ความสิ้นหวังจางหายไปจากดวงตามังกรสีเทาที่ไม่สมบูรณ์ ปีกที่ปกคลุมไปด้วยผิวหนังทิ้งตัวลงตามธรรมชาติ ดูราวกับเป็นหมาบ้านเชื่องๆ
เฮอร์วิน·แรมบิส หนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมแปรจิต ครึ่งเทพแห่งเส้นทางผู้ชม ได้สูญเสียชีวิตของมันและกลายเป็นหุ่นเชิดของไคลน์!
ไคลน์ไม่มัวชื่นชมนานนัก รีบสลับตำแหน่งกับ ‘ผู้ชนะ’ เอ็นยูนที่อยู่ใกล้มังกรสีเทา และเพียงพริบตา เกอร์มัน·สแปร์โรว์ในชุดกันลมสีดำและหมวกผ้าไหมได้ปรากฏตัวขึ้นในจุดดังกล่าว
จากนั้น มันควบคุมหุ่นเชิดตัวใหม่เพื่อใช้พลังรักษา ‘โรคติดต่อทางจิต’
สายลมเย็นพัดผ่านแผ่วเบาไปทั่วทะเลจิตใต้สำนึกรวม อากาศอันเย็นเยียบแทรกซึมเข้าไปในเกาะแห่งจิตใต้สำนึกของไคลน์ ส่งผลให้ชายหนุ่มรู้สึกว่า สิ่งแปลกปลอมภายในจิตใจที่คอยกัดกร่อนและแปลกแยก ค่อยๆ ถูกขจัดออกทีละนิดด้วยมีดผ่าตัด
ไคลน์ที่เคยมีสีหน้าบิดเบี้ยวเริ่มกลับมายิ้มแย้ม เป็นอีกครั้งที่มันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวราวกับวิญญาณถูกฉีกออกจากกัน
นับว่าโชคยังเข้าข้าง ในกระบวนการสร้างกระสุนคุมวิญญาณและยันต์วันวานอีกครั้ง มันคุ้นเคยกับความรู้สึกเจ็บปวดระดับนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ได้ยกมือขึ้นมาจับหัวและเกลือกกลิ้งไปบนพื้น
หลังจากแยก ‘เชื้อโรค’ ทางจิตออกจากจิตสำนึกที่ติดเชื้อ สายลมเย็นๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นที่ทำให้ผู้คนอยากงีบหลับ ร่างวิญญาณที่บาดเจ็บของไคลน์เริ่มผ่อนคลาย ประหนึ่งได้แช่ตัวในอ่างอาบน้ำอุ่นหลังจากเหน็บเหนื่อยมาทั้งวัน ร่างกายและจิตใจกลับมากระชุ่มกระชวยและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งอาการป่วยทางจิตหายเป็นปลิดทิ้ง สายลมที่พัดผ่านทวีรุนแรงขึ้นอย่างกะทันหัน พัดกวาดไปทั่วโลกแห่งจิตและกำจัด ‘เชื้อโรค’ ทั้งหมดที่หลงเหลือในอากาศ
จัดการทั้งหมดเสร็จ ไคลน์เปลี่ยนให้มังกรสีเทาหดตัวกลับ ลดทอนความเป็นเทพและกลับไปเป็นมนุษย์
ทว่า เนื่องจากเสื้อผ้าของเฮอร์วิน·แรมบิสถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เกล็ดสีเทาบนร่างกายจึงยังไม่ถูกขจัดออกไป
ไม่กี่วินาทีถัดมา ในชุดคลุมแสนธรรมดาและเส้นผมสีดำปล่อยตามธรรมชาติ อาเรียนน่า หัวหน้านักบวชแห่งรัตติกาลซึ่งสวมเข็มขัดเปลือกไม้ เดินจากพระจันทร์สีแดงดวงใหญ่ ก้าวเท้าไปบนความว่างเปล่าจนกระทั่งหยุดลงด้านข้างเฮอร์วิน·แรมบิสในแนวเฉียงจากด้านบน
เพียงเทวทูตรายนี้ยื่นมือขวาออกและทำท่าจับเบาๆ วิญญาณที่คลุมเครือของเฮอร์วิน·แรมบิสพลันถูกกระชากออกจากร่างกายและลอยเหนือศีรษะ
“ทำไมเจ้าถึงช่วยจอร์จที่สาม” อาเรียนน่าถามเข้าประเด็นทันที
สีหน้าที่สับสนของเฮอร์วิน·แรมบิสเริ่มจริงจัง:
“นี่คือทางเลือกของกระแสเวลา เป็นชะตากรรมที่มิอาจเลี่ยง พวกเราแค่ไหลไปตามกระแสและคอยให้คำแนะนำเล็กน้อย เพื่อให้กระแสเวลาพัดพาไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
คำตอบมาตรฐานของสภานักสิทธิ์สนธยา… ดูเหมือนว่า พวกครึ่งเทพของสมาคมแปรจิตก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของอาดัมคืออะไร… แม้แต่ในหมู่สมาชิกระดับสูงของสภานักสิทธิ์สนธยา ส่วนใหญ่ก็คงไม่ทราบ… อาศัยคุณสมบัติของโลกแห่งความลับ ไคลน์ไตร่ตรองโดยไม่ต้องกังวลภายหลัง
อาเรียนน่ามิได้เผยความประหลาดใจ ยังคงถามต่อไป
“กระแสเวลาถัดไปคืออะไร?”
เฮอร์วิน·แรมบิสตอบด้วยสายตาเหม่อลอยแต่สีหน้าเคร่งขรึม:
“สงคราม… สงครามที่กวาดล้างโลก”
นี้มัน… ความสงบสุขไม่ดีตรงไหน? ไคลน์ขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะรำพัน
สงครามโลกจะนำมาซึ่งความบอบช้ำแบบใดต่อมนุษยชาติ มันค่อนข้างชัดเจน
ชายหนุ่มเพียงหวังว่า การตามสืบสวนของตนและโบสถ์รัตติกาล จะสามารถไขกุญแจของปริศนานี้ได้โดยเร็ว และช่วยป้องกันการแพร่กระจายของสงครามที่ถูกส่งเสริมโดยสภานักสิทธิ์สนธยา
อาเรียนน่าเงียบงันสักพัก จากนั้นก็ถาม
“ความลับของจอร์จที่สามคือสิ่งใด”
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเฮอร์วิน·แรมบิสทันที:
“กษัตริย์ทุกพระองค์จะถูกผูกมัดด้วยสัญญาหลักสามข้อ และห้ามมีลำดับสูงกว่า 5… แต่อาศัยความช่วยเหลือจากพวกเรา พระองค์สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดไปได้ ตอนนี้พัฒนาไปไกลแล้ว แค่รอให้กระแสน้ำแห่งกาลเวลาไหลมาถึง พระองค์ก็จะได้เถลิงบัลลังก์ที่คู่ควร”
สัญญาหลักสามข้อ… หมายถึงอะไร? อา… การที่ห้ามกษัตริย์มีลำดับสูงกว่า 5 นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะท้ายที่สุด ในเมื่อผู้วิเศษต้องการปกปิดศาสตร์เร้นลับจากคนธรรมดา คงเป็นการดีกว่าถ้าตำแหน่งกษัตริย์จะเปลี่ยนมือไปตามอายุขัยปรกติ การที่มีอายุแปดสิบถึงเก้าสิบปีนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ประชาชนสามารถเข้าใจได้ แต่ถ้ามากกว่าร้อยยี่สิบแล้วยังมีชีวิตอยู่ นั่นคงทำให้นักสร้างทฤษฎีสมคบคิดสติแตก… จอร์จที่สามขวนขวายเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตยืนยาว? ด้วยความช่วยเหลือจากสมาคมแปรจิตและนิกายแม่มด? แต่ตามปรกติแล้ว นี่เป็นแค่ข้อจำกัดของกษัตริย์ ไม่ใช่ทั้งตระกูลออกัสตัส พวกมันน่าจะมีเทวทูตเดินดินจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลใดให้ต้องยึดติดกับจอร์จที่สาม… คำถามมากมายผุดขึ้นในใจไคลน์
“จอร์จที่สามยังไม่ได้เป็นครึ่งเทพไม่ใช่หรือ? เจ้ากำลังจะบอกว่าเขาใช้วิธีการบางอย่างตบตาทุกคน?” อาเรียนน่าถามเสียงเรียบ
สำหรับโบสถ์รัตติกาล นี่เป็นเรื่องใหญ่มากมาก หากจอร์จที่สามเป็นครึ่งเทพจริง ทางโบสถ์สามารถติดต่อวายุสลาตันและจักรกลไอน้ำเพื่อจับกุมได้ทันที เพราะลำดับพลังของกษัตริย์คือหลักฐานที่มัดแน่นที่สุด
วิญญาณเฮอร์วิน·แรมบิสพยักหน้าและกล่าว
“ใช่…”
“วิธีการที่ว่าคืออะไร” อาเรียนน่าถามต่อ
เฮอร์วิน·แรมบิสส่ายหัวแผ่วเบาและตอบ
“ผมเองก็ไม่แน่ใจ ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือประธานของเรา ถ้าจำไม่ผิด ครั้งหนึ่งผมเคยได้ยินเขาพูดว่า… เขาอยากให้จอร์จที่สามมีพรสวรรค์มากกว่านี้”
มีพรสวรรค์มากกว่านี้? ฟังคำอธิบายจบ ไคลน์พลันนึกถึงเนื้อหาบางหน้าในไดอารี่ของโรซายล์
ในสายตาของมหาจักรพรรดิ ‘พรสวรรค์’ หมายถึงการมีวิญญาณคล้ายคลึงกับบรรพบุรุษซึ่งเป็นผู้วิเศษลำดับสูง เพราะนั่นจะถูกยอมรับโดย ‘จิตตกค้าง’ ภายในตะกอนพลังและสมบัติปิดผนึกได้ง่ายกว่า ดื่มโอสถได้ง่ายกว่า และลดผลข้างเคียงจากสมบัติปิดผนึกได้มาก
นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบนัก มาพร้อมอันตรายแอบแฝงที่ร้ายแรง เพราะถ้า ‘จิตตกค้าง’ พยายามยึดครองร่างของผู้ดื่มโอสถหรือผู้ถือสมบัติปิดผนึก นั่นคงเต็มไปด้วยปัญหา
และถ้าใครหวังเลื่อนขั้นเป็นครึ่งเทพด้วยวิธีนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดเย็บจิต!
จอร์จที่สามถูกสะกดจิตโดยใครบางคน? หรือว่ายอมรับวิธีนี้ด้วยตัวเอง? ไม่สิ… หากเป็นการสะกดจิต เทวทูตหรือสมบัติปิดผนึกของตระกูลออกัสตัสก็ต้องพบความผิดปรกติแล้ว… ขณะไคลน์เริ่มมึนงง หัวหน้านักบวชที่ลอยอยู่ในอากาศถามต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ