ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1106

กลับถึงโลกความจริง ไคลน์รีบหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาเขียน

“สืบหาเกาะไร้ชื่อที่พรากชีวิตกริมม์ วิลเลียม และโพลี ลองเริ่มต้นจากทายาทของเอ็ดเวิร์ด เบนจามิน อับราฮัม และผู้เสียชีวิตทั้งสามคน”

นี่คือจดหมายที่เขียนถึงราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดต ไคลน์จึงไม่เขียนอธิบายเหตุผล เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจความหมาย

หลังจากพับกระดาษ ไคลน์สุ่มหยิบเทียนไขมาหนึ่งเล่มและเริ่มพิธีกรรม

เมื่อเตรียมการเสร็จ มันวางกระดาษจนหมายไว้บนแท่นบูชา เดินถอยหลังสองก้าว สวดเป็นภาษาเฮอร์มิสโบราณ

“ตัวข้า! ขออัญเชิญในนามของข้า สิ่งมีชีวิตล่องหนซึ่งพเนจรท่ามกลางดินแดนเบื้องบน… วิญญาณพิสดารที่เป็นมิตรกับมนุษย์… ผู้ส่งสารที่เป็นของแบร์นาแดต กุสตาฟแต่เพียงผู้เดียว…”

ทันทีที่สิ้นเสียง สัมผัสวิญญาณของไคลน์ถูกกระตุ้นทันที จึงรีบเปิดเนตรวิญญาณตามจิตใต้สำนึก

แต่มันกลับไม่เห็นอะไรเลย

ทันใดนั้น ชายหนุ่มพบว่าจดหมายบนแท่นบูชาได้หายไปแล้ว

ผู้ส่งสารของราชินีเงื่อนงำพิเศษมาก… คราวหน้าคงต้องลองเปลี่ยนเป็นเนตรด้ายวิญญาณ… ไคลน์ผงะเล็กน้อยในตอนต้น ก่อนจะถอนหายใจยาวด้วยอารมณ์ซับซ้อน

ตกเย็น ท่ามกลางแสงสว่างจากโคมไฟถนน รถม้าคันหนึ่งแล่นตรงไปยังทางแยกระหว่างย่านสะพานเบ็คลันด์กับเขตตะวันออก จากนั้นก็จอดข้างทาง

ฟอร์สซึ่งแต่งกายด้วยเดรสยาวและผ้าคลุมสีดำ จ่ายเงินค่าโดยสารจำนวนสามซูลและลงจากรถม้า จากนั้นก็เดินไปตามเงามืดของถนน เตรียมอ้อมไกลเพื่อสลัดให้หลุดจากผู้แอบสะกดรอยตามในจินตนาการ

หลังจากจบชุมนุมทาโรต์ครั้งล่าสุด เธอขจัดความเกียจคร้านและเก็บกระเป๋าเพื่อออกไปเยี่ยมอดีตอาจารย์ เพื่อนร่วมห้อง และเพื่อนร่วมงาน

สำหรับเหตุผลหรือข้ออ้าง นั่นไม่จำเป็น ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องปรกติที่จะแวะไปเยี่ยมคนรู้จักซึ่งได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศ

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมไม่มาเยี่ยมตั้งแต่สัปดาห์ก่อน นั่นเพราะในสายตาคนทั่วไป กรุงเบ็คลันด์ยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด อาจมีการโจมตีระลอกใหม่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จึงไม่มีใครอยากออกจากบ้าน

เดิมที ฟอร์สเตรียมซักซ้อมบทสนทนาเพื่อชักนำหัวข้อไปสู่ตำนานภูตผีตามโรงพยาบาล แต่ใครจะไปคิดว่าการเตรียมตัวดังกล่าวสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง เพราะไม่ว่าจะอดีตอาจารย์ อดีตเพื่อนร่วมงาน หรืออดีตเพื่อนร่วมรุ่น ทุกคนล้วนเป็นฝ่ายชวนคุยเกี่ยวกับตำนานภูตผีด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออาศัยอยู่แถวไหน แต่ตำนานภูตผีของโรงพยาบาลใหญ่ก็จะถูกเล่าไปในทำนองเดียวกัน ประหนึ่งภาพหลอนดังกล่าวเคยเกิดขึ้นจริง

ไม่สิ ฟอร์สเชื่อว่านี่ไม่ภาพหลอน จึงเริ่มกังวลว่าประสบการณ์สยองขวัญดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับตัวเองในคืนนี้

เราไม่ต้องแต่งเติมเพิ่มเลย… รวมทั้งเรื่องที่คนไข้ได้รับการรักษาอย่างมหัศจรรย์และบางแผลทางใจถูกเยียวยา… นอกจากนั้น ฉากและสถานที่ล้วนเป็นของจริงที่ผู้คนต่างคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นกรุงเบ็คลันด์หรือโรงพยาบาลใหญ่ ทุกสิ่งลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ… เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหนังสือขายดีเล่มถัดไป สิ่งเดียวที่ต้องกังวลก็คือ เราไม่มั่นใจว่าจะเขียนนิยายแนวนี้ออกมาได้ดีไหม…

อึก… ปัญหาเดียวก็คือ นิยายเล่มนี้ยังขาดอารมณ์… หรือควรให้คนไข้สาวจุมพิตอย่างเร่าร้อนลงบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเห็ดและวัชพืช? นั่นมันออกจะ… ขณะย่างกราย ฟอร์สไตร่ตรองหลายสิ่งในโหมดความคิดสร้างสรรค์

ทันใดนั้น การมองเห็นของหญิงสาวพร่ามัวเล็กน้อย ร่างหนึ่งโผล่ขึ้นจากเงาดำในจุดที่โคมไฟถนนส่องไม่ถึง

ร่างดังกล่าวสวมเสื้อกันลมสีดำและหมวกทรงกึ่งสูง ใบหน้าผอมเพรียวชัดลึก มอบบรรยากาศเคร่งขรึม หากไม่นับเรื่องที่ยังขาดแว่นตากรอบทองบนดั้งจมูก รูปลักษณ์ที่เหลือล้วนบ่งชี้ว่าเป็นนักผจญภัยเสียสติแห่งห้าห้วงสมุทร เกอร์มัน·สแปร์โรว์

แม้ฟอร์สจะทราบดีว่า เกอร์มัน สแปร์โรว์ไม่ได้มาล่าตน แต่หญิงสาวก็ยังอดไม่ได้ที่จะประหม่า ราวกับกำลังเผชิญหน้าอาจารย์เข้มงวดสมัยเรียน

“ส…สายัณห์สวัสดิ์” หญิงสาวลดความเร็วลง แต่ยังคงเดินเข้าไปทักทาย

ไคลน์พยักหน้าโดยไม่กล่าวคำใด เพียงดินเข้าไปในตรอกเงียบด้านข้างซึ่งปราศจากแสงสว่างเนื่องจากโคมไฟชำรุด

มองเข้าไปในตรอกมืด ฟอร์สเองก็มิได้กล่าวคำใด ก้มหน้าลงและเดินตามเกอร์มัน สแปร์โรว์เข้าไปอย่างไม่รีบร้อน

เมื่อถึงส่วนลึกของตรอก ไคลน์มองไปรอบตัวและกล่าวเสียงต่ำ

“ถามอาจารย์ของเธอว่ารู้จักเบนจามิน·อับราฮัมไหม ถ้าเข้ารู้จัก ผมต้องการข้อมูลทั้งหมด รวมถึงคำพูดและรูปภาพที่อีกฝ่ายทิ้งไว้”

“ต… ตกลง” ฟอร์สประหม่าเล็กน้อย เพราะเธอกำลังรอให้เกอร์มัน สแปร์โรว์เทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งอื่น คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะฝากฝังงานกะทันหัน จึงตอบสนองแทบไม่ทัน

หญิงสาวมิได้ถามถึงเหตุผล เพียงรีบพยักหน้าขานรับราวกับไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหนก็ทำให้

จากนั้น หญิงสาวสูดลมหายใจยาว รอให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์เดินเข้ามาจับไหล่และเริ่มการเทเลพอร์ต

แต่หลังจากผ่านไปหลายวินาที ยังคงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ฟอร์สเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ พบว่ามิสเตอร์เวิร์ลยังคงยืนนิ่งและจ้องหน้าตน

ทันใดนั้น เธอได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของอีกฝ่าย

“เขียนสิ… จดหมายน่ะ”

เขียน… ฟอร์สไม่ถามถึงเหตุผล เพียงตอบตามสัญชาตญาณ

“ฉ…ฉันไม่ได้นำกระดาษ ปากกา ซองจดหมาย หรือตราประทับมา”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ทั้งสี่อย่างถูกโยนมาตรงหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ