โดยปราศจากความลังเล มันโค้งหลังเล็กน้อย ร่างกายบวมพองอย่างเห็นได้ชัด
รูม่านตาแปรเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง จากสีฟ้าอ่อนเป็นสีทอง ตามใบหน้าและหลังมือ ทุกตารางนิ้วของผิวที่เผยให้เห็นพลันถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีเทาคล้ายก้อนหิน
ท่ามกลางเสียงปริแตก เสื้อเชิ้ตสีขาวที่มันสวมอยู่ เสื้อนอกสุภาพสีดำ กางเกงขายาว ทั้งหมดล้วนขาดวิ่นโดยมีเกล็ดมังกรปกคลุมด้านล่าง
เพียงพริบตา เฮอร์วิน·แรมบิสกลายเป็นสัตว์ประหลาดร่างใหญ่ นอกจากส่วนหัวที่ยังคงเป็นมนุษย์ ร่างกายส่วนที่เหลือถูกแปรสภาพโดยสมบูรณ์ ราวกับเป็นมังกรสีเทาอ่อนที่ร่างกายยังพัฒนาไม่เต็มที่
มังกรยักษ์ตัวนี้สยายปีกหนังสีเทาออกจากแผ่นหลังหนึ่งคู่ แขนขาบึกบึน เกล็ดสีเทาบนผิวกายมีรอยสลักลวดลายลึกลับซับซ้อน ลายสามมิติบางส่วนฝังเข้าไปในเนื้อ บางส่วนขยายออกสู่ความว่างเปล่า คล้ายกับเป็นวัตถุที่ไม่ได้มาจากโลกความจริง สร้างความรู้สึกหดหู่และบิดเบี้ยวแก่ผู้พบเห็น นอกจากนั้นยังทำให้ร่างวิญญาณปนเปื้อนความคิดจากก้นบึ้งจิตใจทุกประเภท นึกอยากจะฉีกทำลายตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด
ร่างสัตว์ในตำนานที่ไม่สมบูรณ์ของเส้นทางผู้ชม!
สำหรับครึ่งเทพในเส้นทางอื่น หากไม่ใช่เทวทูต การจะสู้ในร่างสัตว์ในตำนาน จำเป็นต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งและแน่วแน่ ไม่อย่างั้นจะมิอาจควบคุมความบ้าคลั่งและแนวโน้มในการคลุ้มคลั่ง มีโอกาสสูงที่จะเสียสติคาที่ กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวจริง แต่เรื่องราวเหล่านี้ใช้ไม่ได้กับเส้นทางผู้ชม พวกมันมี ‘ปลอบโยน’ ที่สามารถบำบัดจิตใจและดวงวิญญาณ แทบไม่มีโอกาสเผชิญหน้ากับภาวะส่อคลุ้มคลั่ง ดังนั้น ตราบใดที่การต่อสู้ไม่ยืดเยื้อนานไปนัก ครึ่งเทพเส้นทางผู้ชมสามารถใช้ร่างสัตว์ในตำนานได้ตามใจชอบ หากต้องการกลับสู่สภาวะปรกติก็ทำได้ทันที
ฟ้าว!
ความคิดทั้งหมดขอบเขตจิตใต้สำนึกของเฮอร์วิน·แรมบิสกำลังเดือดพล่าน จิตใต้สำนึกบางส่วนพรั่งพรูออกจากร่างกายและหลอมละลายไปกับความว่างเปล่า
ฟ้าว!
สายลมกระโชกพัดผ่านร่างมังกรสีเทาของเฮอร์วิน·แรมบิส พวกมันดูเหมือนทั้งของจริงและภาพมายา
สายลมเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยเจตจำนงบางอย่าง พัดผ่านแพร่กระจายไปทุกทิศทุกทาง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียงพลันเกิดความผิดปรกติที่แตกต่าง บ้างยืนเหม่อลอย บ้างหลบหนีไปที่มุมสวน บ้างฉี่ราดและขาอ่อน บ้างหมดสติคาที่ และบ้างเผยสีหน้าหลงใหลราวกับเป็นแฟนพันธุ์แท้ของมังกร
นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพของ ‘มังกรข่มขวัญ’ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากสัตว์ในตำนาน ของเดิมจะแค่สร้างผล ‘เกรงขาม’ แก่เป้าหมาย แต่ของเฮอร์วิน·แรมบิสพัฒนากลายเป็น ‘ช่วงชิงใจจิต’ ที่มาพร้อมอิทธิพลหลายชนิด!
ฉวยโอกาสที่มังกรข่มขวัญกำลังแผ่ซ่านไปทุกจุด เจตจำนงและความคิดของเฮอร์วิน·แรมบิสแปรสภาพกลายเป็นตัวมันอีกคนหนึ่งที่มีบรรยากาศชั่วร้าย จากนั้นก็เคลื่อนที่ผ่าน ‘ทะเลจิตใต้สำนึกรวม’ ซึ่งผู้วิเศษส่วนใหญ่มองไม่เห็น ตรงดิ่งมันเข้าหาทั้งเกอร์มัน·สแปร์โรว์บนหลังคา และออเดรย์·ฮอลล์ที่มุมสวน ด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง
ในฐานะผู้ชม โดยไม่ต้องเห็นใบหน้าชัดเจน พิจารณาจากบรรยากาศรอบตัวเพียงอย่างเดียว มันสามารถระบุได้ทันทีว่าผู้จู่โจมคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์!
ทันใดนั้น ออเดรย์รีบทำตามคำแนะนำของสองครึ่งเทพแห่งชุมนุมทาโรต์ เดอะเวิร์ลและมาดามเฮอร์มิท นั่นคือการพึมพำเพื่อสะกดจิตตัวเอง:
“ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น… ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น…”
“ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น… ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น…”
เธอต้องการหลีกเลี่ยงความผิดปรกติทางจิตที่จะเกิดขึ้นถ้าจ้องมองร่างสัตว์ในตำนานของเฮอร์วิน·แรมบิสโดยตรง อาจเลวร้ายถึงขั้นคลุ้มคลั่ง
ไม่เพียงเท่านั้น วิธีนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เธอ ‘เห็น’ หรือ ‘สัมผัสถึง’ เฮอร์วิน·แรมบิสร่างชั่วร้ายที่ลักลอบเข้ามาในโลกแห่งจิตผ่านทะเลจิตใต้สำนึกรวม
แต่ทันใดนั้น เฮอร์วิน·แรมบิสภายใน ‘เกาะแห่งจิตใต้สำนึก’ พลัน ‘คลาดสายตา’ จากหญิงสาวผมสีทองอ่อนอย่างกะทันหัน
ออเดรย์รู้สึกอบอุ่นร่างกายอย่างบอกไม่ถูก ประหนึ่งเดินออกจากถ้ำน้ำแข็งและพบกับแสงแดดจ้า
เธอรีบสลายการสะกดจิตและลืมตาขึ้น ฉากตรงหน้าคือดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าที่ส่องแสงทะลุผ่านเมฆก้อนใหญ่ เกิดเป็นภาพแสนวิจิตรตระการตา ท่ามกลางความรู้สึกที่คมชัด ดอกไม้ที่เหลือรอดจากฤดูใบไม้ร่วงยังเบ่งบานอย่างเงียบงันไปตามธรรมชาติ
ออเดรย์มองไปรอบตัวด้วยสีหน้าเหม่อลอย ไม่แต่ก็พบเฮอร์วิน·แรมบิส ไม่พบเกอร์มัน·สแปร์โรว์ และไม่พบพระจันทร์สีแดงขนาดใหญ่
ฉากตรงหน้าทำให้หญิงสาวรู้สึกราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน
“เป็นพลังที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้… การต่อสู้ระหว่างสองครึ่งเทพกลับไม่ทำร้ายดอกไม้แม้แต่หนึ่งดอก” ออเดรย์พึมพำกับตัวเอง เดินออกจากสวนอย่างสงบ กลับไปยังทางเชื่อมระหว่างสวนกับตัวอาคาร
เธอกังวลว่า หากตนอยู่ที่นั่นด้วย เกอร์มัน·สแปร์โรว์จะสู้ได้ไม่เต็มที่เพราะต้องคอยระแวง
ภายในโลกแห่งความลับ ร่างแบ่งภาคของเฮอร์วิน·แรมบิสกำลังบุกรุกเกาะแห่งจิตใต้สำนึกของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ภายใต้พระจันทร์สีแดง
ขณะเหยียบลงบนเกาะและเตรียมเปิดประตู ‘กายปัญญา’ เพื่อควบคุมจิตใต้สำนึกของศัตรู เฮอร์วิน·แรมบิสพลันพบว่าเกาะมายาที่กำลังมันยืนนั้นเงียบเกินไป ปราศจากความคิดล่องลอย ปราศจากกระแสความคิดใหม่ แทบไม่มีสิ่งใดอยู่เลย
หุ่นเชิด! เฮอร์วิน·แรมบิสพลันกระจ่าง เมื่อผนวกกับข้อมูลในอดีต มันเริ่มเข้าใจภาพรวมของเกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างคร่าวๆ
มันไม่ตกใจจนเกินพอดี ไม่แสดงความผิดหวังมากนัก ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เฮอร์วิน·แรมบิสกำลังมีความสุขและทวีความมั่นใจ เพราะสำหรับครึ่งเทพเส้นทางผู้ชม ตัวมันสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างหุ่นเชิดกับร่างต้นได้ง่าย ส่งผลให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเกอร์มัน·สแปร์โรว์แทบจะกลายเป็นหมัน
และถึงจะเป็นแค่หุ่นเชิด แต่นายคิดว่าการบุกรุกโลกแห่งจิตของฉันเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์? ดวงตาของเฮอร์วิน·แรมบิสร่างชั่วร้ายในโลกแห่งจิตเริ่มมองกวาด จนกระทั่งพบทางเดินโปร่งใสที่มีไว้ถ่ายทอดความคิดมายังเกาะแห่งจิตใต้สำนึกของหุ่นเชิด ใช่แล้ว สิ่งนี้คือ ‘ด้ายวิญญาณ’ ไม่สิ มันคือสัญลักษณ์แทนด้ายวิญญาณภายในโลกแห่งจิต!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ