจากนั้น ลำดับ 6 และลำดับ 5 ถือเป็นระดับกลางค่อนไปทางสูงสำหรับ MI9 หากสายข่าวของกองทัพต้องการสูตรโอสถลำดับเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ถูกสอบประวัติใหม่ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ ‘ผู้ประสานงาน’ อย่างชายสวมหน้ากากทอง จะช่วยเหลืออะไรได้

ซิลผู้กระตือรือร้นที่จะเลื่อนลำดับเพื่อให้ล่วงรู้ความลับของกษัตริย์ เดาได้ไม่ยากว่า ความหวังของเธอคงมิอาจฝากไว้กับกองทัพได้เพียงอย่างเดียว

“ตกลง” ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ตอบเป็นคนแรก

อาศัยอิทธิพลของราชวงศ์และกองทัพ โบสถ์วายุสลาตันน่าจะมีสูตรโอสถบางอย่างสำหรับเส้นทางผู้ตัดสิน จริงอยู่ เรื่องแบบนี้อาจอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของ ‘ลำดับ 6’ ผู้เป็นกัปตันโจรสลัดนอกเครื่องแบบ แต่เมื่อใดที่แฮงแมนกลายเป็นลำดับ 5 และถูกเรียกตัวไปกลับโบสถ์ หรือได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญอื่นๆ ย่อมมีโอกาสได้พบเบาะแสของสูตรโอสถมากขึ้น

ตามต่อด้วย ‘เฮอร์มิท’ แคทลียา

“สูตรโอสถเส้นทางผู้ตัดสินถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยราชวงศ์และกองทัพโลเอ็นกับเฟเนพ็อต ไม่ค่อยปรากฏออกสู่โลกภายนอกมากนัก แต่ฉันสามารถหามาให้คุณได้ เพียงแต่ว่าไม่รับประกันด้านเวลา และหากคุณต้องการจริงๆ ฉันสามารถหาสมบัติวิเศษลำดับผู้พิพากษา จากนั้นก็นำมาบดขยี้และรอให้พวกมันรวมตัวกันใหม่ กลายเป็นตะกอนพลังที่สอดคล้องกัน”

เมื่อเอ่ยถึงการบดขยี้และรอให้รวมตัวกันใหม่ แคทลียาอยากจะหมุนครึ่งตัวตามจิตใต้สำนึกและกล่าวว่า มิสจัดจ์เมนต์สามารถขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์ฟูลได้ แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจปิดปากเงียบ

สำหรับวิธีหาสูตรโอสถ เรื่องราวไม่ซับซ้อน ขอเพียงเป็นฝ่ายริเริ่มฟังคำพูดของปราชญ์เร้นลับ ยอมรับความรู้มหาศาลที่พรั่งพรูเข้ามา ในฐานะลำดับ 4 ในฐานะราชินีโจรสลัดครึ่งเทพ ความสามารถในการรับความรู้ของเธอเพิ่มขึ้นมากในเชิงคุณภาพ

แต่ปราชญ์เร้นลับไม่ใช่ตัวตนที่ปราศจากสติปัญญา มันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอิทธิพลที่แง่ลบให้กับความรู้ที่ตัวเองพล่ามออกมา รวมไปถึงการส่งพลังผ่านข้อมูล ทำให้ผู้ฟังถูกกัดกร่อน ดังนั้น กิจกรรมดังกล่าวจึงยังค่อนข้างอันตราย แต่สาเหตุที่แคทลียายังกล้าเสี่ยง ไม่ใช่เพราะเธอประมาทหรือหยิ่งผยอง แต่เป็นเพราะเธอคือสมาชิกของนิกายมอสส์

เนื่องจากเป็นองค์กรลับโบราณที่เชื่อในปราชญ์เร้นลับ เหล่าเบื้องบนของนิกายมอสส์ได้ค้นพบวิธีบรรเทาผลข้างเคียงของเสียงพล่าม จึงค่อยๆ พัฒนาวิธีการ ‘ฟัง’ ที่ค่อนข้างปลอดภัย และในเวลาเดียวกัน ปราชญ์เร้นลับก็มิได้จงเกลียดจงชังคนของนิกายมอสส์มากนัก ไม่มีความคิดริเริ่มที่จะทำอันตราย ส่วนใหญ่เป็นเพียงการเผยแพร่ความรู้ที่บริสุทธิ์ ปล่อยให้พวกความรู้เหล่านั้นไล่ล่าเหล่าสาวก

สำหรับแคทลียา ขอเพียงควบคุมจำนวนและความถี่ เธอสามารถรับความรู้จากปราชญ์เร้นลับได้อย่างค่อนข้างปลอดภัย ในส่วนของผลกระทบและการกัดกร่อนๆ ที่เกิดขึ้น เธอเริ่มสงสัยว่า ทุกครั้งที่ตนเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ ขั้นตอนในการแหวกผ่านสู่หมอกสีเทาช่วยลบการกัดกร่อนได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ปัญหาเดียวก็คือ ประเภทของความรู้ที่ได้รับจะอยู่เหนือการควบคุมของเธอ ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความปรารถนาของปราชญ์เร้นลับในตอนนั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือพิธีกรรมพันธสัญญาลับที่มิอาจต้านทาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ