ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1047

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1047 : ระดมสมอง: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ตอน ราชันเร้นลับ 1047 : ระดมสมอง จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ราชันเร้นลับ 1047 : ระดมสมอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ราชันเร้นลับ 1,047 : ระดมสมอง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ดันเตสไปไหนหรือคะ?” ออเดรย์ยิ้มอย่างสุภาพ ซักถามบุรุษรับใช้ลูกครึ่งโลเอ็นและไบลัมตะวันออก

เอ็นยูนตอบอย่างสุภาพ:

“นายท่านไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้คงใกล้จะกลับมาแล้ว คุณหนูจะรอไหม?”

“ได้ค่ะ” ออเดรย์เลือกนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจ

ว่ากันตามตรง หากปัญหามีเพียงตัวเฮอร์วิน·แรมบิส เธอมีความคิดหนึ่งในใจอยู่แล้ว นั่นคือการสะกดจิตตัวเองล่วงหน้า เมื่อใดที่เฮอร์วิน·แรมบิสย้อนกลับมารับฟังคำตอบ เหตุการณ์ดังกล่าวจะดลใจให้เธอกระตุ้นยันต์ของเกอร์มัน·สแปร์โรว์โดยปราศจาก ‘เจตนาร้าย’ และหลังจากนั้นก็ร่วมมือกับนักผจญภัยเสียสติเพื่อล่าครึ่งเทพ

ฮึ! เพื่อกันเหนียว เรายังสามารถขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาดามเฮอร์มิทได้เช่นกัน ตอนนี้เธอกลายเป็นครึ่งเทพเรียบร้อยแล้ว สามารถรอซุ่มโจมตีในความมืด ผนึกกำลังกับมิสเตอร์เวิร์ลท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ หากต้องรับมือกับทั้งคู่พร้อมกัน เฮอร์วิน·แรมบิสไม่น่าจะรอด… ออเดรย์เม้มริมฝีปาก อดใจไม่ให้ขบกรามตัวเอง

ส่วนคำถามที่ว่า มาดามเฮอร์มิทจะเดินทางมายังเบ็คลันด์ได้อย่างไร ออเดรย์ไม่มองว่าเป็นปัญหา เพราะตนสามารถเช่า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ และให้ ‘เดอะเวิร์ล’ บันทึกพลังเทเลพอร์ต จากนั้นก็สวดวิงวอนให้มิสเตอร์ฟูลส่งไปถึงมืออีกฝ่าย

แต่ถ้าทำแบบนั้น แม้เฮอร์วิน·แรมบิสจะหลบหนีไม่สำเร็จ แต่ถ้าถามว่าใครเป็นคนฆ่า สมาคมแปรจิตก็คงสงสัยบุคคลสุดท้ายที่ครึ่งเทพรายนี้ติดต่อ นั่นคือตัวออเดรย์เอง

และนั่นแปลว่า อนาคตของเราจะเต็มไปด้วยปัญหา… ดวงตาออเดรย์ขยับเล็กน้อย พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง

ทันใดนั้น ดอน·ดันเตสกับจอนสีขาวและมาดสง่างามเดินกลับจากห้องน้ำ มันส่งยิ้มพลางกล่าวทักทายสตรีผู้สูงศักดิ์ที่นั่งรออยู่

หลังจากสั่งให้บุรุษรับใช้เอ็นยูนเดินไปเฝ้าประตู เศรษฐีหน้าใหม่มองไปรอบๆ ก่อนจะถอนสายตากลับมาทางออเดรย์:

“ดูเหมือนคุณจะเจอปัญหา?”

ออเดรย์ไม่พยายามถอดความนับจากประโยคของมิสเตอร์เวิลด์ เพียงตอบอย่างใจเย็น:

“ค่ะ…”

เธอเรียบเรียงสิ่งที่ได้พบเจอและอธิบายอีกครั้ง จนในที่สุดก็กล่าว:

“ดิฉันต้องทำอย่างไรจึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้?”

แก้ไขปัญหาหมายถึง จะไม่มีความวุ่นวายตามมาในอนาคต

ไคลน์ยิ้มและตอบ:

“ทำไมคุณไม่ปรึกษากับสตรีทั้งสองล่ะ?”

จริงด้วย! เหมือนกับที่มิสเตอร์มูนทำ ขออนุญาตจัดชุมนุมย่อย… ซิลกับฟอร์สที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงต้องตอบตกลงแน่ นอกจากพวกเธอ เราต้องชวนมิสเตอร์เวิร์ล มิสเตอร์แฮงแมน มาดามเฮอร์มิท มิสเตอร์มูน… อึก… ตัดมิสเตอร์มูนออกไปก่อน… ออเดรย์รู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก

ทันใดนั้น เธอรู้สึกได้ว่าตนไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง

“เข้าใจแล้วค่ะ” ออเดรย์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส

หญิงสาวนึกถึงคำถามอื่นทันที รีบหาโอกาสถาม:

“เฮอร์วิน·แรมบิสสั่งให้ดิฉันเลิกต่อต้านความปรารถนาดีจากเหล่าเจ้าชาย แถมยังบอกให้เยินยอพวกเขาต่อหน้าพ่อกับแม่ จุดประสงค์คืออะไร?”

ไคลน์ไตร่ตรองสักพัก:

“อาจหมายถึงการแสดงความเป็นมิตรอย่างเปิดเผย… ทำให้บิดาของคุณซึ่งเชื่อมโยงกับโบสถ์รัตติกาลใจอ่อนและคล้อยตาม… ไม่ว่ากษัตริย์จะมีความลับแบบใด แผนการจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ในท้ายที่สุด พระองค์ต้องได้รับการสนับสนุนจากศาสนจักรใหญ่อย่างน้อยหนึ่งแห่ง เพื่อที่จะลดทอนเสียงคัดค้าน”

“อย่างนี้นี่เอง…” ออเดรย์ไม่โต้แย้งข้อสันนิษฐานของมิสเตอร์เวิลด์ เพราะถ้าลอกเปลือกนอกที่หุ้มด้วยพลังพิเศษออก สิ่งเหล่านี้คือเกมการเมืองที่เธอคุ้นเคย

เธอไม่แช่อยู่นานนัก รีบกลับไปที่ห้องทำงานตัวเอง หลังจากจัดการกับชีวิตประจำวันเสร็จ หญิงสาวอาศัยช่วงเวลาพักเที่ยงเพื่อสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูล ขอจัดชุมนุมย่อย

เหนือสายหมอกสีเทาไร้ขอบเขต แสงสีแดงเข้มสว่างขึ้นรอบๆ โต๊ะทองแดงยาวลวดลายโบราณ

ออเดรย์มองไปรอบๆ ก่อนจะลุกขึ้นคำนับสมาชิกที่เหลือ:

“ทุกคนคะ… ดิฉันมีบางเรื่องที่อยากฟังความเห็นของทุกคน”

“เรื่องด่วนสินะ” ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์พยักหน้าเล็กน้อย ตอบกลับห้วนๆ

‘จัสติส’ ออเดรย์นั่งลงและพูด

“ใช่ค่ะ”

จากนั้น เธอก็มองไปทาง ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลและ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส

ทดสอบ? เราผ่านการทดสอบอะไร? ตอนไหน? ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สยังคงสับสน ส่วน ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลกำลังครุ่นคิดหลายสิ่ง โดยเฉพาะที่มาของเศษกระดาษซึ่งมีพระนามเต็มของมิสเตอร์ฟูลเขียนไว้ รวมถึงประสบการณ์เมื่อครั้งจ้างคนมาขับไล่วิญญาณ

เข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงตงิดใจว่าพวกเธออาจจะรู้จักกัน… และเข้าใจแล้วว่าทำไมมิสจัดจ์เมนต์เพิ่งได้เข้าชุมนุมทีหลังคนอื่น นั่นเพราะเธอได้รับบททดสอบที่แตกต่างออกไป… แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว… นี้คือเกณฑ์การคัดเลือกของชุมนุมทาโรต์หรือ? แล้วเรามีอะไร? แคทลียาตกตะลึงพลางคาดเดา

ได้เห็นฉากตรงหน้า อัลเจอร์ที่มองเห็นภาพรวมมาสักพักแล้ว หัวเราะในลำคอและกล่าว

“ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง มิสจัสติส… คำถามของคุณคือ… วิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับเฮอร์วิน·แรมบิส?”

“ใช่ค่ะ” ‘จัสติส’ ออเดรย์วกกลับเข้าประเด็น ซักถามอย่างจริงจัง “ไม่เพียงจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับเฮอร์วิน·แรมบิส แต่ต้องทำให้สมาคมแปรจิตไม่สงสัยดิฉัน… ตอนนี้ควรทำยังไงดี”

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ยังไม่มีประสบการณ์รับมือกับครึ่งเทพ ได้แต่อาศัยความรู้ความเข้าใจที่บ่มเพาะมาเนิ่นนาน

“ล็อกตำแหน่งเฮอร์วิน·แรมบิส จากนั้นก็ลงมือหลังจากที่เขาไปพบคนอื่น?”

“ล็อกด้วยวิธีใด…” ‘จัสติส’ ออเดรย์ถามเอง ก่อนจะตอบเอง “หลังจากรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับมิสจัดจ์เมนต์และมิสเมจิกเชี่ยนให้เฮอร์วิน·แรมบิสทราบ รอจนกระทั่งเขาจากไป ดิฉันต้องรีบเอ่ยพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของมิสเตอร์ฟูล ขอให้พระองค์ช่วยเฝ้ามองครึ่งเทพตนนี้?”

ในทางทฤษฎีก็ทำได้… ‘มุมมองเทพ’ บนมิติหมอกของเราเห็นได้ไกลเกือบสิบกิโลเมตร ตราบใดที่เฮอร์วิน·แรมบิสไม่เทเลพอร์ต เราก็สามารถระบุที่อยู่และวิถีของมันได้ในระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นก็ส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริง เทเลพอร์ตไปจัดการตรงๆ … อา… คงต้องทำนายยืนยันความปลอดภัยให้แน่ใจเสียก่อน… แต่ปัญหาคือ การทำแบบนั้นจำเป็นต้องให้เดอะฟูลแทรกแซงโดยตรง… ไคลน์ซึ่งอยู่ในร่างเกอร์มัน·สแปร์โรว์ กล่าวเสียงแหบแห้ง:

“ขอเตือนไว้หนึ่งเรื่อง มิสจัดจ์เมนต์และมิสเมจิกเชี่ยนเคยเอ่ยถึงอาดัมในโลกความจริง… สมาคมแปรจิตนั้นมีต้นกำเนิดจากการขุดค้นซากโบราณสถานของเฮอร์มิส และเฮอร์มิสคือสมาชิกของ ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ … หนึ่งในผู้ก่อตั้งสภานักสิทธิ์สนธยาคืออาดัม มิสเตอร์เดอะฟูลไม่ต้องการเป็นศัตรูกับสภานักสิทธิ์สนธยาเพราะเรื่องนี้… แผนการของพวกเรา หากเป็นไปได้ก็ห้ามเผยตัว”

ปริมาณและความสำคัญของข้อมูลในประโยคเมื่อครู่ ทำให้แม้แต่ ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาและคนที่เหลือ พลันรู้สึกว่าสมองกำลังปั่นป่วน กระทั่ง ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลและ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สก็ยังตื่นตระหนกตกใจ

องค์กรลับดังกล่าวมีชื่อว่า ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ นี่เอง… มิสเตอร์ฟูลไม่อยากเป็นศัตรูกับสภานักสิทธิ์สนธยาเพราะเรื่องนี้… นั่นเพราะพวกเขาเพิ่งร่วมมือกับ ‘เทวทูตจินตภาพ’ อาดัมเพื่อวางแผนจัดการอินซ์·แซงวิลล์? ไม่คิดว่าสมาคมแปรจิตจะมีความเกี่ยวข้องกับสภานักสิทธิ์สนธยา… เดี๋ยวนะ… เฮอร์มิส? เขายังมีชีวิตอยู่? แถมยังเป็นสมาชิกของสภานักสิทธิ์สนธยา? องค์กรดังกล่าวเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตอย่างแท้จริง… ยังมีใครที่เรานึกไม่ถึงอีกไหม? ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ชำเลืองไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์เล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางแคทลียาอย่างอดไม่ได้

มันพบว่าฝ่ายหลังเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน และนี่ไม่ใช่การเสแสร้ง

“สภานักสิทธิ์สนธยา… คือองค์กรลับโบราณที่จักรพรรดิโรซายล์เข้าร่วมใช่ไหม?” คล้ายกับ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนเป็นคำถามที่ต้องการคำยืนยัน

‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ให้คำตอบ:

“ถูกต้อง… หลังจากที่กลับสู่โลกแห่งความจริง เป็นการดีที่สุดถ้าจะไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้อีกเลย ไม่อย่างนั้นอาจถูกจับตามองได้ฝ่าย… ถ้าพวกคุณไม่เชื่อใจตัวเอง สามารถขอให้มิสจัสติสช่วยฝังการชี้นำทางจิตได้”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ